
อำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ อพยพออกจากพื้นที่เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ หลังกระสุนปืนใหญ่จากฝั่งกัมพูชาตกในพื้นที่กว่า 70 ลูก เจ็บ 2 ราย และยังมีเสียงปืนดังต่อเนื่อง ส่วนผู้สูงอายุที่ต้องทิ้งบ้านมีภาวะเครียด
25 ก.ค. 2568 – ผู้สื่อข่าวบุรีรัมย์รายงานบรรยากาศที่อำเภอบ้านกรวด ซึ่งเป็นอำเภอติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะกันระหว่างกองกำลังทหารไทย และทหารกัมพูชา พบว่าทั้งโรงพยาบาล (รพ.) บ้านกรวด สถานที่ราชการ ธนาคาร สถานีบริการน้ำมัน สถานประกอบการ ร้านค้า ในตัวอำเภอบ้านกรวด ซึ่งมีระยะห่างจากแนวชายแดนเพียงประมาณ 10 กิโลเมตร ได้ปิดให้บริการชั่วคราวและอพยพออกจากพื้นที่แล้วเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์

ส่วนผู้ป่วยใน รพ.บ้านกรวด ได้ทยอยอพยพออกไปอยู่ตาม รพ.ในตัวอำเภอใกล้เคียงตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 ก.ค. และมีคำสั่งให้แพทย์ พยาบาล และบุคลากรเจ้าหน้าที่ทุกคนภายใน รพ.บ้านกรวด ออกจากพื้นที่ตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา หลังจากตลอดทั้งวันมีกระสุนปืนใหญ่ตกเข้ามาในพื้นที่หมู่บ้าน ชุมชนตามแนวชายแดน รวมถึงในตัวอำเภอบ้านกรวดมากถึง 74 ลูก ตลอดคืนที่ผ่านมา จนถึงช่วงเช้าวันนี้ ยังมีเสียงปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบางส่วนดังมาจากชายแดนในพื้นที่ อ.บ้านกรวด บางส่วนดังมาจากชายแดนฝั่งปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เนื่องจากเป็นพื้นที่ใกล้เคียงกัน

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลในขณะนี้ยังไม่มีผู้บาดเจ็บจากเหตุปะทะเพิ่มเติมแต่อย่างใด ยังคงมีชาวบ้านที่บาดเจ็บจำนวน 2 ราย วัวตาย 3 ตัว บ้านพัง 2 หลัง แต่ยังมีชาวบ้านบางส่วนที่สมัครใจอยู่ที่บ้านของตัวเอง เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินและสัตว์เลี้ยง จึงยังไม่อพยพออกจากพื้นที่
สำหรับบรรยากาศที่ศูนย์พักพิงที่สนามแข่งรถในตัวจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นจุดใหญ่รองรับคนได้หลายพันคน ล่าสุดพบว่ามีประชาชนอพยพเข้าไปอยู่ประมาณ 5,000 คน เพราะบางส่วนไปอยู่กับญาติ และกระจายไปตามศูนย์พักพิงอื่นๆ โดยศูนย์พักพิงสนามแข่งรถดังกล่าว มีที่นอน อาหารบริการ 3 มื้อ ห้องน้ำรองรับอย่างเพียงพอ นอกจากนั้นยังมีบุคลากรทางการแพทย์คอยให้บริการตรวจรักษาอาการต่างๆ รวมถึงตรวจสภาพจิตใจของผู้อพยพด้วย

นางสมพร และนางเอียง ผู้สูงอายุที่อพยพมาจากตำบลโนนเจริญ อ.บ้านกรวด บอกว่า หลังจากมีระเบิดตกใกล้หมู่บ้าน ทางเจ้าหน้าที่ให้อพยพออกจากพื้นที่ทันที ทำให้จำเป็นต้องทิ้งบ้าน และสัตว์เลี้ยง แต่มีลูกหลานบางคนที่อาสาอยู่บ้านเพื่อดูแลทรัพย์สิน ซึ่งเป็นห่วงลูกหลานที่อยู่ที่บ้าน พยายามโทรศัพท์ติดต่อกันตลอด ลูกหลานที่บ้านบอกว่ายังได้ยินเสียงปืนใหญ่อย่างต่อเนื่อง ยิ่งรู้สึกเครียดเพราะเป็นห่วงทั้งหลาน ทั้งบ้าน ทรัพย์สิน และสัตว์เลี้ยง ภาวนาขอให้สถานการณ์จบลงโดยเร็ว ไม่อยากให้เกิดการสูญเสียขึ้นอีก ส่วนที่ฝั่งกัมพูชายิงกระสุนปืนใหญ่มาตกในหมู่บ้าน ชุมชน ก็มองว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะสร้างความเดือดร้อนเสียหาย และบาดเจ็บล้มตาย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ครม. อนุมัติหลักเกณฑ์เยียวยาผู้อพยพชายแดน 4.6 แสนครัวเรือน วงเงิน 2.3 พันล้าน
ครม. เห็นชอบหลักเกณฑ์จ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยชายแดนเพิ่มเติม 2.3 พันล้าน จ่ายให้เสร็จภายใน 30 วัน
'บิ๊กเล็ก' พร้อมให้พี่สาว 'จ่าเริง' รับราชการทหารเป็นกรณีพิเศษ
รมว.กลาโหม ร่วมงานศพ "จ่าเริง" ให้กำลังใจครอบครัวทหารกล้า พร้อมให้พี่สาวอายุ 48 ปี รับราชการทหารเป็นกรณีพิเศษ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ แม่ปลื้มจะขอปฏิบัติธรรมหลังจากนี้
สดุดีทหารกล้ารายที่ 23 'พลทหารธนพัฒน์ นันทะวงศ์' พลีชีพที่บ้านหนองจาน
กองทัพภาคที่ 1 ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัว “พลทหาร ธนพัฒน์ นันทะวงศ์” สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เมื่อ 23 ธ.ค.68
ก.ต่างประเทศ เผยคำสัมภาษณ์ 'ทรัมป์' ไม่ได้ชี้ชัดไทยเป็นฝ่ายเริ่มสงคราม
นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์ถึงความขัดแย้งระหว่างไทย - กัมพูชา
ไทยทุบโต๊ะ! ไม่เปลี่ยนที่ประชุม GBC จันทบุรี ชี้จะจบหรือไม่อยู่ที่กัมพูชาต้องทำตามเงื่อนไข
วางไทม์ไลน์ GBC ที่จังหวัดจันทบุรี วันที่ 24 - 27 ธันวาคมนี้ กห.ชี้การหารือครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่อยู่ที่ฝ่ายกัมพูชา ระบุ แถลงการณ์อาเซียน ย้ำชัดถึงความสำคัญในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด หมดเวลากัมพูชาหาข้ออ้าง ชี้ หากยังคงบ่ายเบี่ยง ไทยจะให้ AOT ตรวจสอบ และร่วมประณาม
นายกฯ แจ้ง ครม. ประชุม GBC พรุ่งนี้ ยังไม่ชัดจะจบหรือไม่ ย้ำกัมพูชาต้องขอโทษไทย
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ได้กล่าวในที่ประชุมแสดงความห่วงใยต่อ

