คฤหาสน์38อัลไพน์-จันทร์ส่องหล้า "ทักษิณ"แวร์ อาร์ยู หลังพักโทษ

จนถึงขณะนี้เชื่อได้ว่า ครอบครัว ชินวัตร ตลอดจนแกนนำรัฐบาลเพื่อไทยอย่าง เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี

ย่อมรู้แล้วว่าทักษิณที่จะได้รับการพักโทษช่วงวันที่ 18 ก.พ.ที่จะถึงนี้ จะออกจาก รพ.ตำรวจ ในวันใด-เวลากี่โมง และพอออกจาก รพ.ตำรวจแล้ว จะใช้สถานที่แห่งใดเป็น  house arrest หลังได้รับการพักโทษ เพราะทักษิณแม้จะได้รับการพักโทษแล้ว แต่ก็ยังเหลืออีก 6 เดือน ถึงจะได้รับอิสรภาพอย่างแท้จริง ตามที่ได้มีการพระราชทานลดโทษให้กับทักษิณ จาก 8 ปี เหลือจำคุก 1 ปี

เพียงแต่ครอบครัวชินวัตร-นายกรัฐมนตรี-แกนนำรัฐบาล ก็ต้องปกปิดไว้เป็นความลับ ต่อให้สื่อไปไล่ถาม ก็ต้องบอกว่ายังไม่รู้

 แต่เรื่องแบบนี้มีหรือ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวทักษิณ-หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จะไม่รู้ว่าทักษิณจะออกมาวันไหน

 เช่นเดียวกับผู้นำรัฐบาลอย่างเศรษฐา ที่ได้เป็นนายกฯ ก็เพราะทักษิณไฟเขียวผลักดัน แล้วตัวเศรษฐาจะไม่รู้ข้อมูลอินไซด์ว่าทักษิณจะออกจากชั้น 14 รพ.ตำรวจวันไหน และจะใช้ที่ไหนเป็นที่พักในช่วง 6 เดือนต่อจากนี้ได้อย่างไร

ไม่แน่ ตอนนี้เศรษฐาคงเตรียมจัดคิว “ว.5” ไปพบกับทักษิณ เพื่อไปร่วมแสดงความยินดี และไปคุยทางการเมืองกับทักษิณไว้แล้วตั้งแต่ตอนนี้ 

 ทั้งนี้ ตามระเบียบ-ขั้นตอนของนักโทษที่ได้รับการพักโทษ หน่วยงานที่จะมารับผิดชอบดูแลนักโทษแทนกรมราชทัณฑ์ก็คือ กรมคุมประพฤติ ซึ่งมีหลักเกณฑ์หลักๆ ที่ใช้ปฏิบัติกับนักโทษที่ได้รับการพักโทษ

ก็คือ ช่วงระหว่างการคุมประพฤติ จะมีเจ้าพนักงานคุมประพฤติหรืออาสาสมัครคุมประพฤติไปเยี่ยมที่บ้านของผู้ที่ได้รับการปล่อยตัว เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำ ดูแลช่วยเหลือสงเคราะห์เมื่อมีปัญหา

 โดยที่ผู้ถูกคุมประพฤติจะต้องประพฤติปฏิบัติตามเงื่อนไข 8 ข้อที่กำหนดไว้ หากประพฤติผิดเงื่อนไข จะถูกนำตัวกลับมาคุมขังไว้ในเรือนจำตามเดิม และจะถูกลงโทษทางวินัยด้วย โดยเงื่อนไข 8 ข้อดังกล่าวคือ

1.จะต้องพักอาศัยอยู่ตามที่อยู่ที่แจ้งไว้กับเรือนจำ

2.ห้ามออกนอกเขตท้องที่ที่อาศัยโดยไม่ได้รับอนุญาต

 3.ห้ามประพฤติตนเสื่อมเสีย เช่น เล่นการพนัน กระทำผิดอาญา

  4.ประกอบอาชีพโดยสุจริต

  5.ปฏิบัติตามลัทธิศาสนา

  6.ห้ามพกพาอาวุธ

  7.ห้ามไปเยี่ยมบ้านหรือติดต่อกับนักโทษอื่นที่ไม่ใช่ญาติ

  8.ให้ไปรายงานตัวกับพนักงานคุมประพฤติเรือนจำ เจ้าพนักงานปกครอง หรือหัวหน้าสถานีตำรวจทุกเดือน

