หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ร่วมกับชุด EOD ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ เร่งสำรวจเพื่อพิสูจน์ทราบ เก็บกู้และทำลายระเบิดในพื้นที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชา ชุดเก็บกู้เผยอยากได้ชุดอุปกรณ์เกี่ยวลากวัตถุต้องสงสัยระยะไกล (Hook and Line) เพื่อนำมาใช้งานเนื่องจากส่วนใหญ่ฝังลึกอยู่ในดิน จึงยากต่อการเก็บกู้ ส่วนที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อการใช้ปฎิบัติหน้าที่
13 สิงหาคม 2568 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 3 ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ยังคงปฎิบัติหน้าที่ร่วมกับ หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD)กองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ (EOD กก.สืบสวน ภ.จว.บุรีรัมย์) ออกทำการสำรวจเพื่อพิสูจน์ทราบ เก็บกู้ และทำลายสรรพาวุธระเบิด ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชา ที่ถูกยิงตกลงมาในพื้นที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์
โดยยังคงพบว่าในพื้นที่ตำบลที่มีกระสุนตกของ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชา ทั้งจากการยิงปืนใหญ่ และจรวด BM-21 รวมแล้วมากกว่า 200 ลูก ตกอยู่ในพื้นที่ชุมชน บ้านเรือน และพื้นที่ทางการเกษตร ทั้งที่ระเบิดแล้วและที่ยังไม่ระเบิด ซึ่งได้ตรวจพื้นที่ระเบิดไปแล้วจำนวน 124 จุด มีการทำลายไปแล้ว 1 ลูก และรอการเก็บกู้นำไปทำลายอีก 7 ลูก
เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ฯ จึงได้ทำการเก็บเศษชิ้นส่วนของวัตถุระเบิด พร้อมมาร์กจุดเสี่ยง เพื่อให้สามารถเก็บกู้และทำลายได้อย่างปลอดภัย เพื่อสร้างความสบายใจให้ประชาชนในพื้นที่ โดยเมื่อช่วงบ่ายของวานนี้ (12ส.ค.68) เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ฯ ได้ทำการสำรวจ พิสูจน์ทราบ เก็บกู้ และทำลายสรรพาวุธระเบิด รวมจำนวน 18 จุด เป็นพื้นที่กระสุนปืนใหญ่ 6 จุด และจรวด BM-21 อีก 12 จุด
นอกจากนี้ ยังได้ทำการเก็บกู้กระสุนปืนใหญ่และจรวด BM-21 ที่พบว่าฝังอยู่ในชั้นใต้ผืนดินลึกลงไปไม่ต่ำกว่า 1-7 เมตร ซึ่งยากต่อการเก็บกู้ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ฯ จึงได้ทำการเก็บกู้ โดยการเคลื่อนย้ายวัตถุระเบิดระยะไกล ด้วยชุดอุปกรณ์เกี่ยวลากวัตถุต้องสงสัย (Hook and Line) คือการใช้เชือกและตะขอเกี่ยวสำหรับใช้ เคลื่อนย้ายวัตถุต้องสงสัยออกจากสถานที่ ที่ไม่สามารถทำการเก็บกู้ได้สะดวก โดยสามารถทำงานจากระยะไกล เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ ซึ่งการเก็บกู้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี
อย่างไรก็ตาม พบว่าเจ้าหน้าที่ หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD กก.สืบสวน ภ.จว.บุรีรัมย์ ยังขาดแคลนและมีความต้องการ ชุดอุปกรณ์เกี่ยวลากวัตถุต้องสงสัยระยะไกล (Hook and Line) เพื่อนำมาใช้ในการเก็บกู้ เนื่องจากที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อการใช้ปฎิบัติหน้าที่ เนื่องจากกระสุนปืนใหญ่และจรวด BM21 ที่ตกลงมาในพื้นที่นั้น ได้ตกลงไปฝังลึกอยู่ในชั้นผิวดินมากกว่า 1-7 เมตร ทำให้ยากต่อการเก็บกู้นำมาทำลาย จำเป็นต้องขุดดินลึกลงไป แล้วใช้ชุดอุปกรณ์เกี่ยวลากวัตถุต้องสงสัยระยะไกล (Hook and Line) ซึ่งสามารถเคลื่อนย้ายวัตถุต้องสงสัยในระยะไกล แล้วทำการเกี่ยวลากขึ้นมา ซึ่งเป็นวิธีที่จะเกิดความปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ฯ ผู้ปฎิบัติงาน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่
นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล
นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน
นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี
นายกฯ สวมชุด อส. นำคณะบินตรวจราชการ จ.บุรีรัมย์ มอบนโยบาย ชรบ.
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม
โถ! ทภ.2 เรียกร้องกัมพูชาหยุดวางทุ่นระเบิด ย้ำธำรงความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อนบ้าน
รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่พื้นที่เกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2568
ชาวบ้านรวมกลุ่มปลูกพืชผักสวนครัว-เมล่อนญี่ปุ่น โกยรายได้งาม
ชาวบ้าน เกษตรกร ชาวอำเภอพลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ รวมกลุ่มปลูกผักและปลูกเมล่อนญี่ปุ่น ปลอดสารพิษ 100% มีตลาดรับซื้อชัดเจน จากอาชีพเสริมกลายเป็นอาชีพหลัก สร้างรายได้หาเลี้ยงครอบครัว ได้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น
หวิดเสียขาที่ 8! ทภ.2 แจงทุ่นระเบิดที่ห้วยตามาเรีย เป็นของเก่ากัมพูชาวางไว้
กองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงเหตุการณ์เสียงระเบิดในพื้นที่ห้วยตามาเรีย มีรายละเอียดดังนี้ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 เวลา 14.20 น. หน่วย ร้อย.ร.1622 ซึ่งปฏิบัติภารกิจในพื้นที่


