ชะตา‘บิ๊กตู่’ในกำมือ‘บิ๊กป้อม’ สูตรนายกฯนอกบัญชีต้องมีอุบัติเหตุ

กระแส นายกฯ สำรอง ถูกโหมประโคมในช่วงสัปดาห์ที่แล้วต่อเนื่องมาถึงต้นสัปดาห์นี้ ทุกอากัปกิริยาของ บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กับ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ต่างถูกจับจ้อง 

แม้ก่อนหน้านี้จะไม่มีคำพูดจากทั้งสองคนต่อประเด็นดังกล่าว แต่ทุกภาษากายของทั้งสองคนเวลาพบหน้ากันต่างถูกตีความต่างๆ นานา แม้แต่ฉากพี่จับไหล่น้องเมื่องานวันแรงงานแห่งชาติ วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา 

สำหรับประเด็นนายกฯ สำรอง จุดเริ่มต้นน่าจะมาจากการที่นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานญาติวีรชนพฤษภา'35 ออกมาเรียกร้องให้ "บิ๊กป้อม" เป็นนายกฯ ขัดตาทัพ เพื่อเป็นรันเวย์ให้ "บิ๊กตู่"  

แต่ประเด็นของนายอดุลย์ยังไม่น่าสนใจเท่าการที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย ออกมาจุดพลุเรื่องนายกฯ นอกบัญชี ตามมาตรา 272 วรรคสอง กรณีที่ "บิ๊กตู่" เกิดอุบัติเหตุทางการเมือง 

แนวทางของ ร.อ.ธรรมนัสอาจมองได้ว่า มาจากอคติกรณีที่เป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงกับ "บิ๊กตู่" แต่ทันทีที่ "บิ๊กน้อย" พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย น้องรักของ พล.อ.ประวิตร พูดว่า คนที่เหมาะสมมีเพียง "บิ๊กป้อม" เท่านั้น เรื่องนี้จึงไม่อาจมองข้ามได้ 

พรรคเศรษฐกิจไทย แม้จะมีภาพลักษณ์เป็นหอกข้างแคร่อยู่แล้ว แต่ต้องไม่ลืมว่าในทางการเมืองพรรคดังกล่าวคือพรรคสาขาของ "บิ๊กป้อม" 

คนในพรรคเศรษฐกิจไทยคือ อดีต ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ และเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตรงของ "บิ๊กป้อม" ทุกท่าทีไม่สามารถทำได้โดยพลการ  

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ถูกจับโยงไปถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่จะเกิดขึ้นหลังจากการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 และภายหลังร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง เสร็จสิ้นไปแล้ว ซึ่งตามปฏิทินศึกซักฟอกจะปะทุราวๆ เดือนสิงหาคม 

นอกจากรายการอภิปรายไม่ไว้วางใจในเดือน 8 ของปีจะยังเป็นไทม์ไลน์เดียวกับการตีความระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของ "บิ๊กตู่" 

มิเพียงเท่านั้น ปฏิกิริยาของพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคเล็กที่ออกอาการเด็กดื้อราวกับขอของเล่นในช่วงนี้ ยังทำให้ใครหลายคนยิ่งคิดไปใหญ่ 

คิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับ "บิ๊กตู่" ไม่ว่าเรื่องวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี หรือเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างใดอย่างหนึ่ง 

หากเกิดเช่นนี้จริง คนที่มีพละกำลังมากที่สุดที่จะได้เสียง ส.ว.สนับสนุนเพื่อเป็นนายกฯ ขัดตาทัพ ที่ไม่ใช่นายกฯ รักษาการ คงจะมีเพียง "บิ๊กป้อม" คนเดียวเท่านั้น 

แน่นอนว่าบัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่แต่ละพรรคเสนอตอนการเลือกตั้งยังดำรงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นของพรรคเพื่อไทยหรือพรรคภูมิใจไทย แต่ด่านสำคัญคือคนเหล่านี้จะต้องได้รับเสียงโหวตจาก ส.ว.
ขณะที่ "บิ๊กป้อม" แม้ไม่ได้อยู่ในบัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคใดเลย แต่การมีเสียง ส.ว.อยู่ในมือ ทำให้สามารถเปิดสวิตช์ใช้กลไกนายกฯ นอกบัญชีได้ 

