จบกรำศึกแถลงนโยบาย เตรียมซื้อใจ ลดค่าครองชีพ

เสร็จสิ้นไปแล้วกับการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภา เมื่อค่ำวันอังคารที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา และหลังจากนี้ รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ก็จะเข้าบริหารราชการแผ่นดินเต็มรูปแบบต่อไป

โดยในวันพุธที่ 13 ก.ย.จะมีการประชุม ครม.นัดแรกเต็มรูปแบบอย่างเป็นทางการของรัฐบาลเศรษฐา ซึ่งเรื่องสำคัญที่จะมีการนำไปพิจารณาในที่ประชุม ครม.เรื่องหลักๆ ก็คือ

 1.การแต่งตั้งข้าราชการการเมืองในตำแหน่งที่ลงตัวแล้ว

 เช่น โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หรือโฆษกรัฐบาลที่จะตั้ง นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ มานั่งในตำแหน่งดังกล่าวที่เป็นโควตาของเพื่อไทย

ขณะที่รองโฆษกรัฐบาลจากพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งจากภูมิใจไทย-พลังประชารัฐ ต้องดูว่าทั้ง 2 พรรคจะเคาะรายชื่อออกมาส่งให้ที่ประชุม ครม.เห็นชอบเลยหรือไม่ ถ้ายังไม่ส่งชื่อมา ก็ต้องเป็นสัปดาห์หน้า 19 ก.ย.

ส่วนตำแหน่งการเมืองอื่นๆ เช่น เลขานุการรัฐมนตรี-ที่ปรึกษารัฐมนตรี-กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ข่าวบอกว่าหลายกระทรวงได้ชื่อลงตัวแล้ว แต่อาจเสนอเข้าที่ประชุม ครม.สัปดาห์หน้า เช่นเดียวกับ ตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข่าวว่าก็ลงตัวแล้วเช่นกัน คือ สมคิด เชื้อคง อดีต สส.อุบลราชธานี เป็นรองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง-จักรพงษ์ ตั้งสุทธิธรรม อดีต สส.เชียงใหม่ เป็นรองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายสังคม, พงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ อดีตผู้สมัคร ส.ส.ฉะเชิงเทรา เป็นรองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ เป็นต้น

ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาล บางกระทรวงก็ทำโผข้าราชการการเมืองไว้แล้ว อาทิ กระทรวงแรงงาน ที่มี พิพัฒน์ รัชกิจประการ เป็น รมว.แรงงาน-จับกัง 1 จะมี อารี ไกรนรา อดีตหัวหน้าการ์ด นปช.เป็นเลขานุการ รมว.แรงงาน หลังทำผลงานเป็นหัวหน้าทีมเลือกตั้งภูมิใจไทยที่นครศรีธรรมราช จนพรรคได้ สส.เขตมา 2 คน ส่วนที่ปรึกษา รมว.แรงงาน คือ ธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ อดีต สส.ตาก ขณะที่กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ข่าวว่าจะเป็น สิรภพ ดวงสอดศรี ผอ.พรรคภูมิใจไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้กับพิพัฒน์มาก่อน ตอนพิพัฒน์เป็น รมว.การท่องเที่ยวฯ ตลอด 4 ปีก่อนหน้านี้ แต่ข่าวบางกระแสบอกว่า สิรภพต้องการเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีมากกว่า จึงอาจมีการสลับกับธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ เป็นต้น 

2.มติ ครม.ในเรื่องการช่วยเหลือลดค่าครองชีพประชาชน

หลังก่อนหน้านี้เศรษฐาประกาศไว้ว่าประชุม ครม.นัดแรก ก็จะมีการออกมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนด้วยการทำให้ต้นทุนพลังงานลดลง จนทำให้ค่าไฟ-ก๊าซหุงต้ม-น้ำมันดีเซล มีราคาถูกลง