เมื่อเป็นดังนี้ หมายถึงว่า ก่อนจะได้รับการปล่อยตัว ทักษิณจะต้องแจ้งถิ่นที่อยู่หลังออกจาก รพ.ตำรวจ ให้กับกรมราชทัณฑ์ ว่าจะใช้สถานที่แห่งใดเป็นถิ่นที่อยู่หลักในช่วงพักโทษ ซึ่งหากดูตามระเบียบขั้นตอน ก็ไม่ได้เขียนล็อกไว้ว่า ให้แจ้งได้ภายในไม่เกินกี่แหล่ง ที่หมายถึงอาจมากกว่า 1 แห่งก็ได้ และเมื่อแจ้งกับกรมราชทัณฑ์ไปแล้ว พอได้รับการพักโทษ ตัวทักษิณก็ต้องแจ้งถิ่นที่อยู่ดังกล่าวกับกรมคุมประพฤติด้วย โดยต้องเป็นถิ่นที่อยู่ตรงกัน

แน่นอนว่า หลังทักษิณได้รับการพักโทษ ทักษิณย่อมต้องกลับไปใช้ชีวิตที่ บ้านจันทร์ส่องหล้า ซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 เป็นหลักในช่วงแรก เพื่อให้หายคิดถึง

เพราะบ้านจันทร์ส่องหล้า หลังนี้มีความผูกพันกับทักษิณและครอบครัวชินวัตรมาหลายสิบปี ถือเป็นเรือนตายของทักษิณ และตระกูลชินวัตร ที่เคยผ่านทั้งจุดรุ่งโรจน์และจุดต่ำสุดในชีวิตทางการเมือง โดยมีบ้านจันทร์ส่องหล้าเป็นที่พักกาย-พักใจ

แม้ช่วงหลังจะเป็นที่รู้กันในทางการเมือง โดยเฉพาะระดับแกนนำเพื่อไทยว่า จริงๆ แล้วช่วงหลัง ครอบครัวตระกูลชินวัตร ตอนนี้มี คฤหาสน์หลังใหม่ แล้ว เรียกว่า บ้านเลขที่ 38 ที่ตั้งอยู่ด้านหลังของ Alpine Football Camp Training Bangkok หรือสนามฟุตบอลอัลไพน์ ซึ่งตั้งอยู่ริมถนน ตรงเส้นรัชดาภิเษก-รามอินทรา เขตคันนายาว ซึ่งอยู่ติดกับโครงการบ้านจัดสรรสุดหรู บางกอก บูเลอวาร์ด รามอินทรา ของบริษัท เอสซี แอสเสทฯ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ตระกูลชินวัตรถือหุ้นใหญ่

โดยคฤหาสน์บ้านเลขที่ 38 ดังกล่าว มีเนื้อที่กว้างใหญ่ไพศาล กว้างขวางกว่าที่บ้านจันทร์ส่องหล้ามาก ทำให้คนในตระกูลชินวัตรย้ายมาปักหลักที่บ้านดังกล่าวระยะหนึ่งแล้ว

 แต่ก็ยังคงใช้บ้านจันทร์ส่องหล้าเป็นที่พักและไว้รับรองแขกสำคัญอยู่บ้างในหลายโอกาส แต่ช่วงหลังก็จะมาอยู่ที่บ้านเลขที่ 38 กันเป็นส่วนใหญ่ 

ที่น่าสนใจ ก่อนหน้านี้ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ก็ออกมาเปิดเผยว่า อังคารที่ 20 ก.พ.นี้ ช่วง 17.30-21.00 น. พรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมเตะฟุตบอลสานสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลและสื่อมวลชน ที่สนามฟุตบอลอัลไพน์ โดยนายกรัฐมนตรีจะลงสนามร่วมเตะฟุตบอลด้วย โดยจะมีทั้งนายกฯ-รองนายกฯ-รัฐมนตรี-สส. หัวหน้าพรรค ที่ปรึกษารัฐมนตรี เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล-สส.และสื่อมวลชน

