ความเคลื่อนไหว “เลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์” ในยามที่พรรคตกต่ำถึงขีดสุด ก่อนหน้านี้มีข่าวลือ ข่าวปล่อยเพียบ ถึงประเด็นแคนดิเดตหัวหน้าพรรค ปชป.
เริ่มตั้งแต่ “มาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. “นายกชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา “ดร.เอ้” สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. “ดร.บิล” อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ แม้แต่ชื่อของ “ตั๊น” จิตภัสร์ กฤดากร อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ “มาดามเดียร์” วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนโยบายนวัตกรรม กทม. ก็ยังมี
แต่เมื่อเวลางวดเข้ามา เหลืออีกเพียงไม่กี่วันต้องเลือกผู้นำคนใหม่ วันอาทิตย์ที่ 9 ก.ค.นี้ ก็เริ่มมีหลายคนที่ตกเป็นข่าวลือ ทั้ง ดร.บิล และ ตั๊น จิตภัสร์ ออกมาแสดงความประสงค์ถอนตัว ไม่ต้องการสมัครแข่งชิงเก้าอี้หัวหน้าพรรค
ส่วนรายชื่อที่เหลือข้างต้นยังมุดดิน ขมุกขมัว ยังไม่นิ่ง ว่าแต่ละท่านจะชิงตำแหน่งใดระหว่าง หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และรองหัวหน้าพรรค กทม. ยกเว้น “อภิสิทธิ์” เท่านั้นที่มีชื่อตั้งแต่ต้นเป็น “หัวหน้าพรรค ปชป.”
ทว่า “อภิสิทธิ์” มาด้วยเงื่อนไขที่ “หัวหน้ามุ้ง ส.ส." รับไม่ได้ เรื่องแรกคือจำนวนสัดส่วนของคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เรื่องสอง การนำพาพรรคเป็นฝ่ายค้าน แต่ถึงอย่างไร ข่าวล่ามาแรงรอบนี้ “หัวหน้ามาร์ค-อภิสิทธิ์” สู้!!!
ขณะที่ฝ่าย “เฉลิมชัย ศรีอ่อน ก็ไม่ถอยเช่นกัน!!
แต่ดูเหมือนกติกาข้อบังคับพรรคจะไม่เอื้อให้หลายคนได้กลับมามีตำแหน่งในพรรคง่ายๆ พอยต์สำคัญคือ น้ำหนักคะแนนขององค์ประชุมแต่ละคนไม่เท่ากัน โดย ส.ส.ปัจจุบันจะมีน้ำหนักคะแนนอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนองค์ประชุมที่เหลือคือ 30 เปอร์เซ็นต์
ฉะนั้น จึงเกิดการเคลื่อนไหวจาก “เชาว์ มีขวด” อดีตรองโฆษก ปชป. แฟนคลับตัวยงของ “เดอะมาร์ค” เสนอให้ที่ประชุมใหญ่ใช้เสียง 3 ใน 5 ขององค์ประชุม ให้ยกเว้นข้อบังคับข้อ 87 (1),(2) ที่ให้ถือเกณฑ์คำนวณคะแนนเสียงในการเลือกตั้งสัดส่วน ส.ส. 70 เปอร์เซ็นต์ และสมาชิกอื่นที่เป็นองค์ประชุม 30 เปอร์เซ็นต์ โดยให้ใช้เสียงข้างมากของผู้ลงคะแนนเสียง เพื่อให้ทุกคะแนนเสียงขององค์ประชุมใหญ่ มีหนึ่งเสียงหนึ่งโหวตเท่ากันในการกำหนดชะตาครั้งสำคัญของพรรค
“ราเมศ รัตนะเชวง” โฆษกพรรค ปชป. เปิดเผยว่า องค์ประชุมเลือกหัวหน้าพรรคและ กก.บห.ชุดใหม่ มีจำนวนทั้งหมด 374 คน ประกอบด้วย กก.บห.ชุดรักษาการ สมาชิกที่เคยเป็นหัวหน้าหรือเคยเป็นเลขาธิการพรรค 1 คน, ส.ส.ปัจจุบัน 25 คน, อดีต ส.ส. 85 คน, สมาชิกที่เป็นรัฐมนตรี 2 คน, อดีตรัฐมนตรี 19 คน
สมาชิกที่เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ที่พรรคส่งลงสมัคร 1 คน, สมาชิก อบจ. (ส.อบจ.) 1 คน, สมาชิกพรรคจากต่างจังหวัดมีสาขาพรรค 20 คน, ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด 172 คน และอื่นๆ 20 คน
ขณะที่ความเคลื่อนไหวกลุ่ม “พี่ใหญ่” ของ ส.ส.หลายคนนั้น มีเรื่องเมาธ์มอยว่าไปชักชวนหลายคนมาเป็น “หัวหน้าพรรค” แต่ยังไม่มีใครตอบรับชัดเจน ล่าสุด ลือว่าไปชักชวน ดร.เอ้-สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ มาเป็นหัวหน้าพรรค แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะแบ่งรับแบ่งสู้ เพราะต้องยอมรับว่านาทีนี้ต่อให้เป็น “เทวดา” ก็ยังต้องกุมขมับกับความนิยมพรรคในหมู่ประชาชนที่ไม่เหมือนกับในยุคที่เฟื่องฟู
