เกิดอุบัติเหตุรถบัสรับ–ส่งพนักงานชนรถจักรยานยนต์หนุ่มวัย 25 ปี พนักงานร้านสะดวกซื้อ ร่างกระเด็นไปชนรถเก๋ง เสียชีวิตคาที่กลางถนนปานวิถี อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ญาติร่ำไห้สุดเศร้า เผยผู้ตายเพิ่งบวชหน้าไฟให้ย่าในช่วงเช้าวันเดียวกันก่อนมาพบจุดจบอย่างอนาถ
1 พฤศจิกายน 2568 - เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา ร.ต.อ.วิศรุต ชูโฉม รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ รับแจ้งอุบัติเหตุรถบัสรับ–ส่งพนักงานชนรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ บริเวณใกล้ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง ถนนปานวิถี มุ่งหน้าไปตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จึงรุดตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูและแพทย์เวรโรงพยาบาลบางบ่อ
ที่เกิดเหตุพบร่างนายอนุษร โลห่คำ อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดกำแพงเพชร สวมชุดพนักงานร้านสะดวกซื้อ ร่างกายหักผิดรูปนอนเสียชีวิตอยู่กลางถนน ใกล้กันมีภรรยา ลูกวัย 3 ขวบ และพ่อตายืนร่ำไห้ด้วยความเศร้าโศก โดยมีกล่องใส่สินค้าตกเกลื่อนพื้นและรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกู๊ปปี้ สีดำ ทะเบียน อยบ 282 กรุงเทพมหานคร สภาพพังยับเยินทั้งคัน
ห่างออกไปพบรถบัสรับ–ส่งพนักงาน หมายเลขทะเบียน 30–2952 สมุทรปราการ ตัวถังด้านหน้าและกระจกแตกเสียหาย และยังมีรถยนต์เก๋งนิสสัน ทะเบียน 2 ขญ 1532 กรุงเทพมหานคร สภาพหน้าขวาพังยับ ไฟหน้าแตก ล้อแม็กซ์บิดงอ
นายสมชาย ยิ้มพาย อายุ 59 ปี คนขับรถบัส ให้การว่า ขณะขับรถมาจากนิคมอุตสาหกรรมเวลโกร จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อไปส่งพนักงานที่ตำบลบางปู ระหว่างทางรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตที่ขับอยู่ด้านหน้าได้หยุดเพื่อเลี้ยวขวากะทันหัน ตนเบรกไม่ทันจึงพุ่งชนเต็มแรง ร่างผู้ตายถูกรถทับอยู่ใต้ท้อง ส่วนรถจักรยานยนต์กระเด็นไปชนกับรถยนต์เก๋งอีกคันที่วิ่งสวนทางมา
ด้านนายวิรัตน์ อายุ 39 ปี คนขับรถเก๋งคู่กรณี ระบุว่า ขณะขับรถมาจากตำบลคลองด่านมุ่งหน้าอำเภอบางบ่อ จู่ ๆ รถจักรยานยนต์ก็พุ่งข้ามเลนมาชนด้านหน้ารถของตนอย่างจัง จึงรีบจอดลงมาดู พบว่ามีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ยืนยันไม่ได้เป็นฝ่ายชนก่อน
น.ส.ภาวศุทธิ ใจมะเริง อายุ 24 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวทั้งน้ำตาว่า สามีเพิ่งออกจากบ้านไปทำงานในช่วงเช้า ไม่คิดว่าจะเป็นการพบกันครั้งสุดท้าย ตนอยู่กินกันมานานกว่า 5 ปี มีลูกชายวัยเพียง 3 ขวบที่ยังไม่รู้เรื่องราวอะไร
ขณะที่นายทรงยศ ใจมะเริง อายุ 50 ปี พ่อตา เผยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ลูกเขยเพิ่งบวชหน้าไฟให้ย่าในช่วงเช้า ก่อนมาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในค่ำวันเดียวกัน ครอบครัวเสียใจอย่างที่สุด ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายเช่นนี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ เก็บพยานหลักฐานและสอบปากคำคู่กรณี พร้อมมอบศพให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งชันสูตรที่นิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด และจะตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชาวบ้านเดือดร้อนต้องเดินอ้อมข้ามถนน เหตุสะพานลอยถล่ม ถ.บางนาตราด
จากกรณีรถบรรทุกดัมพ์ยกกระบะชนคานสะพานลอยถนนบางนา–ตราด จนโครงสร้างพังถล่มทับรถด้านล่าง ดับ 1 ศพ เจ็บ 1 ราย ล่าสุดกรมทางหลวงสั่งปิดสะพานทันที ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก ต้องอ้อมใช้ทางลอดไกลกว่า 500 เมตร ขณะผู้บาดเจ็บยังรักษาตัวในไอซียู ส่วนคดีอยู่ระหว่างรอสอบปากคำ พร้อมประเมินงบสร้างสะพานใหม่ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้างราว 3–4 เดือน
จยย. 2 กลุ่ม ชนสนั่น! กลางถนนสุวรรณภูมิ ดับ 2 เจ็บอีก 3
เมื่อเวลา 01.00 น. ศูนย์กู้ชีพปราการรับแจ้งว่า มีอุบัติเหตุหมู่รถชนกันหลายคันและมีผู้บาดเจ็บหลายรายอาการสาหัส และมีเพลิงลุกไหม้รถคันเกิดเหตุ เหตุเกิดบนถนนเลียบรันเวย์สนามบินสุวรรณภูมิ สาย 3
สมุทรปราการเผชิญน้ำทะเลหนุนสูง น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นท่วมตลาด-ถนนสายหลักหลายเส้น
สมุทรปราการเผชิญน้ำทะเลหนุนสูงช่วงเช้า ทำระดับน้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นเข้าท่วมตลาดปากน้ำ ถนนสายหลักหลายเส้นลึก 20-30 เซนติเมตร พ่อค้าแม่ค้าต้องลุยน้ำขายของ คาดสถานการณ์จะกลับสู่ปกติก่อนเที่ยง
หนุ่มใหญ่เมาอาละวาด ควงมีดบุกฟันชายวัย 29 เจ็บสาหัส ปมขัดใจเรื่องกีฬาสี ทั้งที่ไม่รู้จักกัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางปู รับแจ้งมีคนถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดได้รับบาดเจ็บ ภายในซอยสมปรารถนา 2 หมู่ 3 ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
ตร.บางพลีบุกช่วยนศ. โดนแก๊งคอลฯอ้างเป็นDSI สูญเงิน 2 แสน
ตำรวจบางพลี บุกช่วยนักศึกษามหาวิทยาลัยดัง หลังโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก อ้างเป็นดีเอสไอ โอนเงินเกือบ 2 แสนบาท
หนุ่มซิ่ง จยย. โชว์ยกล้อ ชนประสานงา จยย. อีกคน ดับ 1 เจ็บสาหัส 1
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนประสานงากัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ถนนท้ายบ้าน บริเวณปากซอยราฟาแอล 10 ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลสมุทรปราการ และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เดินทางไปตรวจสอบ

