
หลังจาก อุ๊งอิ๊ง-‘น.ส.แพทองธาร ชินวัตร’ หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ประธานคณะกรรมการด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย แสดงวิสัยทัศน์ในวันประชุมใหญ่วิสามัญพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.
เปิดแนวคิดม็อตโต เตรียมนำไปใช้ในการหาเสียงจาก ‘พรุ่งนี้ เพื่อไทย’ เป็น ‘คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’ พร้อมกับฉายแนวคิดภายใต้เงื่อนไข หากพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง มีนโยบายพลิกฟื้นประเทศไทยภายในปี 2570
- ค่าแรงขั้นต่ำ 600บาทต่อวัน / เงินเดือนปริญญาตรี 25000 บาทต่อเดือน
- สร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3 ล้านล้านบาทต่อปี
- สร้างบล็อกเชนของไทยเป็นช่องทางในการขายสินค้าเกษตร
- เป็นรัฐบาลดิจิทัลเต็มรูปแบบ ทุกหมู่บ้านมีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง สถานที่สาธารณะมีไวไฟฟรี
- อัปเกรด 30 บาทรักษาทุกโรค รักษาได้ทั่วประเทศ / ใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทั่วประเทศ
- ฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกฟรี ในเด็กหญิงอายุ 9-11ปี / ในปี 2570 ผู้ป่วยทางจิตสามารถรับคำปรึกษาผ่านระบบ Telemedicine
- มีโรงเรียน 2 ภาษาในทุกท้องถิ่น
- ปราบปรามยาเสพติด
- ถมทะเลด้านบางขุนเทียน จนถึงสมุทรปราการ สมุทรสาคร ป้องกันน้ำทะเลหนุนท่วมกรุงเทพฯ
- ในปี 2570 สร้างรถไฟรางคู่ในทุกเส้นทาง ทำให้รถไฟวิ่งได้ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง / รถไฟฟ้าจัดระเบียบใหม่ เพื่อใช้ระบบตั๋วร่วม 20 บาทตลอดสายให้ได้ก่อนปี 2570
- รื้อโครงสร้างราคาพลังงานทันที
- เปิดให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีความพร้อม
เพื่อไทย ประกาศโรดแมปยุทธศาสตร์ เช็กเสียง ฐานคะแนน ผู้สนับสนุนพรรค ให้ได้เห็น ทิศทาง นโยบายครอบคลุมทั้งในด้านการเมือง สาธารณสุข เรื่องทางสังคม การคมนาคมขนส่ง เทคโนโลยี ท่องเที่ยว รวมไปถึงเมกะโปรเจกต์ ต้องใช้เงินมหาศาลในการลงทุน ก่อสร้าง สร้างความหวาดหวั่น เมกะโปรเจกต์ถมทะเล สร้างรถไฟทางคู่ ติดตั้งไวไฟให้ทั่วในที่สาธารณะ พรรคเพื่อไทยจะสามารถผลักดัน ทำให้เป็นจริงได้หรือไม่
เรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน เงินเดือนปริญญาตรี 25,000 บาทต่อเดือน หลังจากพรรคเพื่อไทยเปิดแนวคิดนี้ไปก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ถกเถียงในวงกว้างทันที ภาคการเมืองคัดค้านทันที นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ชี้แจงผ่านการให้สัมภาษณ์ทีวีช่องหนึ่ง ถึงนโยบายค่าแรง 600 บาทต่อวัน ของพรรคเพื่อไทยว่า
‘...คนก็ย้อนมาพรรคที่สังกัดอยู่ ถ้าผมมีส่วนร่วมในการขึ้นค่าแรง จะไม่เขียนนโยบายเรื่องค่าแรง ต้องมีคณะกรรมการไตรภาคีเข้ามาพิจารณา ดูทั่วโลก ไม่มีประเทศไหนประกาศเรื่องค่าแรงมาหาเสียง จะเป็นกับดักนักลงทุน เพราะถ้าเขาจะมาลงทุน ก็ต้องดูค่าแรงขั้นต่ำ อย่างนี้จะเห็นความมั่นคงในการลงทุนหรือไม่ ที่จะขึ้นภายในปี 2570 หากปรับโดยสภาพ ค่าแรงปรับไปปีละ 7-8 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว ค่าแรง 425 บาท (ของพรรคพลังประชารัฐ) ไม่ได้เข้ามาตอนเขียนนโยบายนี้ แต่เมื่อเข้ามาแล้ว ก็ต้องรับผิดชอบ’
ฝ่ายเพื่อไทย ไม่เพียงออกมาตอบโต้ภาคการเมือง ไม่เห็นด้วยกับการขึ้นค่าแรง พลางย้อนกลับ นโยบายพลังประชารัฐ ค่าแรง 425 บาท จนถึงวันนี้ ยังทำไม่ได้
“ไม่แปลกเลยที่คนจะคิดว่าต้นทุนจะเพิ่มขึ้น วันนี้ยังคิดไม่ได้ ค่าแรงขึ้นเป็น 600 บาทยังคิดไม่ได้ เพราะเศรษฐกิจยังไม่ดี เมื่อเศรษฐกิจดีทั้งระบบแล้วจะไปโดยธรรมชาติของเศรษฐกิจ การเติบโตทางเศรษฐกิจ เราต้องการเติบโตทั้งระบบทั้งประเทศ คนทุกชนชั้น ทุกฐานะได้รับประโยชน์ มีโอกาส มีศักดิ์ศรี มีเกียรติที่จะสามารถออกมาใช้ชีวิตจับจ่ายใช้สอย ลดหนี้สิน ดูแลครอบครัวได้ คือคอนเซ็ปต์ที่เราเปลี่ยนตั้งแต่แคมเปญพรรคว่า เราต้องคิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน ปัญหามีนานแล้ว คิดเล็กปัญหาไม่จบ ต้องคิดใหญ่แก้ปัญหาทั้งระบบ”
แพทองธาร ในฐานะผู้จุดประกาย โปรเจกต์ค่าแรง 600 บาทต่อวัน แจกแจงเน้นย้ำทำได้จริง
เพื่อไทยตั้งเป้าแลนด์สไลด์ในการเลือกตั้ง ดังนั้นจึงต้องโฟกัสกลุ่มฐานรากที่เป็นฐานเสียงใหญ่ จึงต้องออกแคมเปญที่แรง ตรงใจ แคมเปญรอบนี้ที่ออกมา มีทั้งคงนโยบายประชานิยม พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน ที่เคยได้มาแล้ว และต่อยอดเพิ่มเติมให้เข้ากับยุคสมัยในยุคพรรคเพื่อไทย เพื่อหวังดึงคะแนนเสียงให้ได้มากที่สุด
แนวคิดค่าแรง 600 บาทต่อวัน ภายในปี 2570 เป็นเรื่องถกเถียงในวงกว้าง ทั้งภาคเอกชน ผู้ประกอบการ หอการค้า นักวิชาการ ภาคการเมือง มีทั้งขานรับ สนับสนุน ต่อต้าน เป็นอีกครั้งที่พรรคเพื่อไทยผนวกใช้กลยุทธ์การหาเสียง ใช้การตลาดนำการเมือง หวังผลฐานเสียงให้เป็นผลพลอยได้ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางการเมือง ชนะการเลือกตั้งเป็นหลัก
แนวคิดค่าแรง 600 เป็นประเด็นร้อนทางการเมือง ทำได้ ไม่ได้ จะได้ทำหรือไม่ ยังไม่รู้ แต่ในมิติการตลาดนำการเมือง ช่วงชิงความได้เปรียบ พรรคการเมืองอื่นไปแล้วหนึ่งก้าว ค่าแรง 600 ปริญญาตรี 25,000 ติดหูติดตลาดทั้งในทางการเมืองและชาวบ้าน
เสียงติเตียนที่มาพร้อมข้อเสนอแนะ ยังนำไปต่อยอด ปิดจุดอ่อน ในเชิงนโยบายในวันข้างหน้าได้อีกด้วย ชนิดที่ ยิ่งด่า ยิ่งปัง ยิ่งดัง ยิ่งคุ้ม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ
เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569
'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'
ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ
แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ
วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน
รัฐบาลอ่อนหัด โครงสร้างล้าหลัง ฉุดเชื่อมั่น'อนุทิน-ภท.'จมดิ่งกับน้ำท่วม
วิกฤตมหาอุทกภัยถล่ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ สร้างความหายนะราวกับคลื่นสึนามิ ซากปรักหักพังของเมืองเสมือนวันสิ้นโลก
‘สุชาติ’ กำชับ การช่วยเหลือประชาชนน้ำท่วมใต้ ต้องเป็นเอกภาพ .. สั่งศูนย์ฯ ทส. บูรณาการใกล้ชิดร่วมกองบัญชาการสั่งการ ค่ายเสนาณรงค์
นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่หาดใหญ่ จ.สงขลา และพื้นที่ภาคใต้


