
วัดธาตุน้อยศรีบุญเรือง ยุคเดียวกับพระธาตุพนม สร้าง “โบสถ์สแตนเลส” แห่งแรกอีสาน สลักดุนนูนต่ำตำรับช่างสิบหมู่ เข้มขลังสวยงาม หนุนท่องเที่ยวเชิงธรรมะ
18 ส.ค.2567 – ที่วัดธาตุน้อยศรีบุญเรือง หรือชาวบ้านเรียกวัดธาตุน้อย ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม จ.นครพนม พระครูวินัยธรวิวัฒน์ ญาณวัฑฺฒโน อายุ 36 ปี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุน้อยศรีบุญเรือง ได้ร่วมกับพลังศรัทธา มีการพัฒนาบูรณะอุโบสถ์หลังเดิม ที่มีอายุการก่อสร้างมาไม่น้อยกว่า 80 ปี สิ่งที่เพิ่มเติมนอกจากการบูรณะในครั้งนี้ คือความสวยงามแปลกตา โดยว่าจ้างช่างฝีมือตกแต่งโบสถ์ ด้วยงานสแตนเลสทั้งหลัง เน้นความวิจิตรตระการตา ตั้งแต่ฐานรากไปจนถึงหลังคา ที่มีการตกแต่งด้วยลายกนก รวมถึงลายพญานาค ที่เกิดจากการขึ้นรูปงานสลักดุน ตอกให้ยุบและดุนให้สูงเพื่อให้เกิดลวดลายนูนต่ำตามต้องการ ซึ่งเป็นเป็นงานฝีมือหมวดหนึ่งของงานช่างไทย อยู่ในช่างสิบหมู่ ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
ภายในก็ตกแต่งด้วยสแตนเลส พร้อมประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิ ตั้งเป้าคาดต้องใช้งบประมาณก่อสร้างราวๆ 30 ล้านบาท ปัจจุบันการบูรณะคืบหน้าประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ โดยได้ออกแบบภายในสลักดุนเป็นพุทธประวัติ และตำนานองค์พระธาตุพนม โดยรวบรวมพลังศรัทธา บริจาคสมทบทุนจนกว่าจะแล้วเสร็จ
เจ้าอาวาสวัดธาตุน้อยศรีบุญเรือง เปิดเผยว่าวัดธาตุน้อยถือเป็นวัดโบราณสำคัญ ก่อตั้งในยุคเดียวกันกับก่อสร้างองค์พระธาตุพนม อายุเก่าแก่กว่า 2,500 ปี เหตุที่ได้ชื่อวัดธาตุน้อย มีประวัติเล่าว่าเจ้าศรัทธาได้นำสิ่งของแก้ว แหวน เงินทอง รวมทั้งของมีค่า พากันเดินทางไปเพื่อร่วมกันก่อสร้างองค์พระธาตุพนม เมื่อมาถึงบริเวณที่ตั้งวัดธาตุน้อยในปัจจุบัน ในขณะนั้นเป็นป่าทึบชุกชุมด้วยสิงสาราสัตว์ ก็มีม้าเร็วมาส่งข่าวว่าพระธาตุพนมสร้างเสร็จแล้ว กลุ่มเจ้าศรัทธาจึงพร้อมใจกันสร้างเจดีย์ เพื่อบรรจุสิ่งของมีค่าเหล่านั้น จึงเรียกชื่อว่าพระธาตุน้อยมาถึงปัจจุบัน
เจ้าอาวาสวัดธาตุน้อยศรีบุญเรือง ระบุว่า ส่วนพระธาตุน้อยล้มเมื่อใดนั้นไม่ปรากฏ แต่จากคำบอกเล่าของชาวบ้านเล่าสืบๆกันมาว่า ช้างของพระแก้วโกมล เจ้าเมืองเรณูนครได้เลี้ยงไว้ ได้ถูกปล่อยออกมาหากิน จึงวิ่งมาชนกับองค์พระธาตุน้อย ทำให้พระธาตุพังทลายล้มลงทั้งองค์ ต่อมาประมาณปี 2466 ชาวบ้านได้มีการบูรณะใหม่แต่ไม่สำเร็จได้พังลงมาอีก เพราะช่างสมัยนั้นยังขาดความรู้ความชำนาญในการก่อสร้าง ประกอบกับเจอพายุฝนกระหน่ำทำให้เกิดน้ำขังในองค์พระธาตุ และน้ำฝนได้ดันพระธาตุให้แตกพังทลายลงมาตามเดิม ปัจจุบันบริเวณพระธาตุน้อยศรีบุญเรืององค์เดิม เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2566 กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน เพื่อรักษาวัตถุโบราณ ภายใต้องค์พระธาตุไว้ มิให้ผู้ใดมาขุดค้นหาวัตถุโบราณ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของศาสนิกชนชาวพุทธ
