คนบุรีรัมย์กระตุก 'อนุทิน' สกัดภัย 'โรงงานน้ำตาลโรงไฟฟ้าชีวมวล'

คนบุรีรัมย์ยื่นหนังสือนายกฯอนุทินและประธานกรรมาธิการฯให้ทบทวนโครงการโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล พร้อมสกัดเวที ค 2 หลังพื้นที่ตั้งไม่เหมาะสมและชาวบ้านในพื้นที่ไม่เคยรับรู้โครงการมาก่อน

12 ต.ค.2568 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากลุ่มประชาชนในนาม โอโซนรักบ้านเกิด อำเภอชำนิ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ประมาณ 50 คน เดินทางไปทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นหนังสือถึงนายอุทินชาญ วีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้ทบทวนแผนการดำเนินโครงการโรงงานน้ำตาลขนาด 20,000 ตันอ้อยต่อวันและโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 54 เมกะวัตต์ เนื่องจากพื้นที่ตั้งไม่เหมาะสม วัตถุดิบอ้อยไม่มี

ประกอบกับชาวบ้านในพื้นที่ไม่เคยได้รับรู้ข้อมูลมาก่อนว่าพื้นที่ตำบลหนองปล่อง อำเภอชำนิจะมีแผนการดำเนินโครงการโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล และไม่เคยรับรู้ว่าจะมีการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 ซึ่งถือว่าไม่เป็นธรรมและไม่เป็นไปตามหลักของรัฐธรรมนูญไทย 2560 ในขณะที่ช่วงบ่ายทางกลุ่มโอโซนรักษ์บ้านเกิดได้เดินทางไปรัฐสภาเพื่อยื่นหนังสือให้ประธานกรรมาธิการการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อตรวจสอบกระบวนการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 ที่ชาวบ้านในพื้นที่ไม่เคยรับรู้ข้อมูลมาก่อน

นายสมพงษ์ สงกูล กรรมการกลุ่มโอโซนรักษ์บ้านเกิดจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าว่า วันนี้ทางกลุ่มมีความจำเป็นที่ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี หวังให้นายกรัฐมนตรีช่วยในการทบทวนแผนโครงการโรงงานน้ำตาลขนาด 20,000 ตันอ้อยต่อวันและโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 54 เมกะวัตต์ หลังจากบริษัทที่ปรึกษาฯได้จัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่  1 ผ่านมาแล้ว แบบที่ชาวบ้านในพื้นที่ยังงง ๆ ว่าเขาทำอะไรกัน และล่าสุดได้ข่าวว่าทางบริษัทที่ปรึกษาฯ จะดำเนินการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 2 เร็วนี้ ทั้ง ๆ ในพื้นที่บ้านเราปลูกข้าวเป็นหลัก ไม่มีวัตถุดิบอ้อย แล้วโรงงานจะมากำหนดจุดดำเนินการก่อสร้างได้อย่างไร และจะขัดกับหลักวิถีชีวิตชุมชน  ในการเดินทางมายื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาลครั้งนี้ได้มี นายสมภาส นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี มาเป็นตัวแทนรับฟังข้อมูลและรับหนังสือ โดยทางสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจะนำเสนอข้อมูลให้กับนายกรัฐมนตรีต่อไป

ทั้งนี้ทางกลุ่มโอโซนรักบ้านเกิดจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ยืนหนังสือให้พูนศักดิ์ จันทร์จำปี ประธาน กมธ.ที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ช่วยดำเนินการตรวจสอบกระบวนการการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 ที่ผ่านมาที่ชาวบ้านในพื้นที่ไม่เคยรับรู้มาก่อน และให้ลงพื้นที่ดูสภาพพื้นที่ความเป็นจริง

ด้านนายชัยพร มะลิวรรณ กรรมการกลุ่มโอโซนรักบ้านเกิดจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ทางกลุ่มอยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองได้เข้าใจด้วยว่าพื้นที่เรามีความอุดมสมบูรณ์ด้านทรัพยากร เราไม่อยากจะให้เกิดโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในพื้นที่ ชาวบ้านไม่ได้มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายตั้งแต่เริ่มต้น ในขณะวิถีชีวิตของชาวบ้านมีอาชีพหลักการทำนา พื้นที่ตั้งจึงไม่มีความเหมาะสม และพื้นที่ที่จะถูกจัดตั้งโรงงานดังกล่าวอยู่ติดห้วยลำปะเทียของชุมชนที่ได้พึ่งพาอาศัยหาอยู่หากิน การจะมาจัดตั้งโรงงานในรัศมี 5 กิโลเมตรยังครอบคลุม 6 ตำบล เบื้องต้น ที่มีหมู่บ้าน วัด โรงเรียน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สถานที่หน่วยงานราชการ อาจจะก่อให้เกิดผลกระทบในหลาย ๆ ด้าน ที่กล่าวข้างต้น

