
เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ทันทีที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไว้พิจารณา พร้อมมีมติ 5 ต่อ 4 สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยออกมา
ส่งผลให้ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขึ้นทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกฯ ทันที และมีอำนาจเทียบเท่านายกฯ เป็นไปตาม พ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดิน มาตรา 41 และคำสั่งนายกฯ เรื่องการมอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกฯ ปฏิบัติราชการแทนนายกฯ ปี 2563
สอดคล้องกับความเห็นมือ 1 กฎหมายของรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ออกมายืนยันว่า บิ๊กป้อม มีอำนาจเต็ม ทั้งเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ทูลเกล้าฯ ถวายกฎหมายลูกเกี่ยวกับเลือกตั้ง ปรับ ครม.และยุบสภาฯ ฯลฯ
ทันใดนั้นได้สร้างความปีติยินดีให้แก่นักการเมืองในพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องการอำนาจเหล่านี้มาให้ "บิ๊กป้อม" อนุมัติโครงการ งบประมาณ และจัดโผข้าราชการสอดคล้องกับพื้นที่ ส.ส.พปชร.เพื่อประโยชน์ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
หลังก่อนหน้านี้มีเสียง ส.ส.ใน พปชร.ไม่พอใจ บิ๊กตู่ และ บิ๊กป๊อก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่ไม่ตอบสนองความต้องการ และยังเว้นระยะห่างจากบรรดานักการเมืองจนเกิดกบฏ ผู้กองเมืองพะเยา หรือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาธิการ พปชร. ครั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงเดือน ก.ย. ปี 2564 ที่ต้องการล้มนายกฯ และเปลี่ยนแปลง ครม.มาแล้ว
ฉะนั้นการมีอำนาจเต็มของ "บิ๊กป้อม" จึงตอบโจทย์ทางการเมืองในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อและระยะเวลาถอยหลังของอายุรัฐบาลไม่เกินเดือน มี.ค.65 ไปสู่การเลือกตั้ง เพื่อต่อกลอนกับฝ่ายตรงข้ามที่แข็งแกร่ง ทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ที่ได้กำลังโหมกระแสประชาธิปไตย และยกเลิกระบอบสืบทอดอำนาจ
รวมไปถึงคู่แข่งในขั้วรัฐบาลอย่าง พรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา ฯลฯ ที่มีจุดแข็งที่แตกต่างกันไป และพร้อมจะห้ำหั่นในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า
เท่ากับว่าเวลานี้ถนนทุกสายจึงมุ่งหน้าไปที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ถนนวิภาวดีรังสิตทันที โดยหวังให้ "บิ๊กป้อม" จะใช้โอกาสทองนี้เปลี่ยนโผแต่งตั้ง โยกย้ายข้าราชการทหารและตำรวจระดับสูงเพื่อวางฐานอำนาจต่อไป
โดยเฉพาะในแวดวงสีกากีจะมีปรากฏการณ์ บิ๊ก ป.ที่ 4 เข้ามาล้วงลูก ชักใยเปลี่ยนแปลงโผหรือไม่ อย่างครั้งที่ พล.อ.ประวิตรเคยมีอำนาจคุม สตช. ก่อนที่ "บิ๊กตู่" จะมาริบอำนาจไป
มีรายงานว่า ได้สร้างความไม่พอใจแก่ บิ๊ก ป.ที่ 4 เป็นอย่างมาก จนเกิดแรงกระเพื่อมทางการเมืองที่กระทบไปที่ ป.ประยุทธ์ และ ป.ป๊อก ในเวลาต่อมาใช่หรือไม่ อย่างเช่น มติอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งล่าสุด ที่ พล.อ.อนุพงษ์ได้คะแนนไม่ไว้วางใจมากที่สุด หรือกระแสข่าวปรับ ครม.เขย่าเก้าอี้ รมว.มหาดไทย เป็นต้น
ยังมีโผข้าราชการระดับสูงในกระทรวงมหาดไทย ที่ยังเหลือการแต่งตั้งอีกล็อตใหญ่ คือ ผู้ว่าราชการจังหวัด 23 ตำแหน่ง และผู้ตรวจการ 11 ตำแหน่ง ซึ่งบิ๊กป้อมทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ครม.ทำหน้าที่ควบคุมมติการแต่งตั้งดังกล่าวให้เป็นไปตามความต้องการด้วยใช่หรือไม่
อีกทั้งยังมีประเด็นสำคัญ อาจอาศัยจังหวะปรับ ครม. หากเกิดกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยถึงความเป็นรัฐมนตรีของ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สิ้นสุดลงเฉพาะตัวหรือไม่ หลังถูกร้องว่าเคยถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งนายกฯ อบจ.สงขลา ตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย เข้าลักษณะต้องห้ามการเป็นรัฐมนตรีและ ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยในวันที่ 14 ก.ย.นี้
เช่นเดียวกับ กรณี นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการและแกนนำพรรคภูมิใจไทย ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี ที่ส่งเรื่องไปให้ศาลฎีกาพิจารณาเพิกถอนออกจากตำแหน่งหรือไม่ จะมีคำตัดสินของศาลฎีกาออกมาด้วยหรือไม่ในเวลาเดียวกัน
หากสถานการณ์ลงตัวเป็นเช่นนั้น บิ๊กป้อมจำเป็นจะต้อง ปรับ ครม. ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลก่อน และอาจถือโอกาสแต่งตั้งคนของตัวเองเข้ามาแทนตำแหน่งในโควตาของ พปชร.ที่ว่าง 2 ตำแหน่ง หลัง พล.อ.ประยุทธ์เคยมีคำสั่งปลดฟ้าผ่า ร.อ.ธรรมนัส ออกจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน โดยหาคนขึ้นมาแทนที่ด้วยหรือไม่
นอกจากนี้ บิ๊กป้อม ยังมีอำนาจทูลเกล้าฯ ถวายกฎหมายลูก และยังเป็นผู้กำหนดเกมเกี่ยวกับร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ขณะนี้สูตรการเลือกตั้งกำหนดให้ใช้หาร 100 หลังก่อนหน้านี้มีการเสนอใช้สูตรหาร 500
ซึ่งขณะนี้ ส.ส.และ ส.ว.กำลังส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าจะขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ทั้งนี้ หากศาลรัฐธรรมนูญไม่ติดใจ จะส่งผลให้พรรคเพื่อไทยได้ประโยชน์จากระบบเลือกตั้งดังกล่าวนี้ด้วย
ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่า บิ๊กป้อม ดิวกับ นายใหญ่ เป็นช่องทางสำรอง หากกรณีพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ แต่ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาล เพราะติดเรื่อง ส.ว.จำนวน 250 คน ที่ยังเลือกนายกฯ ได้ จึงจำเป็นต้องพึ่งบารมี "บิ๊กป้อม" ใช่หรือไม่ หาก ทักษิณ ชินวัตร ต้องการเข้ามาแชร์อำนาจการเมือง
ฉะนั้นในช่วงที่ "บิ๊กตู่" ถูกสั่งให้ลาพักร้อน จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ "บิ๊กป้อม" จะชิงความได้เปรียบทางการเมืองในทุกด้าน และหวังชนะการเลือกตั้ง สืบทอดอำนาจต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ
เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569
'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'
ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ
แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ
วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน
รัฐบาลอ่อนหัด โครงสร้างล้าหลัง ฉุดเชื่อมั่น'อนุทิน-ภท.'จมดิ่งกับน้ำท่วม
วิกฤตมหาอุทกภัยถล่ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ สร้างความหายนะราวกับคลื่นสึนามิ ซากปรักหักพังของเมืองเสมือนวันสิ้นโลก
ปี69เดือด!เลือกตั้งทุกระดับ 'กกต.-ประชาชน'ตัดสินอนาคต
ปี 2569 กลายเป็นปีที่ท้าทายที่สุดสำหรับประชาธิปไตยไทย ด้วยการเลือกตั้งหลายระดับที่กระชั้นชิดกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่คาดว่าจะพ่วงด้วยการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบันทึกความเข้าใจ (MOU)