พรรคร่วมรัฐบาลเองคงไม่ขัดข้องที่จะอยู่ต่อ เพราะที่ผ่านมา "บิ๊กป้อม" เองก็เป็นดีลเมกเกอร์คนเหล่านี้มาร่วมรัฐบาลทั้งนั้น 

ในส่วนกระแสต้านเองคงไม่มาก เพราะขณะนี้เป็นช่วงปลายเทอมรัฐบาล การดำรงตำแหน่งครั้งนี้เป็นเพียงการขัดตาทัพเพื่อจัดการเลือกตั้งที่เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือน 

อีกทั้งกับฝ่ายการเมือง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาล "บิ๊กป้อม" มีความประนีประนอมและเข้าถึงได้มากกว่า "บิ๊กตู่"    

ดังนั้นถ้าจะบอกว่า ครั้งนี้ "บิ๊กป้อม" เข้าใกล้กับความฝันของตัวเองมากที่สุดคงไม่ผิดนัก 

อย่าลืมว่า เรื่องความฝันอยากจะเป็นนายกฯ สักครั้งในชีวิตเพื่อเป็นเกียรติเป็นศรีของตระกูลวงษ์สุวรรณของ "บิ๊กป้อม" ถูกพูดกันมานาน บารมี-คอนเนกชัน-พละกำลัง สามารถพาตัวเองนั่งนายกฯ ได้ตั้งแต่การเลือกตั้งที่ผ่านมา เพราะคุมเสียงใน ส.ส.และสภาสูง เพียงแต่สัญญาณยังคงไว้วางใจ "บิ๊กตู่" 

แม้ช่วงเวลาที่เหลือจะน้อยและเป็นเพียงนายกฯ ขัดตาทัพ แต่เก้าอี้นายกฯ จะเป็น 1 วัน หรือ 2 วัน ไม่สำคัญ เพราะสุดท้ายก็ถือว่าขึ้นสู่จุดสูงสุดของชีวิต 

แต่นั่นเป็นเพียงทฤษฎีกรณีเกิดอุบัติเหตุกับ "บิ๊กตู่" และมาจากเสียงยั่วยุจากคนรอบข้างของ "บิ๊กป้อม" ที่มองว่าสถานการณ์เอื้อให้ที่สุดแล้ว 

อยู่ที่ว่า "บิ๊กป้อม" จะเคลิ้มกับคำยุยงส่งเสริมนี้หรือไม่ เพราะเป็นคนเดียวที่มีเพาเวอร์ที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวได้ เพราะมีพลังทั้งในสภาและกลไกอื่นๆ ที่ชี้ชะตาความเป็นไปของรัฐบาล 

พูดง่ายๆ ชีวิต "น้องตู่" อยู่ในกำมือ "พี่ป้อม" 

แต่สุดท้ายคำยุยงและเสี้ยมจะมากขนาดไหนไม่สำคัญ หากพี่น้องยังคงหนักแน่นในความสัมพันธ์หลายสิบปี ยกเว้นเสียแต่ว่ามีคนหวั่นไหวและเคลิบเคลิ้ม. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หาดใหญ่-สแกมเมอร์ทำรบ.'แต้มหล่น' 'อนุทิน'เปิดหน้าชนกู้เรตติ้ง

โดนล่อเป้าในจังหวะที่รัฐบาลกำลังอยู่ในสภาพอ่อนแอจากกรณีมหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สำหรับการปล่อยภาพที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล

จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ

เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569

'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'

ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย

พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ

แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ

วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน

รัฐบาลอ่อนหัด โครงสร้างล้าหลัง ฉุดเชื่อมั่น'อนุทิน-ภท.'จมดิ่งกับน้ำท่วม

วิกฤตมหาอุทกภัยถล่ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ สร้างความหายนะราวกับคลื่นสึนามิ ซากปรักหักพังของเมืองเสมือนวันสิ้นโลก