
เหตุการณ์ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา อาจกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวที่ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลแตกคอกัน ทำงานร่วมกันอีกไม่ได้ จนอาจสะเทือนถึงเสถียรภาพรัฐบาล
ในการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กับ ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ....หน้าฉากมีความพยายามแยกประเด็นว่าเป็นคนละเรื่อง แต่หลังฉากใครก็รู้ว่าการลงมติร่าง พ.ร.บ.กองทุน กยศ. มาตรา 17 ส่งผลต่อการลงมติถอนร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ออกจากระเบียบวาระการประชุมสภาฯ
เบื้องหลัง 2 พรรคการเมือง “ประชาธิปัตย์” และ “ภูมิใจไทย” เล่นการเมืองก็มีข้อเท็จจริงอยู่ในนั้นด้วย อย่างร่างกฎหมาย กยศ. มาตรา 17 คณะกรรมาธิการชุดใหญ่ตั้งเรื่องให้คิดดอกเบี้ยเงินกู้ อัตราร้อยละ 0.25 ต่อมาหลายพรรคการเมืองลงคะแนนไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่คณะ กมธ.กำหนด แต่เห็นด้วยว่าจากนี้ไป “ผู้กู้ กยศ.ไม่ต้องคิดดอกเบี้ย ไม่ต้องมีค่าปรับล่าช้า และไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน” ซึ่งฝั่งพรรคภูมิใจไทยเป็นเจ้าของไอเดีย โดยหาเสียงไว้เป็นนโยบายพรรคตั้งแต่ปี 62
ขณะที่ “ประชาธิปัตย์” เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรง เพราะกองทุนดังกล่าวเกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย เห็นว่าไม่ควรยกเลิกดอกเบี้ย เพราะอาจจะทำให้กองทุนล้มเหลว เมื่อไม่มีดอกเบี้ยก็จะไม่มีเงินหมุนเวียนในกองทุน เพื่อให้รายใหม่ได้กู้เรียนต่อ ซึ่งในอนาคตรัฐบาลก็อาจต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่าย คอยเติมเงินเข้ากองทุน ทั้งที่ในขณะนี้กองทุนยืนได้ด้วยตัวเอง โดยการเก็บดอกเบี้ยอัตราต่ำกับผู้กู้
แต่พยายามอธิบายเท่าไหร่ก็ดูไม่เป็นผล การชูดอกเบี้ยและค่าปรับเป็นศูนย์เปอร์เซ็นต์ ก็เป็นเรื่องที่หาเสียงได้ และพรรคที่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ก็ได้ใจประชาชนไปเต็มๆ ส่วนอีกฝ่ายที่เสนอให้เก็บดอกเบี้ยผู้กู้ ยอมเสียเปรียบ และในทางการเมืองก็คือเสียคะแนนนิยม เพราะประชาชนไม่ปลื้ม
ถึงขนาด นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ เอ่ยว่า “ว่ากันตามจริงการหาเสียงของพรรคการเมืองเป็นเรื่องปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ ใช้เรื่องอะไรหาเสียง โดยทั่วไป การหาเสียงด้วยการเสนอนโยบายสาธารณะมักจะระมัดระวังเรื่องประเภท 50:50 หรือหมิ่นเหม่ต่อผลกระทบทางสังคมมากๆ ที่สำคัญคือเรื่องที่ต้องห้าม แต่คนมักเผลอใจไปชอบ อย่างการพนัน ยาเสพติด หรือ ยกหนี้ เพราะเรื่องพวกนี้ คนชอบมีมาก แต่ผลกระทบมหาศาล...หลักการความถูกต้อง กับความถูกใจ และการหาเสียงจะเอาไง...”
สรุปคือในความเล่นการเมืองมันมีข้อเท็จจริงตรงนี้อยู่
อย่างไรก็ตาม เมื่อที่ประชุมสภาฯ ลงคะแนน ฝ่ายที่เห็นว่าให้ กยศ.ปลอดดอกเบี้ย ปลอดค่าปรับ เป็นฝ่ายชนะแล้ว ท่าที “ประชาธิปัตย์” ที่คัดค้านประเด็นนี้แสดงออกว่าต้องเคารพเสียงส่วนใหญ่ในสภาฯ จากนั้นวันเดียวกัน ก็มีร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ.... ที่คณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว จ่อเข้าสู่การพิจารณา
นาทีก่อนร่างกฎหมายกัญชาจะเข้า "ส.ส.สาทิตย์” ลุกขึ้นหารือต้องการให้ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ จากพรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานคณะ กมธ.วิสามัญร่าง พ.ร.บ.กัญชาฯ ถอนร่างออกไปก่อน เพราะเห็นว่าเนื้อหาในร่างเขียนไว้อย่างหละหลวม ไม่มีมาตรการควบคุมป้องกันการปลูก การเสพกัญชา ทั้งยังชี้แจงว่าก่อนหน้าที่สนับสนุนและลงมติให้ร่างกฎหมายกัญชานั้น เพราะคิดว่าในชั้นคณะ กมธ.จะมีการกำหนดมาตรการที่เข้มงวด และให้ใช้กัญชาเฉพาะทางการแพทย์เท่านั้น
ขณะที่ฝ่ายค้านหลายพรรคก็เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ โดยอภิปรายสนับสนุนว่า จากการลงพื้นที่พูดคุยกับชาวบ้าน เขาไม่เอากัญชา เพราะทุกวันนี้ยาเสพติดก็ระบาดไปทั่วแล้ว ยิ่งปล่อยให้กัญชาไม่เป็นยาเสพติดก็กลัวว่าลูกหลานจะตกเป็นทาส ประกอบกับวงการแพทย์ วงการสาธารณสุข และการศึกษา ได้แสดงจุดยืนออกหนังสือคัดค้านกัญชาเสรี
ฉะนั้น เมื่อถึงเวลาที่ประชุมสภาฯ จึงมีเสียงข้างมากให้ถอนร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ออกจากระเบียบวาระการประชุม เพื่อนำกลับไปปรับปรุงใหม่เสียก่อน
เรื่องราวทั้งหมดก็เป็นเช่นนี้ ในความเล่นการเมืองมันมี “ความจริง” แฝงอยู่ด้วย และเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ผลัดกันคนละที.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ
เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569
'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'
ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ
แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ
วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน
รัฐบาลอ่อนหัด โครงสร้างล้าหลัง ฉุดเชื่อมั่น'อนุทิน-ภท.'จมดิ่งกับน้ำท่วม
วิกฤตมหาอุทกภัยถล่ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ สร้างความหายนะราวกับคลื่นสึนามิ ซากปรักหักพังของเมืองเสมือนวันสิ้นโลก
ปี69เดือด!เลือกตั้งทุกระดับ 'กกต.-ประชาชน'ตัดสินอนาคต
ปี 2569 กลายเป็นปีที่ท้าทายที่สุดสำหรับประชาธิปไตยไทย ด้วยการเลือกตั้งหลายระดับที่กระชั้นชิดกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่คาดว่าจะพ่วงด้วยการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบันทึกความเข้าใจ (MOU)


