กระทรวงที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุดกระทรวงหนึ่ง ได้แก่ “กระทรวงการต่างประเทศ” เปิดฉากมีเหตุการณ์ให้ทดสอบฝีมือการทำงานของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี และ “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ
หากจำกันได้เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุเด็กวัย 14 ปี กราดยิงที่ห้างสรรพสินค้า มีต่างชาติเสียชีวิต ไล่เลี่ยกับสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างปาเลสไตน์กับอิสราเอล ซึ่งคนไทยที่ไปทำงานที่นั่นถูกจับเป็นตัวประกัน
ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้เกือบ 2 เดือนเต็ม รัฐบาลทำงานเรื่องนี้เต็มที่ ทั้งจัดเที่ยวบินรับคนไทยที่ต้องการเดินทางกลับประเทศ จัดสถานที่พักพิงชั่วคราว ตลอดเวลาของการช่วยเหลือเกิดเสียงบ่นหลากหลาย ทั้งเรื่องเส้นทางการบินและงบประมาณที่สูญเสียไป แต่สุดท้ายก็คือ “วิธีเซฟชีวิตพลเมืองไทย” ของรัฐบาลเศรษฐา
นายกฯ เกาะติดชีวิตและความปลอดภัยของชาวไทยที่โน่น เข้ากระทรวงการต่างประเทศ นั่งหัวโต๊ะบัญชาการเอง เพื่อระดมเครื่องบินกองทัพและขอความร่วมมือเครื่องบินพาณิชย์ไปรับคนไทย ตลอดจนประสานทางการทูตขอความช่วยเหลือไปยังประเทศต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์อันดีกับปาเลสไตน์ เพื่อให้ปล่อยตัวประกันคนไทย เพราะเราไม่ใช่คู่ขัดแย้งโดยตรง แต่พอดีว่าไปทำงานอยู่ในพื้นที่ความขัดแย้งเท่านั้น
เวลาเดียวกัน ทีมงานของประธานสภาผู้แทนราษฎร “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ซึ่งได้รับการยอมรับจากทางการอิหร่าน ก็ได้ใช้ช่องทางนี้ทำงานคู่ขนาน เจรจากับแกนนำฮามาส ขอให้ปล่อยตัวคนไทยเช่นกัน โดยทีมงานดังกล่าวได้เปิดแถลงข่าวที่รัฐสภาถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกนำโดย “อารีเพ็ญ อุตรสินธุ์” ที่ปรึกษาประธานสภาฯ และครั้งที่สอง นำโดย “เลอพงษ์ ซาร์ยีด” นายกสมาคมนักเรียนเก่าไทย-อิหร่าน ในฐานะผู้ประสานงานกับทางฮามาสในอิหร่าน ซึ่งแนวโน้มภาพรวมเป็นสัญญาณที่ดี
อย่างไรก็ตาม การแถลงข่าวครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 16 พ.ย. “ดร.เลอพงษ์” คาดคะเนไว้อย่างเที่ยงตรง เขาบอกว่า “กลุ่มอามาสบอกว่าจะปล่อยตัว จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอีกไม่กี่วันเราจะได้รับข่าวดี คิดว่าไม่เกิน 10 วัน หรือเร็วที่สุดคือ 2-3 วันนับจากวันนี้จะปล่อยตัว เขาคงต้องศึกษาความปลอดภัยก่อนว่าจะปล่อยตรงจุดใด”
ต่อมา 24 พ.ย. กระทรวงการต่างประเทศแจ้งข่าวดีว่า กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันชุดแรก 12 คน และขอเปลี่ยนแปลงข้อมูลยืนยันว่าปล่อยเพียง 10 คน ในวันต่อมา ทั้งแจ้งเพิ่มเติมว่า “จากรายชื่อคนไทยกลุ่มแรกที่ได้รับการปล่อยตัวทั้ง 10 รายดังกล่าว มี 4 รายที่ทางการอิสราเอลไม่เคยแจ้งยืนยันมาก่อน ทำให้ขณะนี้ยังคาดว่ามีผู้ถูกควบคุมตัวชาวไทยอีก 20 ราย จากจำนวนเดิม 26 ราย ที่เคยได้รับการยืนยันจากฝ่ายอิสราเอลแล้ว”
จากนั้น 26-27 พ.ย. ได้มีการปล่อยตัวประกันชุดที่สอง 4 คน และชุดที่สามอีก 3 คนตามลำดับ สรุปว่า ณ เวลานี้ คนไทยได้กลับสู่อ้อมกอดแล้ว 17 คน และคาดว่าเหลือตัวประกันอีก 15 ชีวิต
โอกาสนี้รัฐบาลไทยออกแถลงการณ์ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และที่ทางการไทยได้ขอความช่วยเหลือสนับสนุน อาทิ รัฐบาลกาตาร์ อิสราเอล อียิปต์ อิหร่าน มาเลเซีย และคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ไอซีอาร์ซี) รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการเจรจาทุกฝ่ายอีกครั้ง ที่ได้ใช้ความพยายามอย่างยิ่งในการผลักดันการช่วยเหลือตัวประกันชาวไทยจนได้รับการปล่อยตัวชุดแรก