ซึ่งล่าสุดเมื่อ 12 ก.ย. เศรษฐา-นายกฯ และ รมว.คลัง ก็ยืนยันว่าประชุม ครม.นัดแรก 13 ก.ย. จะมีเรื่องเหล่านี้แน่นอน

“จะมีเยอะมากในการประชุม ครม.วันที่ 13 ก.ย.นี้ ขอให้สื่อมวลชนเตรียมทำข่าวไว้ได้เกี่ยวกับนโยบายหลัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลดค่าไฟ ค่าน้ำมัน วีซ่าฟรี และอีกหลายๆ เรื่อง ซึ่งมีเรื่องเยอะมาก ไม่แน่ใจว่าจะทำให้แปลกใจหรือเซอร์ไพรส์ที่จะมีอะไรบ้าง แต่มีนโยบายเยอะและหลายๆ อย่างจะเป็นการตอบโจทย์สิ่งที่แถลงนโยบายไปบ้างในเบื้องต้น และหลายๆ พรรคการเมืองที่มาร่วมในรัฐบาลของประชาชนนี้ที่เสนอนโยบายให้กับพี่น้องประชาชนก็จะพยายามนำมาทำให้ได้เร็วที่สุด ฉะนั้นจะมีหลายเรื่อง” เศรษฐาระบุ

ส่วนเรื่อง พักหนี้เกษตรกร ที่เศรษฐาเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะทำให้เกิดผลทันทีภายในเดือนตุลาคมปีนี้ ล่าสุด ระหว่างการลุกขึ้นชี้แจงต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภาเมื่อ 12 ก.ย. ตัวนายกฯ ได้ย้ำการพักหนี้เกษตรกรไว้ว่าจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุม ครม. 13 ก.ย.นี้ด้วย

“การประชุมคณะรัฐมนตรี อย่างเป็นทางการครั้งแรกในวันที่ 13 ก.ย.นี้ น่าจะมีการนำเสนอเรื่องการพักหนี้เกษตรกรด้วย โดยเรื่องการพักหนี้เกษตรกร เรามีแนวทางเร่งด่วน โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้ได้ภายในไตรมาส 4 โดยเราจะพักเงินต้นและดอกเบี้ย รัฐบาลดำเนินการพักหนี้ดังกล่าว พร้อมแผนการสร้างรายได้ ปรับเปลี่ยนโครงสร้างการปลูกผลิตสิ่งที่ตลาดโลกต้องการในปริมาณที่เหมาะสม พร้อมทั้งตระหนักถึงภาวะโลกเดือด จึงเตรียมพร้อมนำความรู้และเทคโนโลยีมาใช้”

และอีกหนึ่งนโยบายของรัฐบาลเศรษฐา ที่จะออกมาช่วยเหลือลดค่าครองชีพประชาชนก็คือ การประกาศจะทำให้ค่าโดยสายรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีม่วง เหลือ 20 บาทตลอดสาย เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ซึ่งเรื่องนี้ออกมาจากปากของ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ระหว่างลุกขึ้นชี้แจงปัญหาการดำเนินโครงการรถไฟฟ้า 20 บาท

 หลังถูก สส.ฝ่ายค้านอภิปรายอย่างหนักเมื่อ 11-12 ก.ย.ที่ผ่านมา ในประเด็นว่า พรรคเพื่อไทยเคยหาเสียงไว้ว่าจะทำให้ค่ารถไฟฟ้าเหลือ 20 บาทตลอดสาย แต่ตอนนี้มาบอกว่าขอเวลา 2 ปี และไม่มีการเขียนไว้ในคำแถลงนโยบายรัฐบาล จนทำให้ สส.ฝ่ายค้านอภิปรายอย่างหนักว่า หาเสียงไว้แต่สุดท้ายทำไม่ได้ และเรื่องนี้เห็นชัดว่า ทำให้เรตติง-กระแสนิยมของรัฐบาลเพื่อไทยไม่ค่อยดี โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จึงน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้สุริยะต้องพลิกเกมด้วยการจะทำให้ค่ารถไฟฟ้าสายสีแดงกับสายสีม่วง ใช้ราคาเดียว 20 บาทตลอดสายไปก่อน ซึ่งแม้จะไม่ตรงใจประชาชนชาวกรุงเทพมหานครนัก เพราะคน กทม.ส่วนใหญ่จะโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่ผ่านเส้นทางหลักในกรุงเทพฯ แต่มันก็ทำให้เพื่อไทยแก้เก้อได้ว่า ทำแล้วเรื่องลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า จะได้ไม่โดนโจมตีหนักกว่านี้

