
12 ก.ย. 2568 – ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครพนมรายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ชนุตร์ ภูเทียมศรี รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ได้รับแจ้งเหตุรถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ บริเวณถนนทางหลวงชนบท สายบ้านนาสมดี-นาราชควาย หลังคณะเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยนครพนม จึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลนครพนม หน่วยกู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนมจุดเมือง ออกตรวจที่เกิดเหตุ
พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย ทราบว่าชื่อนายศุภกร อนุพันธ์ หรือไทด์ อายุ 34 ปี ชาว ต.นาราชควาย อ.เมืองนครพนม ทำงานเป็นพนักงานห้างค้าส่งชื่อดัง ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สกู๊ปปี้ สีเหลือง ทะเบียน 1กต 8244 นครพนม สภาพหน้าผากด้านขวาถูกของแข็งกระแทกจนแก้มและกะโหลกยุบสมองไหล ห่างไปประมาณ 70 เมตร พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าตอนเดียวสีขาวท้ายตู้ทึบ ทะเบียน 1344 สกลนคร ซึ่งเป็นรถบริษัทขนส่งพัสดุเอกชนแห่งหนึ่ง มีรอยเลือดติดจากการเฉี่ยวชนติดบริเวณขอบเหล็กตู้ทึบด้านขวาหลังคนขับ จึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายกฤษดา เป้าเถื่อน อายุ 49 ปี คนขับรถกระบะคู่กรณี ซึ่งเป็นคนหมู่บ้านเดียวกับผู้เสียชีวิต เล่าเหตุการณ์ว่าหลังส่งพัสดุหมดแล้วกำลังเข้ากลับเข้าออฟฟิศ โดยใช้ถนนทางหลวงชนบทสายบ้านนาสมดี-นาราชควาย ขณะนั้นเห็นรถจักรยานยนต์ 2 คันแล่นตามกันมา คันหนึ่งมีหญิงเป็นผู้ขับขี่อยู่ชิดขอบทาง ส่วนอีกคันเป็นชายวิ่งมาด้วยความเร็ว ก่อนจะขับแซงขึ้นมา ซึ่งตรงหน้าจะเป็นทางโค้ง คาดว่ารถจักรยายนต์ที่ผู้ชายขับนั้น หลังจากแซงแล้วจะพยายามเบนเข้าขอบทาง แต่ด้วยถนนที่แคบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอหลังแซงแล้วเป็นจังหวะที่รถยนต์ตนแล่นสวนมา ทำให้พุ่งชนขอบตู้ทึบอย่างจัง ตนจึงจอดรีบลงมาดูพบว่าเสียชีวิตแล้ว
สิ่งที่นายกฤษดาตกใจเป็นครั้งที่สอง คือผู้เสียชีวิตไม่ใช่ใคร นอกจากเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันแล้ว ยังเคยเป็นเพื่อนร่วมงานกันมาก่อน เพียงแค่อยู่คนละแผนกเท่านั้น รู้สึกเสียใจที่เพื่อนต้องมาเสียชีวิตแบบนี้ แต่มันเป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่คาดคิดจริงๆ ยอมรับพอเห็นหน้าก็ทำอะไรไม่ถูกเลย
ขณะเดียวกัน นางดารารัตน์ อนุพันธ์ อายุ 57 ปี เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ต.นาราชควาย อ.เมืองนครพนม ซึ่งเป็นแม่ของนายไทด์หลังทราบเหตุ รีบมาดูศพลูกชายถึงกับทรุดเข่าอ่อน ร้องไห้คร่ำครวญเป็นที่เวทนายิ่งนัก เนื่องจากเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้สูญเสียลูกสาวคือ น.ส.ดารานาถ อนุพันธ์ หรือน้องแตงโม อายุ 26 ปี จากอุบัติเหตุขับรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถเทรลเล่อร์ที่จอดทิ้งไว้นานนับปี บริเวณหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง อยู่ท้ายเมืองนครพนม ผ่านมาสองเดือนเศษก็ต้องมาเสียลูกชายในเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันอีก
โดยนางดารารัตน์เล่าทั้งน้ำตาว่า สามีได้เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว มีลูกทั้งหมด 3 คน ชาย 2 หญิง 1 น้องแตงโมที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้เป็นคนเล็ก ส่วนนายศุภกรหรือไทด์เป็นคนกลาง ตอนนี้เหลือลูกชายคนโตวัย 36 ปี เพียงคนเดียว ระหว่างนั้นก็พร่ำร่ำไห้ปิ่มขาดใจ ว่า “ลูกเอ๋ยแม่จะอยู่กับใคร” ผู้คนที่เห็นต่างน้ำตาคลอเบ้าจากการสูญเสีย 2 ครั้งติดของครอบครัวนี้ โดยจะมีพิธีฌาปนกิจในวันนี้ (วันที่ 12 กันยายน 2568) ณ สำนักสงฆ์อรัญวิเวก ต.นาราชควาย อ.เมืองนครพนม
ผู้สื่อรายงานเพิ่มเติมว่า นางดารารัตน์เพิ่งได้เงินเยียวยาช่วยเหลือจากคู่กรณี และบริษัทประกันในคดีที่น้องแตงโมขับจักรยานยนต์ชนท้ายเทรลเล่อร์ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 11 ก.ย. ตกเย็นก็เกิดเหตุสลดนายไทด์ขับรถจักรยายนต์ชนกับรถกระบะจนเสียชีวิต.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หนุ่มซิ่ง จยย. โชว์ยกล้อ ชนประสานงา จยย. อีกคน ดับ 1 เจ็บสาหัส 1
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนประสานงากัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ถนนท้ายบ้าน บริเวณปากซอยราฟาแอล 10 ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลสมุทรปราการ และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เดินทางไปตรวจสอบ
คลั่งหลอนยายิงเมียดับ ต่อหน้าลูกสาว-ลูกเขย อ้างฝังแค้น 16 ปี
ผู้ต้องหาให้การอ้างปัญหาความคับข้องสะสมยาวนาน ขณะที่ลูกสาว-ลูกเขยยืนยันเหตุเกิดจากพฤติกรรมของผู้ต้องหาเอง ทั้งเสพยา พกปืน และข่มขู่ผู้ตายจนต้องย้ายไปอยู่บ้านลูก ก่อนเกิดเหตุสลดกลางบ้านพักในนครพนม
ส่งโดรนหนุนภารกิจลำเลียงถุงยังชีพ-เวชภัณฑ์ ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้
ฝ่าวิกฤตน้ำท่วมหาดใหญ่ สไกลเลอร์ โซลูชั่นส์ ส่งโดรนปฏิบัติการลำเลียงถุงยังชีพ-เวชภัณฑ์ช่วยผู้ประสบภัย
'น้ำท่วมหาดใหญ่' ดับพุ่ง 110 ราย! เร่งพิสูจน์อัตลักษณ์ ก่อนทยอยคืนญาติ
'บิ๊กต่าย' เผยยอดเสียชีวิตจากน้ำท่วมหาดใหญ่พุ่ง 110 ราย ส่งทีมแพทย์-สพฐ. ลงพื้นที่ เร่งพิสูจน์อัตลักษณ์ให้เสร็จพรุ่งนี้ ก่อนทยอยคืนร่างให้ญาติ
'นิพิฏฐ์' ตัวแทนคนใต้ ขอโทษกู้ภัยเจ็ตสกี เหตุโดนยิงไล่หลัง
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ผมขอโทษแทนคนปักษ์ใต้
อ่างทองส่ง 2 ทีมกู้ภัยลุยสตูล ผู้ว่าฯชื่นชม ‘น้ำใจเมืองเล็กหัวใจใหญ่’
จังหวัดอ่างทองปล่อยขบวนกู้ภัย 2 ทีม มุ่งหน้าช่วยน้ำท่วมสตูล ผู้ว่าฯ–ผู้นำท้องถิ่นร่วมให้กำลังใจและสนับสนุนภารกิจ เผยขณะนี้อ่างทองส่งทีมลงใต้แล้วร