คงต้องจับตาวันศุกร์ที่ 7 ก.ค.นี้ ว่าจะมีความชัดเจนจากกลุ่มดังกล่าวอย่างไร จะได้ใครมาเป็นตัวแทนกลุ่มเพื่อชิงหัวหน้าพรรค และนำพาพรรคร่วมเป็นรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ด่านหินอยู่ที่ฝ่ายใดจะรวบรวมเสียงโหวตเตอร์ได้มากกว่ากัน ในช่วงที่ขอยกเว้นข้อบังคับพรรค โดยตอนนี้ที่ปรากฏเป็นข่าวก็คือ มีการรวมตัวของตัวแทนสาขาพรรคภาคอีสานสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ และมีรายงานข่าวอีกว่าจะมีภาคอื่นๆ ออกมาในลักษณะเดียวกันด้วย
ทว่า “นิพนธ์ บุญญามณี” นายหัวแห่งสงขลา เป็นอีกหนึ่งแกนนำที่ต้องจับตา เพราะไปอยู่ขั้วใดความเป็นไปได้ในการเข้าใกล้ชัยชนะจะยิ่งมีมากขึ้น เพราะเขาก็มีทรัพยากรพอสมควร มีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาว่าต้องดู “นายหัวชวน หลีกภัย” และ “บัญญัติ บรรทัดฐาน” ครูทางการเมืองของ “นายหัวนิ” จะเชียร์ใคร เพราะถึงอย่างไร “นิพนธ์” ก็ไม่มีทางหักครูทั้ง 2 ท่านอย่างแน่นอน
เอาเป็นว่าใครมาก็ได้ บริหารพรรคให้เข้าท่า เป็นหลักของประเทศให้ได้ อย่าให้ใครครอบงำแล้วกัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' ขี่กระแสชาตินิยม รวมบ้านใหญ่สู่รัฐบาล 4 ปี
“ประเทศไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่ม แต่จำเป็นต้องปกป้องตัวเอง”, “รัฐบาลสนับสนุนการทำหน้าที่ของกองทัพอย่างเต็มที่”, “นี่เป็นเรื่องของสองประเทศ ไม่ใช่เรื่องของคนนอก” และ “การหยุดยิงจะเกิดขึ้น ก็ต่อเมื่อกัมพูชาแสดงความจริงใจ และต้องแสดงออกอย่างเป็นรูปธรรม”
ศึกชิง ‘เมืองกล้วยไข่’ ‘กล้าธรรม’ ปะทะ ‘รัตนากร’
1 ในพื้นที่เป้าหมายสำคัญของ ‘พรรคกล้าธรรม’ ภายใต้การนำของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าพรรค คือ จ.กำแพงเพชร
เปิดขั้นตอนหย่อนบัตร8ก.พ.69 บัตร3ใบเลือกตั้งพ่วงประชามติ
ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูกาลการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) อย่างเป็นทางการ โดยในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่จะมีการเลือกตั้ง สส. พร้อมกับการทำประชามติหนึ่งเรื่องในวันเดียวกัน โดยกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 17.00 น. ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
'ภท.-ปชน.' แตกหักปม112 'พท.' ตัวแปรรอร่วมรัฐบาล
การเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 กำลังเดินหน้าเข้าสู่ช่วงโค้งสำคัญ พรรคการเมืองต่างเร่งนำเสนอนโยบาย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และทีมรัฐมนตรี เพื่อขอโอกาสประชาชนเข้ามาบริหารประเทศในอีก 4 ปีข้างหน้า
‘อภิสิทธิ์’ ขอคะแนน กทม. ชี้ 2 เดือน กระแส ปชป. ดีขึ้น ย้ำการเมืองสุจริต
หัวหน้าประชาธิปัตย์ระบุ กระแสตอบรับช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาเป็นบวก ย้ำไม่มีใครเป็นเจ้าของประชาชน ตั้งคำถามเลือกตั้ง กทม. สองรอ
'อภิสิทธิ์' นำทัพ ปชป. พา 33 ผู้สมัคร สส.กทม. ไหว้พระแม่ธรณีก่อนสมัครเลือกตั้ง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคฯ และนางการดี เลียวไพโรจน์ รองหัวหน้าพรรคฯ และแคนดิเดตนายกรัฐมนต