 “นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายจะทำต่อไป นโยบายนี้จะเริ่มทันที เพื่อสร้างโอกาสความเท่าเทียมให้ผู้มีรายได้น้อย โดยจะรวบรวมสัมปทานเส้นทางเดินรถไฟฟ้าของเอกชนทุกสายมาเจรจา ขั้นตอนเจรจาอาจต้องใช้เวลา 6 เดือน จากนั้น 20 บาทตลอดสายจะทำได้ทันที

ส่วนเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดง “ตลิ่งชัน-รังสิต” ราคา 14-42 บาท และสายสีม่วง “บางซื่อ-คลองบางใหญ่” ราคา 14-42 บาท จะปรับราคาตลอดเส้นทางเป็น 20 บาท จะเร่งผลักดันภายใน 3 เดือน เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ขณะที่สายสีเขียวที่อยู่ในความรับผิดชอบของ กทม. ต้องให้ กทม.เป็นผู้ดำเนินการ แต่กระทรวงคมนาคมพร้อมจะสนับสนุน ยึดผลประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง” สุริยะ รมว.คมนาคม 11 ก.ย.

ความร้อนแรงของประเด็นเรื่องนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ทำให้สุริยะ-รมว.คมนาคม ต้องชี้แจงเรื่องนี้ถึง 2 รอบ โดยหลังจากชี้แจงในช่วงค่ำวันที่ 11 ก.ย.ไปแล้ว ต่อมาในช่วงเย็น วันที่ 12 ก.ย. ก็ต้องลุกขึ้นชี้แจงอีกรอบหลังถูกฝ่ายค้านอภิปรายซักถาม หาเสียงไว้ทำไมทำไม่ได้

ซึ่งการชี้แจงรอบที่ 2 “สุริยะ” ยืนยันว่า รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นนโยยายที่จะทำให้เกิดเป็นรูปธรรมได้แน่นอน ส่วนระยะเวลาที่เห็นผลเป็นรูปธรรมนั้น เนื่องจากแต่ละเส้นทางมีระบบแตกต่างกัน ทั้งเรื่องการให้สัมปทานเอกชน บางเส้นทางรัฐดำเนินการเอง หรือบางเส้นทางให้ กทม.ทำ ดังนั้นการให้เก็บ 20 บาทตลอดสายเท่ากันทุกเส้นทาง ต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะต้องใช้เวลาเจรจาและวางระบบเทคนิคการทำตั๋วร่วมเป็นระบบเดียวกัน ต้องวางระบบคอมพิวเตอร์ให้เทคนิคเหมือนกัน ทั้งนี้ เส้นทางที่รัฐจะดำเนินการได้เองคือ สายสีแดง กับสายสีม่วง จะดำเนินการทันที เพราะกระทรวงคมนาคมทำเอง ภายใน 3 เดือน

“ภายใน 2 ปี ประชาชนจะได้ใช้รถไฟฟ้าทุกเส้นทาง 20 บาทตลอดสาย การที่ไม่สามารถเห็นผลได้ทันที เพราะต้องใช้ระยะเวลาในการเจรจา และวางระบบตั๋วร่วม นโยบายนี้จะทำเพื่อคนทุกกลุ่ม นอกจากช่วยคนรายได้น้อย ยังช่วยให้คนใช้รถยนต์มาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น เพื่อลดปัญหามลพิษ” สุริยะให้คำมั่นไว้กลางที่ประชุมร่วมรัฐสภา 12 ก.ย.