ก็ไม่รู้ว่า หากทักษิณออกมาช่วงวันที่ 18 ก.พ.นี้จริง แล้วแจ้งแหล่งที่อยู่กับกรมคุมประพฤติว่า มีคฤหาสน์เลขที่ 38 ด้านหลังสนามฟุตบอลอัลไพน์ด้วย แล้วถึงวันนั้น 20 ก.พ. จะมีเซอร์ไพรส์ทักษิณปรากฏกายออกมาให้เห็นหรือไม่?

แต่ก็มีข่าวอีกบางกระแสว่า ทักษิณและครอบครัวยังเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยอยู่ เพราะไม่รู้ได้ว่า ใครเป็นใคร มีการเกรงว่าจะมีคนสร้างสถานการณ์ หลังทักษิณพักโทษออกมา

จึงทำให้ความเคลื่อนไหวว่าทักษิณจะออกมาวันไหน ไปอยู่ที่ไหน เป็นหลัก ยังคงปิดไว้เป็นความลับ

 แม้ก่อนหน้านี้อุ๊งอิ๊งบอกว่า เตรียมบ้านที่จันทร์ส่องหล้าไว้รอต้อนรับทักษิณอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม

หากให้ประเมินก็คือ ทักษิณยังไงคงแจ้งแหล่งที่อยู่ในกรุงเทพฯ ว่ามีบ้านจันทร์ส่องหล้าเป็นโลเกชั่นหลักแน่นอน แต่อาจไม่ได้แจ้งไว้แหล่งเดียว อาจมีแจ้งที่คฤหาสน์หลังสนามบอลอัลไพน์ด้วย เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนไหว เพราะหากให้ไปอยู่คอนโดมิเนียม การดูแลความปลอดภัยจะยากกว่าอยู่บ้านพัก 

ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่า ช่วงแรกๆ ทักษิณคงสกรีนคนที่จะไปหาพอสมควร จะยังไม่ open ประเภทว่า พวกนักการเมือง นักธุรกิจ เพื่อนๆ ในวงการต่างๆ ใครมาขอพบ ก็ให้มาเจอได้หมด ต้องสกรีน จัดลำดับความสำคัญ ต้องระดับวีไอพีพอควร เพราะทักษิณคงขอตั้งหลักสักพัก

ขณะที่เรื่องการเมืองในรัฐบาลและในพรรคเพื่อไทย ทักษิณคงไม่ต้องตั้งหลักอะไร

เพราะที่ผ่านมาก็กดปุ่ม-วางแผน-คอยสั่งการ ทุกอย่างทางการเมือง ตั้งแต่ตอนอยู่ต่างประเทศและนอนอยู่ รพ.ตำรวจ มาตลอด 6 เดือน เพียงแต่หลังพักโทษจะทำได้เต็มที่มากขึ้น

 ให้สมกับที่คนชอบพูดกันว่า ทักษิณคือนายกฯ และหัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริง!!!. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ สั่งปราบมิจฉาชีพออนไลน์ ปิดบัญชีม้าแล้ว 7 แสนบัญชี อายัดเงินเกือบ 1 พันล้าน

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ด้วยความมุ่งมั่นใส่ใจของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ส่งผลให้รัฐบาล ปิดบัญชีม้าแล้วกว่า 7 แสนบัญชี อายัดเงินเกือบ 1 พันล้าน และอยู่ระหว่าง ตรวจสอบ เพื่อคืนเงินผู้เสียหายต่อไป

ในหลวง พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้นายกฯ นำ ครม.ชุดใหม่ เฝ้าฯ ถวายสัตย์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีนำคณะรัฐมนตรี

'เศรษฐา' เตรียมจ้อ 'นายกฯพบประชาชน' เดือนละครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เตรียมจัดรายการ “นายกฯพบประชาชน” ซึ่งจะจัดเดือนละ 1 ครั้งในวันเสาร์ เพื่อสื่อสารการทำงานของรัฐบาล และพูดคุยกับประชาชน