เจ้าอาวาสวัดธาตุน้อยศรีบุญเรือง ระบุว่า ส่วนพระธาตุน้อยศรีบุญเรืององค์ใหม่ ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2559 แล้วเสร็จในปี 2563 รูปทรงเป็นการจำลองแบบมาจากองค์พระธาตุพนม ด้านหน้าพระธาตุจะมีรูปปั้นพญาสุวรรณนาคราช และ พญาภุชงค์นาคราช เลื้อยล้อมพระธาตุโดยรอบ เป็นรูปปั้นที่อ่อนช้อยสวยงาม รวมถึงพระแก้วสีแดงนาคปรกทรงเครื่องสามฤดู
ทั้งนี้วัดธาตุน้อยศรีบุญเรือง ตั้งอยู่ระหว่างบ้านศรีบุญเรือง หมู่ 11 และ บ้านธาตุน้อย หมู่ 5 ต.พระกลางทุ่ง อ.ธาตุพนม ริมทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 212 (ถนนชยางกูร) เส้นจากตัวเมืองนครพนมก่อนถึงสามแยกเรณูนคร และเป็นเส้นทางเดียวกับที่ไปวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
คลั่งหลอนยายิงเมียดับ ต่อหน้าลูกสาว-ลูกเขย อ้างฝังแค้น 16 ปี
ผู้ต้องหาให้การอ้างปัญหาความคับข้องสะสมยาวนาน ขณะที่ลูกสาว-ลูกเขยยืนยันเหตุเกิดจากพฤติกรรมของผู้ต้องหาเอง ทั้งเสพยา พกปืน และข่มขู่ผู้ตายจนต้องย้ายไปอยู่บ้านลูก ก่อนเกิดเหตุสลดกลางบ้านพักในนครพนม
6 ปี ไม่เข็ดหลาบ! จับหนุ่มเพิ่งออกจากคุก ขนยาบ้าริมแม่น้ำโขง เกือบ 8 หมื่นเม็ด
เลือดโจรเข้มข้น ตชด.จับศิษย์เก่าเรือนจำ พร้อมยาบ้าเกือบ 8 หมื่นเม็ด รถกระบะใช้ลำเลียง พบผู้ครอบครองเป็นหญิง
ม.นครพนม หนุนวิสาหกิจชุมชนแปรรูป 'ลูกอ๊อด' พัฒนาแบบครบวงจรส่งตลาดอาเซียน
มหาวิทยาลัยนครพนม(มนพ.) โดยสถาบันวิจัยและพัฒนา เดินหน้าส่งเสริมองค์ความรู้และเทคโนโลยีการแปรรูปผลิตภัณฑ์จาก “ลูกอ๊อดและกบ” เพื่อยกระดับอาชีพและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดนครพนม
ตชด.จัดให้! จับหนุ่มคายพิษเองในแชท โม้ส่งยาบ้าเดลิเวอรี่-ท้าอยากเจอตำรวจ
หนุ่มวัย 33 ท้าทาย ตชด.ผ่านแชท “อยากเจอทีมจับเก่ง” โม้อวดเพื่อนส่งยาบ้าให้ลูกค้าทุกวันไม่โดนจับ สุดท้ายเพื่อนแคปส่งต่อถึงตำรวจ ตชด.237
พบพระพุทธรูปปางเปิดโลก ใต้ซากพระธาตุโนนตาล โบราณสถานคู่เมืองท่าอุเทน
คืบหน้าเกี่ยวกับพระธาตุโนนตาล อายุ 123 ปี ตั้งอยู่ภายในวัดพระธาตุหมู่ 9 ต.โนนตาล อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งเป็นพระธาตุโบราณคู่บ้านคู่เมือง โดยกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน อยู่ในความดูแลของสำนักศิลปากรที่ 9 อุบลราชธานี ได้พังทลายลงมาทั้งองค์ เมื่อเวลา 09.41 น. วันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา สร้างความเศร้าโศกเสียใจแก่พุทธศาสนิกชน โดยเฉพาะชาวบ้าน ต.โนนตาล และละแวกใกล้เคียง ที่มีความเคารพศรัทธาต่อองค์พระธาตุโนนตาลเป็นอย่างมาก
พายุพัดถล่มนครพนม ซัดโครงเรือไฟยักษ์พังครืน ล้มขวางถนนริมโขง
พายุฝนถล่มส่งท้ายฤดู ซัดซากเรือไฟยักษ์พังครืน ทับถนนจุดเช็คอินริมน้ำโขง เร่งระดมเคลียร์พื้นที่เปิดการสัญจร

