สนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.-ส.ก. บทพิสูจน์ฝีมือ “จุรินทร์-เฉลิมชัย”

ทุกพรรคมีเวลาเท่ากัน นับจากนี้เกือบ 2 เดือนเต็ม เริ่มหาเสียงให้ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ของตัวเอง

สแกน “พรรคประชาธิปัตย์” เคยครองใจคนกรุงเทพฯ และคนใต้ทั้งในการเมืองระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ แต่เมื่อการเลือกตั้งใหญ่ ส.ส.ครั้งที่ผ่านมา ภายใต้การบริหารของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” พื้นที่กรุงเทพฯ “ประชาธิปัตย์” หมดเกลี้ยง ส่วนแดนสะตอก็มี “พรรคภูมิใจไทย” และ “พรรคก้าวไกล” แบ่ง ส.ส.ไป ซึ่งครั้งนั้น “อภิสิทธิ์” รับผิดชอบโดยการลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค

พอเลือกผู้นำพรรคใหม่ ได้ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” เป็นหัวหน้า และมี “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” เป็นเลขาธิการพรรค ดังนั้นเวทีเลือกตั้งพ่อเมือง กทม. และ ส.ก. จึงเป็นสนามสำคัญที่ “จุรินทร์” และ “เฉลิมชัย” จะได้แสดงฝีมือ และทำให้เห็นว่าประชาธิปัตย์ “ขาขึ้น” จริงตามที่ผู้บริหารพรรคพร่ำบอก แต่ก็ต้องยอมรับว่าภารกิจกอบกู้พรรคครั้งนี้ใหญ่หลวงและหนักอึ้ง คนในพรรคจะต้องออกแรงและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

โดยเมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา พรรคจัดสัมมนาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และ ส.ก.ประจำเขต มีการตอกย้ำวิสัยทัศน์ “ผู้นำประเทศ ผู้นำเมือง” บริหารกรุงเทพฯ เสมือนเป็น Mini Thailand ด้วย 3 นวัตกรรมทางการบริหารจัดการกรุงเทพฯ ประกอบด้วย นวัตกรรมตัวที่ 1 มีคณะรัฐมนตรี กรุงเทพฯ เพราะกรุงเทพฯ มีปัญหาเพิ่มเติมขึ้นมากมายหลายด้านมากกว่าในอดีต โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ

นวัตกรรมตัวที่ 2 คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนกรุงเทพฯ (กรอ.กทม.) เพื่อเป็นเวทีสร้างการมีส่วนร่วมให้กับทุกภาคส่วนได้มาทำงานร่วมกับผู้บริหารกรุงเทพฯ และ นวัตกรรมตัวที่ 3 การบริหารจัดการแบบเกรทเตอร์ แบงค็อก (Greater Bangkok) หรือคณะกรรมการบูรณาการ กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยจะต้องทำงานประสานกับปริมณฑลอย่างจริงจัง นอกจากนี้ยังมอบภารกิจให้กับ ส.ก. เป็น “ส.ก.พลัส” คือต้องทำหน้าที่ ส.ข.ควบคู่ไปด้วย

ขณะเดียวกัน “ดร.เอ้” สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามประชาธิปัตย์ วางตัวเป็นกูรูด้านน้ำท่วม ที่ผ่านมาควง ส.ก.ของพรรคลงพื้นที่แทบจะทุกเขตในกรุงเทพมหานคร สำรวจปัญหาประตูระบายน้ำ คูคลอง  

แต่ก็ต้องบอกว่าการเลือกตั้ง 22 พ.ค.ที่จะถึงนี้ เป็นงานหินสำหรับ “ประชาธิปัตย์” เพราะไม่ว่าสถาบันต่างๆ จะสำรวจความนิยมในช่วงใด ชื่อ “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” อดีต รมว.คมนาคม ที่ลงในนามอิสระ และมีพรรคเพื่อไทยคอยส่งกำลังใจให้ ยังคงเต็ง 1 ในทุกโพล แม้ “ชัชชาติ” จะโดนโจมตีเรื่องตอนเป็นเสนาบดีไร้ผลงาน แต่ก็ไม่มีความชั่วปรากฏ ทั้งยังมีบุคลิกเป็นนักบริหาร นักวิชาการไปพร้อมๆ กัน

ในทางกลับกัน ตัวผู้สมัครของประชาธิปัตย์ เรียกว่าตั้งแต่เปิดตัวก็ถูกตั้งคำถามถึงการทุจริตและความโปร่งใสบัญชีทรัพย์สิน และยังมีกระบวนการพยายามทำให้ภาพ “ดร.เอ้” เป็นคนขี้โม้ ที่เห็นง่ายๆ เลยก็คือ ปมเรียนกับอาจารย์ ที่เป็นหลานของ “อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์”   

ประการต่อมาที่ทำให้ “ประชาธิปัตย์” ยังคงตกที่นั่งลำบากคือ การแย่งคะแนนเสียงในฐานเดียวกัน เพราะรอบนี้มีทั้งจากกลุ่มรักษ์กรุงเทพฯ ของ “อัศวิน ขวัญเมือง” และกลุ่มของ “สกลธี ภัทธิยกุล”   

ประการสุดท้ายมาจาก “คนในพรรค” ที่ทำตัวเป็นกรวดในรองเท้าของหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค อย่างกรณีที่ “อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์” ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาต่อว่า “อันวาร์ สาและ” ส.ส.ปัตตานี คอยแซะพรรคและผู้บริหารพรรคนั้น หรือแม้แต่คำพูดของคนที่ลาออกจากพรรคไปที่ย้อนมาทำลายพรรคเช่นกัน ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ภาพลักษณ์พรรคได้รับความเสียหาย ส่งผลกระทบไปยังประชาชนทำให้เกิดความเบื่อหน่ายในสภาพของ “ประชาธิปัตย์”

จนอาจต้องหันไปลงคะแนนให้กับที่พึ่งที่หวังใหม่!!! เว้นเสียแต่ว่า “ประชาธิปัตย์” จะมีหมัดเด็ดมัดใจคนกรุง.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ

เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569

'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'

ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย

พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ

แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ

วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน

รัฐบาลอ่อนหัด โครงสร้างล้าหลัง ฉุดเชื่อมั่น'อนุทิน-ภท.'จมดิ่งกับน้ำท่วม

วิกฤตมหาอุทกภัยถล่ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ สร้างความหายนะราวกับคลื่นสึนามิ ซากปรักหักพังของเมืองเสมือนวันสิ้นโลก

ปี69เดือด!เลือกตั้งทุกระดับ 'กกต.-ประชาชน'ตัดสินอนาคต

ปี 2569 กลายเป็นปีที่ท้าทายที่สุดสำหรับประชาธิปไตยไทย ด้วยการเลือกตั้งหลายระดับที่กระชั้นชิดกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่คาดว่าจะพ่วงด้วยการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบันทึกความเข้าใจ (MOU)