ต่างฝ่ายต่างปรับทัพ รบ.ล้ม ฝ่ายค้านรอซ้ำ

ว่าด้วยเสถียรภาพรัฐบาล แรกเริ่มถ้ายังจำกันได้ หลายฝ่ายมองกันว่ารัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” จะมีเสถียรภาพไม่ค่อยดีนัก และจะทำงานในสภาลำบาก เนื่องจากเสียงในสภาจะมีลักษณะปริ่มน้ำทำให้การขับเคลื่อนงาน โดยเฉพาะการโหวตกฎหมายอาจทำได้ด้วยความทุลักทุเล

แต่มาถึงวันนี้สิ่งที่วิเคราะห์นั้นผิด เพราะเสียงของซีกรัฐบาลห่างจากเสียงของฝ่ายค้านพอตัว และด้วยสภาพเช่นนี้งานสภาน่าจะราบรื่น ทว่า ความจริงไม่เป็นแบบนั้น เพราะบัดนี้ พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาลเกิดสนิทเนื้อในขึ้นแล้ว จนอาจเป็นอันตรายต่อเสถียรภาพของรัฐบาล

สืบเนื่องมาจากศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีโดนฝ่ายค้านซักฟอก ขณะนั้นในพรรคพลังประชารัฐแทนที่จะช่วยสนับสนุนนายกฯ แต่กลับจับก๊วนล้ม “พล.อ.ประยุทธ์” เสียอย่างนั้น ถึงขั้นจะโหวตคว่ำนายกรัฐมนตรี

เกิดคำถามว่า “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ทราบถึงการก่อกบฏที่จะเกิดขึ้นกับน้องเล็กร่วมชายคาเดียวกันเชียวหรือ

แม้วันนี้คนในพรรคจะพยายามให้จบ แต่มันไม่จบ เพราะเมื่อคนที่โดนแทงข้างหลังก็ต้องจำจนตาย ในเมื่อนายกฯ ยังโชคดีได้บริหารประเทศต่อ ก็ต้องจัดทัพให้มีเอกภาพ ขจัดจุดอันตราย เพื่อเสถียรภาพของตัวเองและรัฐบาล

แม้ปรับ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” พ้นคณะรัฐมนตรีแล้ว แต่ “พี่ป้อม” ยังคงดึงแขนไว้ให้ช่วยงานพรรค ก็ต้องจับตาเขาจะสร้างอภินิหารอะไรอีกในงานสภาสมัยสามัญครั้งที่ 2

จากเหตุบังเอิญ “รัตนเศรษฐแฟมิลี่” ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จากคดีทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอล โคราช ทำให้ “วิรัช รัตนเศรษฐ” ส.ส.ซุ้ม “ธรรมนัส” หลุดจากการเป็นประธานวิปรัฐบาล และขณะนี้ “นิโรธ สุนทรเลขา” ส.ส.นครสวรรค์ เด็กในสังกัดนายกฯ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานวิปรัฐบาลแทนเรียบร้อยแล้ว

ทั้งหมดนี้ก็เป็นอาฟเตอร์ช็อกจากศึกซักฟอก เมื่ออยากจะวัดก็ต้องมีแพ้ชนะ ผู้พ่ายแพ้ต้องดูแลตัวเอง ส่วนผู้ชนะก็ต้องปิดจุดอ่อน ส่งคนที่ไว้ใจค่อยระวังหลังให้ เพื่อป้องกันปัญหาในสภาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีก

สำหรับฟากฝั่งพรรคฝ่ายค้าน เห็นแล้วว่าฟากรัฐบาลแตกความสามัคคี ก็เดินเครื่องเต็มสูบขย่มซ้ำ ผลงานล่าสุดทำฝ่ายรัฐบาลเซแล้วหนึ่ง เปิดประชุมสภามานัดแรก สภาก็ล่มเสียแล้ว เพราะ ส.ส.รัฐบาลไม่สนใจเข้าประชุมสภา

วันต่อมาที่ประชุมสภามีการตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา “พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน” ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย สายเช็กองค์ประชุม เล่นใหญ่หว่านข้าวที่ชาวนาเก็บเกี่ยวมาอย่างยากลำบาก กลางห้องประชุมสภา เพราะไม่มีรัฐมนตรีมาตอบกระทู้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ

นี่ก็คือสไตล์การป่วนรายวันของเพื่อไทยในวันที่พวกเขาเป็นฝ่ายค้าน

อย่างไรก็ตาม การเป็นฝ่ายค้านที่ดีมีประสิทธิภาพสามารถเขย่ารัฐบาลได้ ต้องวัดที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยอมรับว่า “เพื่อไทย” ก็มีพัฒนาการ โดยเฉพาะศึกครั้งหลังสุดที่เปิดข้อมูลการอนุมัติจัดซื้อวัคซีนของจีน ประเทศต้นทางลดราคาให้รัฐบาลไทยตลอด แต่ ครม.ของเรากลับอนุมัติงบประมาณในราคาต่อหน่วยเท่าเดิม ฝ่ายค้านจึงอภิปรายทวงส่วนต่างจากการซื้อขายอยู่ที่ไหน ด้านรัฐบาลชี้แจงแบะๆ เอาเงินคืนหลวงแล้ว

ประชุมรัฐสภาสมัยสามัญครั้งที่ 2 นี้ ฝ่ายค้านจะยื่นเปิดอภิปรายแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 และในอนาคตก็ต้องมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจอีก รอบนี้คงจะไม่เหมือนเดิม เพราะพรรคเพื่อไทยเองก็มีการปรับทัพเช่นกัน

เปลี่ยนหัวเรือใหม่จาก “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ส.ส.เชียงใหม่ เป็น “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” ส.ส.น่าน และที่สำคัญมี “แพทองธาร ชินวัตร” ลูกสาวสุดที่รักของ “ทักษิณ ชินวัตร” เข้ามามีตำแหน่งในพรรคเพื่อไทยอย่างเป็นทางการ

ฉะนั้น รูปแบบเกมในสภาต่อจากนี้น่าจะมีการเปลี่ยนแปลง อย่างน้อยที่ผ่านๆ มาในพรรคเพื่อไทยมีเกลือเป็นหนอน ข้อมูลซักฟอกที่ ส.ส.เตรียมไว้อภิปรายรั่วไปถึงหูฝ่ายตรงกันข้าม ทำให้ฝ่ายรัฐบาลรับมือได้ตลอด เมื่อมีนายหญิงอุ๊งอิ๊งเข้าพรรคมาดูแลความเรียบร้อย คงจะไม่มีใครกล้าลักลอบเอาข้อมูลไปขายอีก

พรรคแกนนำรัฐบาล พรรคแกนนำฝ่ายค้าน ต่างฝ่ายต่างปรับทัพใหม่ การเมืองต่อจากนี้น่าจับตาอย่างยิ่ง เพราะพลังประชารัฐเกิดสนิทเนื้อใน ไม่รู้จะลูกผีลูกคน แต่ถ้าเกิดเรื่องขัดแย้งขึ้นอีกเมื่อไหร่ ฝ่ายค้านก็พร้อมขยี้ซ้ำ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ขี่กระแสชาตินิยม รวมบ้านใหญ่สู่รัฐบาล 4 ปี

“ประเทศไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่ม แต่จำเป็นต้องปกป้องตัวเอง”, “รัฐบาลสนับสนุนการทำหน้าที่ของกองทัพอย่างเต็มที่”, “นี่เป็นเรื่องของสองประเทศ ไม่ใช่เรื่องของคนนอก” และ “การหยุดยิงจะเกิดขึ้น ก็ต่อเมื่อกัมพูชาแสดงความจริงใจ และต้องแสดงออกอย่างเป็นรูปธรรม”

ศึกชิง ‘เมืองกล้วยไข่’ ‘กล้าธรรม’ ปะทะ ‘รัตนากร’

1 ในพื้นที่เป้าหมายสำคัญของ ‘พรรคกล้าธรรม’ ภายใต้การนำของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าพรรค คือ จ.กำแพงเพชร

เปิดขั้นตอนหย่อนบัตร8ก.พ.69 บัตร3ใบเลือกตั้งพ่วงประชามติ

ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูกาลการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) อย่างเป็นทางการ โดยในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่จะมีการเลือกตั้ง สส. พร้อมกับการทำประชามติหนึ่งเรื่องในวันเดียวกัน โดยกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 17.00 น. ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

'ภท.-ปชน.' แตกหักปม112 'พท.' ตัวแปรรอร่วมรัฐบาล

การเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 กำลังเดินหน้าเข้าสู่ช่วงโค้งสำคัญ พรรคการเมืองต่างเร่งนำเสนอนโยบาย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และทีมรัฐมนตรี เพื่อขอโอกาสประชาชนเข้ามาบริหารประเทศในอีก 4 ปีข้างหน้า

ภูมิใจไทยพลัส-เปิดเกมใหญ่ ชูรัฐมนตรีคนนอก ลุยเลือกตั้ง

บรรยากาศการเมืองปลายปี 2568 ต่อเนื่องต้นปี 2569 เดินหน้าเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มรูปแบบ หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งเตรียมเปิดรับสมัคร สส.ปลายเดือนธันวาคม ก่อนจะหย่อนบัตรในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 พรรคการเมืองต่างเร่งเปิดตัวผู้สมัคร นโยบายหาเสียง และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในช่วงโค้งสุดท้าย

‘บิ๊กป้อม’ ถอย ดัน ‘ตรีนุช’ เลือกตั้งสุดท้ายของ ‘พปชร.’

‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศถอนตัวจากการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ทั้งที่อีกไม่กี่ชั่วโมงจะถึงวันรับสมัคร สส.แบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดในวันที่ 27-28 ธันวาคมนี้