“จึงหวังว่านายกรัฐมนตรีจะช่วยชาวบ้านคนบุรีรัมย์ด้วย โดยการทบทวนแผนการดำเนินโครงการโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล และช่วยให้ทบทวนกระบวนการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 1 ที่ผ่านมา ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่ไม่เคยรับรู้ข้อมูลมก่อนว่าพื้นที่จะมีแผนการดำเนินโครงการโรงงานน้ำตาลขนาด 20,000 ตันอ้อยต่อวันและโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 54 เมกะวัตต์ ที่ไม่ชอบธรรมต่อชาวบ้านในพื้นที่บ้านหนองปล่อง ตำบลหนองปล่อง อำเภอชำนิ จังหวัดบุรีรัมย์  ในขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ยังกังวลว่าทางบริษัทที่ปรึกษาฯ จะดำเนินการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 2 ต่อไปอีก จึงอยากให้ชะลอกระบวนการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นออกไปก่อน” นายชัยพร ระบุ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ร่าง 'จ่าเริง' ถึงมาตุภูมิพรุ่งนี้ ภรรยาเผยนำศพลงมาไม่ได้ เพราะสามีสัญญาไว้ต้องยึดเนิน 350 ให้ได้ก่อน

แม่จ่าเริง ทหารพลีชีพเนิน 350 ภูมิใจทหารทุกนายที่ทำสำเร็จได้เนิน 350 คนมา ขอให้รบชนะแบบเบ็ดเสร็จโดยเร็ง และให้ประเทศไทยมีแต่ความสงบสุขหลังจากนี้ ผู้ว่าฯเผยการเตรียมจัดงานพร้อมทุกอย่างแล้ว ร่างมาถึงพรุ่งนี้

ครอบครัว 'จ่าเริง' ทหารกล้า ทำใจแล้วนำร่างกลับยาก ติดบนเนิน 350 นาน 4 วันแล้ว

แม่และพี่สาวจ่าเริง นักรบพลีชีพรับสภาพได้แล้วว่าการนำร่างกลับมายากลำบากเพราะอยู่ในสนามรบ ระบุจ่าเริงคงอยากให้ทางบ้านทำใจได้ก่อนจึงจะกลับมา ตอนนี้ภูมิใจที่คนทั้งประเทศแห่ให้กำลังใจ ร่างจะมาตอนไหนขึ้นอยู่กับโอกาส เห็นใจเจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนัก

เสียงปืนเขมรเบาลงครั้งแรกในช่วง 12 วันสู้รบ พบลูกจรวดเกลื่อนไร่ยางพารา

เสียงปืนฝั่งเขมรหยุดลงครั้งแรกในรอบ 12 วัน จนท.เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบลูกจรวดปืนใหญ่ตกใส่ไร่ยางพาราเป็นจำนวนมาก มีทั้งแตกและไม่แตก ระบุเขมรหันกระบอกปืนมาทางพลเรือนของไทย

ไฟแนนซ์โทรทวงค่างวดผู้อพยพ-ชรบ.ชายแดน ต้องหายืมเงินไปจ่าย โอดสู้รบยืดเยื้อ

การสู้รบระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ที่ยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 12 แล้ว และยังไม่มีใครให้คำตอบได้ว่าการสู้รบจะจบลงวันไหน ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

กยท.เตรียมงบกว่า 2 พันล้าน เยียวยาชาวสวนยางได้รับผลกระทบสู้รบชายแดน

การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เตรียมทุ่มงบกว่า 2,000 ล้าน ช่วยเหลือชาวสวนยาง 9 จังหวัด ที่ไม่สามารถออกไปกรีดยางได้ตามปกติ และได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รายละ 3,000 บาท รวมสวนยางเสียหายกว่าล้านไร่