
เริ่มนับหนึ่งเปิดหน้าไปต่อทางการเมืองอย่างเต็มตัว ในนามสมาชิก “พรรครวมไทยสร้างชาติ” หรือ รทสช. และว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค หลัง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถือฤกษ์เขียนใบสมัครสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติแบบตลอดชีพ เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา
โดยมี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค เป็นสักขีพยาน ก่อนเปิดตัวยิ่งใหญ่จัดเต็มที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ท่ามกลางสมาชิกพรรคร่วมหมื่นคนที่มารอต้อนรับ ให้กำลังใจ และรับฟังการเปิดใจครั้งสำคัญของ “บิ๊กตู่” ถึงทิศทางก้าวต่อไปเพื่อคนไทยทั้งชาติ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า “เป็นครั้งแรกในชีวิตในการสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง และเป็นพรรครวมไทยสร้างชาติ”
ภายหลังการสวมหมวกสมาชิก รทสช.ของ พล.อ.ประยุทธ์ครั้งนี้ ท่ามกลางการจับตาจากหลายฝ่ายทางการเมือง ที่มองเรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบในการเลือกตั้งด้วย ณ เวลานี้ สถานะ พล.อ.ประยุทธ์สวมหมวก 2 ใบ ทั้งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและสมาชิกพรรค รทสช. อีกทั้งล่าสุดยังดึง 3 ขุนพลสำคัญจากพรรครวมไทยสร้างชาติ
คือ นายชัชวาลล์ คงอุดม นายชุมพล กาญจนะ และนายเสกสกล อัตถาวงศ์ สมาชิกพรรค รทสช. มานั่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งโดย พล.อ.ประยุทธ์ ในวันเดียวกันกับที่ พล.อ.ประยุทธ์ไปเขียนใบสมัครสมาชิก รทสช. หลังก่อนหน้านี้แต่งตั้งคนของ รทสช. คือ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และนายพีระพันธุ์ หัวหน้าพรรค รทสช.เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีแล้ว
สำหรับก้าวต่อจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์เตรียมลุยสนามการเมืองเต็มที่ในหมวก รทสช. โดยจะใช้ช่วงเวลาหลังราชการ หรือวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เพื่อไม่ให้ผิดระเบียบต่างๆ ขณะที่ในส่วนของพรรค รทสช.ได้เตรียมวางแพลนกิจกรรมในต่างจังหวัดไว้บ้างแล้ว ก่อนเคาะวันเวลาที่เหมาะสมและลงตัว รวมถึงการทยอยเปิดตัวบุคคลสำคัญที่จะเข้ามาร่วมงานกับพรรคจะยังมีอีกต่อเนื่อง
นอกจากนี้การบ้านชิ้นสำคัญของ พล.อ.ประยุทธ์ และพรรค รทสช.คือการจัดวางตัวผู้สมัคร ส.ส.ให้ครบตามกติกาของการเลือกตั้ง ที่ถึงแม้แกนนำพรรคจะออกมาระบุว่า ทางพรรคได้เฟ้นหาว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่มีแต่ตัวดีเข้ามา เป็นคนที่ประชาชนในพื้นที่ยอมรับและเทคะแนนให้ก็ตาม แต่ด้านนโยบายเศรษฐกิจของพรรค รทสช.ที่ประชาชนจับตามากที่สุด ขณะนี้ยังไม่เป็นรูปธรรมเมื่อเทียบกับพรรคใหญ่พรรคอื่น ดังนั้นยังต้องมาลุ้นผ่านด่านสำคัญ ที่ในการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้ จะต้องมีเสียง ส.ส.ไม่น้อยกว่าร้อยละห้าของจำนวนทั้งหมด หรือ 25 เสียง
ทั้งนี้ หากสแกนในส่วน ส.ส.ที่จะมาร่วมงานกับ รทสช.จากพลังประชารัฐ (พปชร.) สายของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เช่น น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ ร.ต.อ.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี นายสมพงษ์ โสภณ ส.ส.ระยอง นายรณเทพ อนุวัฒน์ ส.ส.ชลบุรี นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา น.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี นายสาธิต อุ๋ยตระกูล ส.ส.เพชรบุรี นายสมบัติ อำนาคะ ส.ส.สระบุรี เป็นต้น