ภายหลังที่มีการปล่อยตัว “ปานปรีย์” ได้พบเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยกาตาร์ อิหร่าน ตุรกี อุปทูตอียิปต์ และผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตมาเลเซีย และยังได้พบหารือกับนาง Orna Sagiv เอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยอิสราเอล เพื่อแจ้งการเดินทางไปรับคนไทยที่ได้รับการปล่อยตัวจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล ในคืนวันที่ 27 พ.ย. และขอบคุณเอกอัครราชทูตและสถานทูตอิสราเอส ที่ช่วยอำนวยความสะดวกและประสานงานการเดินทางในครั้งนี้
ทั้งนี้ ภารกิจการเดินทางของ “รมว.ปานปรีย์” ไปอิสราเอลครั้งนี้ ระหว่าง 28-29 พ.ย. เพื่อไปเยี่ยมและรับพี่น้องคนไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันและได้รับการปล่อยตัว 3 ชุดแรกกลับประเทศไทย โดยจะเดินทางถึงไทยในวันที่ 30 พ.ย. เวลา 12.05 น. นอกจากนั้นยังไปเยี่ยมคนไทย 3 คน ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ และยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลของอิสราเอล รวมถึงจะได้พบหารือกับผู้แทนคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ ผู้แทนชุมชนไทย แรงงานไทยในอิสราเอล และเยี่ยมสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูต ตลอดจนเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ได้ดูแลให้ความช่วยเหลือคนไทยในช่วงที่ผ่านมา
ล่าสุด “ประธานวันนอร์” ฟันธงอีกครั้ง “คนไทยที่เป็นตัวประกันจะได้รับการปล่อยตัวกลับประเทศทั้งหมดแน่นอนภายในต้นเดือนธันวาคมนี้”
ฉะนั้น ขอให้ประเทศไทยได้รับข่าวดีในเร็ววัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'วันนอร์' นัดประชุมรัฐสภา 10-11 ธ.ค. ถกแก้รัฐธรรมนูญ วาระ 2
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้มีคำสั่งให้นัดประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ ระหว่างวันที่ 10 ธ.ค. และ ครั้งที่2 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ วันที่ 11 ธ.ค. เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ... ในวาระสอง ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)
จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ
เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569
'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'
ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ทรัมป์เตือนอิสราเอล อย่าแทรกแซงซีเรีย
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตือนอิสราเอลไม่ให้แทรกแซงซีเรีย “เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่อิสราเอลจะต้องรักษาการเจรจาที่มั่นคงและจริงใจกับซีเรีย และต้องไม่มีการกระทำใด ๆ ที่อาจขัดขวางการพัฒนาซีเรียให้กลายเป็นประเทศที่เจริญรุ่งเรือง” ทรัมป์โพสต์บนแพลตฟอร์ม Truth Social ของเขาเมื่อวันจันทร์ เขายังเสริมด้วยว่า “ยังมีโอกาสครั้งประวัติศาสตร์ในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ”
พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ
แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ
วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน


