‘รทสช.’เต้นสั่งเก็บเห็บเหา ล้อมคอกทำพรรคเสียชื่อ

ถึงเวลาพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ต้องเก็บกวาดทำความสะอาดพรรคครั้งใหญ่ หลังอดีตคนในพรรค นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ “เจ๋ง ดอกจิก” ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน อดีตคณะทำงานเขตตรวจราชการที่ 11 และ น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ อดีตผู้สมัคร สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ

ถูกกล่าวหาร่วมกันกับ นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติรักแผ่นดิน นักเคลื่อนไหวชื่อดัง ข่มขู่เรียกเงิน 3 ล้านบาท แลกกับการยุติการร้องเรียนโครงการสนับสนุนลดต้นทุนผลิตด้านการปลูกข้าวและโครงการปรับปรุงการผลิตสำหรับผู้ปลูกข้าว หลังทั้งหมดอ้างพบข้อพิรุธในโครงการที่ส่อไปในทางทุจริต

นำมาสู่การรวบตัว “เจ๋ง ดอกจิก” กลางทำเนียบรัฐบาล จน “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ถึงกับโวยกลางที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน

ว่าการบุกเข้ามาจับกุมกันกลางทำเนียบฯ แบบนี้เป็นการไม่ให้เกียรติสถานที่ ที่เป็นหน้าตาของรัฐบาล และทำไมตอนเช้าไปจับกุมนายศรีสุวรรณ ตำรวจยศนายพลนำกำลังไปจับกุม พอช่วงบ่ายที่จับกุมนายยศวริศ ตำรวจยศพันตำรวจเอกมาจับกุม ทั้งที่ตำรวจก็ตามมาจากบ้าน ตั้งแต่เช้าแล้ว ทำไมไม่ไปจับกุมตั้งแต่ตอนนั้น

และล่าสุดแม่บ้านพรรครวมไทยสร้างชาติ “เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” เลขาธิการพรรค สั่งเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ โดยในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งมีนายพีระพันธุ์เป็นประธาน ได้มีการถกปมของ “เจ๋ง ดอกจิก” และมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ น.ส.พิมณัฏฐาทันที

แต่ทว่าไม่ทันได้ตรวจสอบใดๆ เพราะ น.ส.พิมณัฏฐา ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคในวันเดียวกัน ส่วน เจ๋ง ดอกจิก ได้ถูกถอดพ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นชุดกรรมาธิการในส่วนของรวมไทยสร้างชาติ

นายเอกนัฏ ยังขอความร่วมมือให้ส่งรายชื่อคณะทำงานของรัฐมนตรี ประธานกรรมาธิการ รวมถึง สส.ของพรรคในกรณีที่บางคนมีการตั้งผู้ช่วย สส.เข้ามาทำงาน โดยภายในการประชุมพรรคครั้งหน้าให้ส่งรายชื่อมาให้เลขาธิการพรรค เพื่อให้รู้ที่มาที่ไปของแต่ละคน

มีรายงานด้วยว่า ในที่ประชุมพรรคยังมีการกำชับด้วยว่า ในการแต่งตั้งบุคคลใดเข้ามาทำงานให้ตรวจสอบให้ดี หากเป็นการดึงเข้ามาช่วยทำงานแบบส่วนตัวจะต้องรับผิดชอบจัดการเองหากเกิดปัญหา แต่หากเป็นคณะทำงานของพรรค เมื่อเกิดปัญหาพรรคจะจัดการเอง ซึ่งทุกคนในที่ประชุมก็รับทราบ

ทั้งนี้ หากสแกน คณะทำงานของพรรครวมไทยสร้างชาติจะแบ่งเป็นส่วนของทีมงานรัฐมนตรี ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติมีรัฐมนตรี 4 คน ประกอบด้วย นายพีระพันธุ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ขณะที่ทีมกรรมาธิการ สภาผู้แทนราษฎร ของรวมไทยสร้างชาติ มีทั้งหมด 3 คณะ โดยคณะทำงานที่ต้องส่งรายชื่อให้ตรวจสอบ ประกอบด้วย ทีมของ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร

ทีมของ นายสัญญา นิลสุพรรณ สส.นครสวรรค์ พรรครวมไทยสร้างชาติ ประธานกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร และทีมของ น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ สส.สุราษฎร์ธานี พรรครวมไทยสร้างชาติ ประธานคณะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร

และในส่วนของ สส.พรรค จะมีเฉพาะบางคนที่อาจมีการตั้งผู้ช่วยเข้ามาทำงาน

อย่างไรก็ตาม การจัดระเบียบดังกล่าวเป็นการขอความร่วมมือ โดยสารบบข้อมูลของคณะทำงานทุกคนจะอยู่ในมือของเลขาธิการพรรค ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกันและตัดไฟแต่ต้นลม ไม่ให้เกิดเรื่องอื้อฉาวสะเทือนมาถึงพรรคได้อีกในอนาคต.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ

เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569

'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'

ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย

พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ

แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ

วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน

รัฐบาลอ่อนหัด โครงสร้างล้าหลัง ฉุดเชื่อมั่น'อนุทิน-ภท.'จมดิ่งกับน้ำท่วม

วิกฤตมหาอุทกภัยถล่ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ สร้างความหายนะราวกับคลื่นสึนามิ ซากปรักหักพังของเมืองเสมือนวันสิ้นโลก

ปี69เดือด!เลือกตั้งทุกระดับ 'กกต.-ประชาชน'ตัดสินอนาคต

ปี 2569 กลายเป็นปีที่ท้าทายที่สุดสำหรับประชาธิปไตยไทย ด้วยการเลือกตั้งหลายระดับที่กระชั้นชิดกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่คาดว่าจะพ่วงด้วยการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบันทึกความเข้าใจ (MOU)