ขณะที่ ส.ส.พลังประชารัฐ ในสายของ “เสธ.หิ” นายหิมาลัย ผิวพรรณ ที่ประกาศตัวชัดเจนว่าพร้อมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ได้แก่ นายสุรชาติ ศรีบุศกร ส.ส.พิจิตร นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสววรค์ นายมานัส อ่อนอ้าย ส.ส.พิษณุโลก ที่เตรียมส่งลูกชายลงสมัคร ส.ส.แทน
สำหรับ ส.ส.จากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้แก่ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร ส.ส.นครปฐม น.ส.พิมภัทรา วิชัยกุล ส.ส.นครศรีธรรมราช น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี นายเจือ ราชสีห์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงนายสุพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรครวมพลังด้วย
ขณะเดียวกันยังมีทีมนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการเลือกตั้ง ประกอบด้วย นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายก อบจ.สุราษฎร์ธานี นายกวิสุทธิ์ ธรรมเพชร นายก อบจ.พัทลุง นายนพพร อุสิทธิ์ นายก อบจ.ชุมพร นายชัยยะ อังกินันทน์ นายก อบจ.เพชรบุรี นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา เป็นต้น
และสำหรับในส่วนโครงสร้างพรรค รทสช.ที่มองว่าอาจมีการปรับเพื่อรองรับ พล.อ.ประยุทธ์ ภายหลังเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรค เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์มีบทบาทนำภายในพรรคอย่างเต็มตัว ไม่ใช่แค่สมาชิกนั้น ที่มีการพูดถึง "ซูเปอร์บอร์ด" ซึ่งในส่วนนี้ยังต้องดูข้อกฎหมายว่าทำได้หรือไม่ แต่ในการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรค รทสช. เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา ยังคงมีกรรมการบริหารพรรค ภายใต้การนำของนายพีระพันธุ์ รวมทั้งสิ้น 9 คนเช่นเดิม
คือ นายพีระพันธุ์ หัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ เลขาธิการพรรค นายปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ เหรัญญิกพรรค นายเกรียงยศ สุดลาภา นายทะเบียนพรรค ขณะที่กรรมการบริหารพรรค ได้แก่ นายวิทยา แก้วภราดัย นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง นายชื่นชอบ คงอุดม นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร และนายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์
ส่วนเส้นทางการเมืองของ “ประยุทธ์” หลังสตาร์ทที่ “รวมไทยสร้างชาติ” แล้ว จะสามารถนำพาไปสู่ชัยชนะทางการเมืองได้หรือไม่ เดิมพันครั้งนี้คงต้องรอดูกันต่อไปในสนามเลือกตั้งที่จะถึงนี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ส้มขีดเส้นโหวตก่อนปีใหม่!
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
'ไอติม' เลี่ยงยื่นซักฟอก ใช้กลไกอื่นตรวจสอบรัฐบาลแทน
'พริษฐ์' ปัดตอบยื่นซักฟอกรัฐบาล ขอใช้กลไกอื่นของสภาตรวจสอบเข้มข้นแทน เชื่อถกแก้ รธน. วาระ 2 จบภายใน 3 วัน นัดประชุมวิปฝ่ายค้านวางกรอบ 9 ธ.ค.
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%
'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2
'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'
นายกฯ ประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล 'ร.9'
นายกฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 'ในหลวง ร.9' วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. 2568
หยิกเล็บเจ็บเนื้อ! 'ภท.-พท.' โต้เดือดพัวพัน 'เบน สมิธ'
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า กรณีเบน สมิธ : ภูมิใจไทย-เพื่อไทย หยิกเล็บเจ็บเนื้อ