เอาเป็นว่าหลังจากนี้ เมื่อรัฐบาลเศรษฐาเข้าบริหารประเทศเต็มรูปแบบ นโยบายสวยหรูต่างๆ ที่เขียนไว้ในคำแถลงนโยบายรัฐบาลเมื่อ 11-12 ก.ย.2566

เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องติดตามกันต่อไปว่า ที่รัฐบาลเศรษฐาให้สัญญากับประชาชนไว้ สุดท้ายแล้วได้เข้าไปทำจริงหรือไม่ และทำแล้วประสบความสำเร็จหรือมีปัญหาติดขัดตรงไหน เพื่อที่หากเวลาผ่านไปแล้วปรากฏว่า รัฐบาลเพิกเฉยไม่ได้ทำอย่างที่แถลงไว้

ประชาชนจะได้ส่งเสียงไปถึงรัฐบาลให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ เพราะประชาชนจะไม่ยอมโดนนักการเมืองหลอกอีกต่อไป. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คิกออฟเลือกตั้ง69เช็กความพร้อมกกต. เปิดคู่มือผู้สมัครสส.ก่อนออกหาเสียง

ประเทศไทยกำลังเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ครั้งใหม่ หลังจากพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2568 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.2568

เปิดขุมทรัพย์ แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย  ‘จุลพันธ์’ 86 ล้าน ‘สุริยะ’ รวยจริง 1.6 พันล. ซื้อเครื่องบิน 30 ล้าน

-สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เผยแพร่บัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำ

‘เท้ง’พลาดซ้ำ รีบผลัก‘ภท.’ พา‘พรรคส้ม'ผูกมัดตัวเอง

ไม่ว่าจะคิดมาดีแล้ว หรือไม่ทันระวัง การรีบประกาศว่า หากพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล พรรคประชาชนจะไปเป็นฝ่ายค้านของ ‘เท้ง’ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ถือเป็นเรื่องที่นักเลือกตั้งซึ่งมีประสบการณ์ทางการเมืองสูงไม่เลือกจะทำ

พท. ตีปี๊บ! 'ยศชนัน' เรตติ้งพุ่ง นำทัพ กทม. สมัคร 27 ธ.ค.

'ประเสริฐ' เชื่อ 'ยศชนัน' ดึงคะแนนคนที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกใครได้ เตรียมเปิดตัว สส. ทั้ง 500 คน 25 ธ.ค. เคลียร์ปม 'จาตุรนต์' ลาออกปธ.ยุทธศาสตร์

สแกน 100 ชื่อปาร์ตี้ลิสต์ 'เพื่อไทย' จับตาใช้สูตรปี66 จัดลำดับ

สแกน 100 ชื่อปาร์ตี้ลิสต์พท. แกนนำรุ่นใหญ่ ภูมิธรรม-สมศักดิ์-เสี่ยเพ้ง-สรวงศ์ ส่งลูก-หลังบ้าน-เครือญาติเข้าพรรค พวกย้ายพรรค-โยกสลับจากสอบตกเขตเพียบ จับตาอาจใช้สูตรเดิม เอาตัวเต็งรมต.ไว้ท้าย ลดแรงกระเพื่อม

ท็อปไฟว์5ข่าวดังการเมืองไทย68 ยุบสภาฯไคลแมกซ์ปิดท้ายปี

นับถอยหลังเหลือเวลาอีกแค่สัปดาห์เศษก็จะสิ้นปี 2568 เข้าสู่ปีใหม่ 2569 ที่เป็นปีมะเมีย ซึ่งตำราโหราศาสตร์บางสำนักบอกว่า จะเป็นปีม้าธาตุไฟ โดยการเมืองไทยปี 2569 เรื่องสำคัญที่สุดก็คือ การเลือกตั้ง สส.ในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 ที่จะนำมาสู่การจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง