นาทีระทึก! ผู้ว่าฯบุรีรัมย์-นอภ.บ้านกรวด พาชาวบ้านหนีกระสุนปืนใหญ่เข้าหลุมหลบภัย

นาทีระทึก! ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ นายกเหล่ากาชาด นอภ.บ้านกรวด พาชาวบ้าน เด็ก นร. คนชราวิ่งหนีกระสุนปืนใหญ่เข้าหลุมหลบภัย ขณะลงพื้นที่อำนวยการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย ส่วนใหญ่กระสุนตกในพื้นที่ชุมชน ชาวบ้านเจ็บ 2 ราย ประชาชน 2 หมื่นชีวิต อพยพออกจากพื้นไปศูนย์พักพิงสนามช้างอารีน่า และบ้านญาติ

24 กรกฎาคม 2568 - ที่บริเวณชายแดนอำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ยังได้ยินเสียงกระสุนปืนใหญ่ จรวด BM-21ดังเป็นระยะ ล่าสุดมีรายงานชาวบ้านได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ โจมตีของฝั่งกัมพูชา ลูกกระสุนปืนใหญ่ตกใส่หมู่บ้านเพิ่มอีก 1 ราย รวมล่าสุดขณะนี้ในพื้นที่อำเภอบ้านกรวด มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชารวมจำนวน 2 ราย แต่ยังไม่มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด

ขณะที่ นายเอกวัฒน์ พวงประโคน นายอำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ก็ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกับหลายหน่วยงาน ทำการอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงอันตรายที่ยังตกค้าง ออกไปยังศูนย์พักพิงที่สนามช้างอารีน่า ในตัวจังหวัดบุรีรัมย์อย่างต่อเนื่อง โดยจากข้อมูลพบว่าในพื้นที่ 4 ตำบล คือ ตำบลสายตะกู ต.จันทบเพชร ต.ปราสาท และตำบลบ้านกรวด อ.บ้านกรวด มีประชากรกว่า 2 หมื่นคน ในจำนวนนี้ได้อพยพไปที่สนามช้างอารีน่าประมาณ 8,000 คน ส่วนที่เหลือได้อพยพไปอาศัยตามบ้านญาติในอำเภอต่างๆ ที่ปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเวลาประมาณ 10.30 น. (24 ก.ค.68) ขณะที่นายปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย ภญ.ณัฐรดา ปิจนำ นายกเหล่ากาชาดจ.บุรีรัมย์ และนายเอกวัฒน์ พวงประโคน นายอำเภอบ้านกรวด ได้ลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์ และอำนวยการ ในการอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยที่บ้านสายโท 10 ใต้ ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด แต่จังหวะที่กำลังจะอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ ได้มีเสียงกระสุนปืนใหญ่ตกเข้ามาในหมู่บ้าน 4-5 ลูก ทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด นายกเหล่ากาชาด นายอำเภอบ้านกรวด และปลัดอำเภอ ก็ได้พาชาวบ้าน ผู้สูงอายุ และเด็กนักเรียน วิ่งเข้าไปหลบในหลุมหลบภัยก่อนเพื่อความปลอดภัย แต่ขณะอยู่ในหลุมหลบภัยก็ยังได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังเป็นระยะ

ซึ่งผู้ว่าฯ และนายกเหล่ากาชาด ก็ได้พูดให้กำลังใจชาวบ้าน และเด็กนักเรียน ขณะที่อยู่ในหลุมหลบภัยด้วย จากนั้นรอจนเสียงปืนสงบลง จึงได้พาชาวบ้าน ผู้สูงอายุ และเด็กนักเรียน ขึ้นรถที่จัดเตรียมไว้ และอพยพไปตามเส้นทางที่กำหนดเพื่อเดินทางไปยังศูนย์พักพิงที่สนามช้างอารีน่า ในตัวจังหวัดบุรีรัมย์ ที่จัดเตรียมไว้ แต่เหตุการณ์จุดนี้ทุกคนปลอดภัย

จากนั้นเวลาประมาณ 14.00 น. ก็ได้มีกระสุนปืนใหญ่ ตกใส่ใกล้กับโรงพักโคกกระชาย อ.บ้านกรวด จำนวน 2 ลูก เจ้าหน้าที่ต่างวิ่งหลบเข้าไปในหลุมหลบภัย ซึ่งจุดนี้เจ้าหน้าที่ทุกนายก็ปลอดภัย อย่างไรก็ตามตลอดช่วงบ่ายจนถึงเย็นที่ผ่านมา ก็ยังมีเสียงปืนใหญ่ดังเป็นระยะ รวมล่าสุดมีกระสุนตกในพื้นที่ อ.บ้านกรวด ประมาณ 30 ลูก

ขณะที่ ชาวบ้าน ต่างก็ประณามฝ่ายกัมพูชาว่า ทำไมถึงเลือกยิงใส่ในพื้นที่ชุมชน ทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบโดยตรง ทำให้มีชาวบ้านบาดเจ็บ สัตว์เลี้ยงล้มตาย บ้านเรือนพังเสียหาย ตอนนี้ก็ต้องอพยพออกจากพื้นที่ไปก่อนเพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ก็ได้ให้กำลังใจทหารไทยทุกนายปลอดภัยด้วย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่

นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล

นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน

นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี

นายกฯ สวมชุด อส. นำคณะบินตรวจราชการ จ.บุรีรัมย์ มอบนโยบาย ชรบ.

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม

โถ! ทภ.2 เรียกร้องกัมพูชาหยุดวางทุ่นระเบิด ย้ำธำรงความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อนบ้าน

รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่พื้นที่เกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2568

ชาวบ้านรวมกลุ่มปลูกพืชผักสวนครัว-เมล่อนญี่ปุ่น โกยรายได้งาม

ชาวบ้าน เกษตรกร ชาวอำเภอพลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ รวมกลุ่มปลูกผักและปลูกเมล่อนญี่ปุ่น ปลอดสารพิษ 100% มีตลาดรับซื้อชัดเจน จากอาชีพเสริมกลายเป็นอาชีพหลัก สร้างรายได้หาเลี้ยงครอบครัว ได้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น

หวิดเสียขาที่ 8! ทภ.2 แจงทุ่นระเบิดที่ห้วยตามาเรีย เป็นของเก่ากัมพูชาวางไว้

กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงเหตุการณ์เสียงระเบิดในพื้นที่ห้วยตามาเรีย มีรายละเอียดดังนี้ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 14.20 น. หน่วย ร้อย.ร.1622 ซึ่งปฏิบัติภารกิจในพื้นที่