จับตาโหวตนายกฯ 19 ก.ค. แผนเตะตัดขา “พิธา” ฝันค้าง

วันนี้เป็นก้าวสำคัญของการเมืองไทยอีกก้าวหนึ่ง มี 2 ประเด็นต้องติดตาม หนึ่ง ที่รัฐสภา นัด ส.ส.และ ส.ว.โหวต พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีของไทย คนที่ 30 จะสำเร็จหรือไม่

สอง คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ นัดเวลา 09.30 น. ประชุม โดยมีวาระพิจารณาคำร้องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ว่า สมาชิกภาพของ ส.ส.ของ “พิธา” สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่ ทั้งนี้ หากปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่า ผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้องจริง ก็จะมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.ไว้ จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย

ในส่วนของการประชุมรัฐสภา ก็ใช่ว่าเปิดประชุมแล้วจะลงมติได้เลย ทว่า ยังต้องเปิดให้สมาชิกอภิปรายถกเถียงกันอีกว่า จะเสนอชื่อ “พิธา” ซ้ำได้อีกหรือไม่ ฝ่ายหนึ่งอ้างข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ 41 ห้ามเสนอญัตติซ้ำในสมัยประชุมเดียวกัน

อีกฝั่งเห็นว่าข้อบังคับดังกล่าวใช้ในญัตติทั่วๆ ไป แต่สำหรับการโหวตนายกฯ มีกำหนดแยกไว้เป็นหมวดเฉพาะ คือ หมวด 9 ระหว่างข้อ 136-139 จึงสามารถเสนอชื่อ “พิธา” ได้

ดังนั้นต้องจับตาไปที่ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ว่าจะตัดสินใจอย่างไร โดยเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา “ประธานวันนอร์” บอกขอดูหน้างานก่อนว่าจะวินิจฉัยด้วยตนเอง หรือขอมติที่ประชุม

ถ้าหาก “วันนอร์” เลือกที่จะขอมติจากที่ประชุม ก็พอประเมินออกว่า “พรรคเพื่อไทย” จะได้ประโยชน์จากจุดนี้มากที่สุด โดยไม่จำเป็นที่จะต้องยกมือเห็นด้วยกับข้อ 41

เพราะลำพังแค่เสียงจาก “พรรคซีกรัฐบาลรักษาการ” ที่ออกมาเด้งรับคล้อยตามข้อ 41 บวกกับเสียง ส.ว.ในฐานะคนเปิดเกม ก็พอที่จะคว่ำ “พิธา” ในรอบ 2 ได้ ถ้าผลออกมาเช่นนั้น การประชุมวันนี้ก็จะปิดประชุมเร็ว

มองข้ามไปที่ช็อตต่อไปก็ต้องเปิดทางให้แก่ “พรรคที่มีคะแนนนิยมสูงที่สุดเป็นอันดับ 2” ได้จัดตั้งรัฐบาล โดยความคืบหน้าล่าสุด เหมือน “ก้าวไกล” จะถอยให้ “เพื่อไทย” เป็นฝ่ายจัดตั้งแทน แต่เงื่อนไขที่กำหนดว่าจะต้องมีก้าวไกลอยู่ด้วยนั้น ก็เท่ากับไม่ได้ถอยจริง                

 “เพื่อไทย” มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลก็จริง แต่ถ้ายังมี “ก้าวไกล” ล็อกขาอยู่ อย่างไรเสีย ส.ว.และพรรคซีกรัฐบาลรักษาการ ก็ไม่โหวตให้ “เพื่อไทย” อยู่ดี

ความจริงอันกระอักกระอ่วนคือ เพื่อไทยจะต้องเขี่ยก้าวไกลทิ้งเท่านั้น จึงจะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จผล แล้วค่อยดึงพรรคอื่นๆ ร่วมรัฐบาล

ฝั่ง “ก้าวไกล” เองก็มีแรงกดดันเช่นกัน เพราะถ้าไม่ยอมถอยไปเป็นฝ่ายค้าน ประเทศก็เกิดเดดร็อกเดินหน้าไม่ได้ ไปๆ มาๆ จะได้ใช้รัฐธรรมนูญ มาตรา 272 วรรคสอง ยกเว้นไม่เสนอชื่อนายกฯ จากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง ตามที่ “ซือแป๋มีชัย ฤชุพันธุ์” คิดหาทางออกไว้

ฉะนั้น ก้าวไกลยอมถอย เพื่อก้าวที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิมดีกว่าหรือไม่ นอกจากทำให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไปได้แล้ว ยังได้คะแนนสงสัยจากประชาชน ผนังทองแดง กำแพงเหล็ก การเลือกตั้งคราวหน้า “พิธา” อยู่หรือไม่ ไม่รู้ “ก้าวไกล” อยู่หรือไม่ ก็ไม่รู้เช่นกัน แต่ที่รู้มีคนไทยไม่น้อยที่จะเลือก “เลือดแท้ก้าวไกล” อย่างแน่นอน

ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลรอบนี้ ปล่อยให้เป็นเรื่องปวดหัวของ “เพื่อไทย” ดีกว่า เพราะมีภารกิจต้องนำ “นายใหญ่” ของเขากลับบ้านเกิด โดยอาศัยเสียงของฝ่ายขวา ซึ่งเป็นเสียงที่ “เพื่อไทย” เคยต่อสู้มาโดยตลอด แต่นาทีนี้ต้องหลับหูหลับตา ที่สำคัญ เพื่อไทยต้องเผชิญกับคำถามจากพลพรรค “แดงเพื่อไทย” ว่า ไม่มีทางอื่นแล้วหรือถึงต้องยืมจมูกฝ่ายคู่ต่อสู้มาหายใจ              

แล้วยิ่งพรรคเพื่อไทยชู “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกฯ เพื่อสานฝัน “โทนี่” ด้วยล่ะก็ เตรียมหาคำตอบสวยๆ ให้สาวกแดงไว้ปลอบใจตัวเอง    

สถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นตอนนี้ ทำให้นึกถึงข่าวลือก่อนหน้านี้ที่ว่า จะโดดเดี่ยว “ก้าวไกล” ให้เป็นฝ่ายค้าน เริ่มเห็นเค้าลางชอบกล!!!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ

เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569

'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'

ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย

พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ

แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ

วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน

'วันนอร์' ปลื้ม 'ยะลาโมเดล' ประสบความสำเร็จรับมือน้ำท่วม

ประธานรัฐสภา'ลงพื้นที่ให้กำลังใจ มอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ปลื้ม 'ยะลาโมเดล ประสบความสำเร็จรับมือน้ำท่วม