“บิ๊กเก่ง” ทิ้งทวนก่อนหมดอำนาจ ทำศึกชิงเก้าอี้ปลัดมท.ระอุหัววัน

ศึกชิงเก้าอี้ปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ที่จะมาแทน บิ๊กเก่ง-สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่จะเกษียณอายุในเดือนกันยายนปีนี้ ส่อเค้าเดือดระอุแต่หัววัน

หลังสุดท้าย โผโยกย้ายบิ๊กคลองหลอด นอกฤดูกาล 10 เก้าอี้ ที่เป็นการแต่งตั้งโยกย้าย ในจังหวะที่มีเก้าอี้ระดับ 10 ว่างอยู่ 2 ตำแหน่ง คือ อธิบดีกรมที่ดิน-ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์

 ทำให้สุทธิพงษ์-ปลัด ก.มหาดไทย เลยใช้จังหวะนี้ทำโผนอกฤดูกาลแบบเขย่า แต่งตั้ง-ปรับเปลี่ยนไปเลยแบบล็อตเล็กๆ 10 ตำแหน่ง จนผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม ครม.เรียบร้อยเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา 

ซึ่งการที่มีการสลับเก้าอี้กันระหว่าง ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม จากอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา แล้วโยก สิงห์เก๋า-สยาม ศิริมงคล สิงห์ดำ รัฐศาสตร์ จุฬาฯ รุ่น 45 แกนนำสิงห์ดำรุ่นยังบลัด น้องรักปลัดเก่ง สุทธิพงษ์ พี่ใหญ่สิงห์ดำ รุ่น 36 ที่ปลัดเก่งจัดให้ โดยโยกสยามจากผู้ว่าฯ นครราชสีมา มาเป็นอธิบดี พช.แทน

 ทำให้สยาม จากอดีตผู้ว่าฯ ที่อายุน้อยที่สุดในประเทศไทย ตอนเป็น ผวจ.นครพนม ในวัย 45 ปี และตอนนี้มาเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ในวัย 50 ปี ที่เหลืออายุราชการอีกถึง 10 ปี ได้ขึ้นมาเป็นแกนนำสิงห์ดำรุ่นใหม่ คุมแผงอำนาจใน ก.มหาดไทยอีกคนหนึ่งที่จะมารับไม้ต่อจากปลัดเก่ง-สุทธิพงษ์ ไปอีกหลายปี ส่วนเก้าอี้ปลัด ก.มหาดไทย ยังไงชื่อของบิ๊กเก๋า-สยาม มีโอกาสได้เป็นแน่นอน เพียงแต่จะเป็นปีไหนเท่านั้น

ซึ่งผลจากโผมหาดไทย 10 เก้าอี้รอบนี้ ทำให้ถึงตอนนี้ ชัยวัฒน์จากเต็ง 3 ลุ้นเก้าอี้ปลัดกระทรวงมหาดไทยกันยายนนี้ หลุดจากไลน์แผงอำนาจยุทธจักรสิงห์ ชิงเก้าอี้ปลัดกระทรวงมหาดไทยเรียบร้อย

และทำให้ตอนนี้เหลือคู่ชิงปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่แค่ 2 คนเท่านั้นคือ ขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เพื่อนรักสิงห์ดำ รุ่นเดียวกับสุทธิพงษ์-ปลัดมหาดไทย

ซึ่งจริงๆ ตอนแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กมหาดไทยปีที่แล้ว สุทธิพงษ์ก็จะโยกขจรมาเป็นอธิบดีกรมการปกครอง แต่นายขจรบอกขออยู่กรมท้องถิ่นดีกว่า บนสัญญาใจที่สุทธิพงษ์จะดันเพื่อนรักให้เป็นปลัดมหาดไทยคนใหม่ต่อจากตัวเอง

สำหรับขจรที่จะเกษียณปีหน้า 2568 นอกจากจะเป็นเพื่อนรักร่วมรุ่นสิงห์ดำกับสุทธิพงษ์แล้ว ยังเป็นเพื่อนร่วมรุ่น วปอ.กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย อีกทั้งยังแนบแน่น กับบ้านใหญ่ "ชิดชอบ" ของเนวิน ชิดชอบ อีกด้วย ผ่านสายสัมพันธ์ สวนกุหลาบคอนเน็กชัน เพราะขจรที่จบสวนกุหลาบรุ่น 101 มักจะไปงานและทำกิจกรรมของสวนกุหลาบบ่อยครั้ง ทำให้เจอ 3 พี่น้องตระกูลชิดชอบ ที่เป็นศิษย์เก่าสวนกุหลายบ่อยครั้ง คือ เนวิน รุ่น 90, พล.ต.อ.เพิ่มพูน รมว.ศึกษาธิการ รุ่น 96, ศักดิ์สยาม รุ่น 99 จนคุ้นเคยระดับหนึ่งกับแกนนำพรรคภูมิใจไทย 

ดังนั้นทำให้ขจรมีแรงหนุนทั้งสายข้าราชการประจำและฝ่ายการเมืองในมหาดไทยครบเครื่อง จึงถูกมองว่าเป็นเต็ง 1 นั่งปลัดมหาดไทยคนใหม่มาตลอด

 ส่วนเต็ง 2 ตอนนี้ จากเดิมคือ ชัยวัฒน์ แต่พอโดนย้ายไปเป็น ผวจ.โคราช ทำให้ชัยวัฒน์ที่เหลืออายุราชการถึงปี 2570 หลุดจากแคนดิเดตปลัดมหาดไทยคนใหม่ไปแล้ว

 เลยทำให้เต็ง 3 ขึ้นมาเป็นเต็ง 2 แทน นั่นก็คือ ไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ สายตรงพี่ใหญ่ เนวิน ชิดชอบ เพราะเคยเป็นนายอำเภอ รองผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ จนมาเป็น ผวจ.บุรีรัมย์ และเพิ่งเข้ามาเป็นอธิบดีกรมป้องกันฯ กรมใหญ่ของมหาดไทย เมื่อ 1 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งที่ผ่านมาถือว่าชื่อไชยวัฒน์มาแรงมาก แม้จะไม่ได้เป็นทั้งสิงห์ดำและสิงห์แดง เพราะจบรามคำแหง นิติศาสตร์

อย่างไรก็ตาม แวดวงนักปกครองมหาดไทยบอกว่า ถึงตอนนี้เต็ง 1 เปลี่ยนจากขจร คนมากคอนเน็กชันมาเป็นไชยวัฒน์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเรียบร้อย

 เพราะสัญญาณแรงมาจากบ้านใหญ่บุรีรัมย์ว่า จะดันไชยวัฒน์เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่

สำหรับควันหลงจากโผมหาดไทยรอบนี้ ดูแล้วคงไม่ได้มีแรงกระเพื่อมอะไรตามมา แม้ก่อนหน้านี้จะมีข่าวออกมาหลายกระแส เช่น บอกว่าการย้ายชัยวัฒน์พ้นจากอธิบดี พช.เพราะเรื่องงบประมาณของกรม พช. โดยเฉพาะงบอีเวนต์ของกรมที่มีเยอะพอควร แต่นายชัยวัฒน์ไม่สนองตอบกลุ่มหลังบ้านเครือข่ายบิ๊กคลองหลอด

รวมถึงบอกว่าเหตุที่มีการย้ายชัยวัฒน์ เพราะเป็นการเตะสกัดตัดชื่อชัยวัฒน์ออกจากการลุ้นเป็นปลัดมหาดไทยคนใหม่ รวมถึงปลัดเก่ง-สุทธิพงษ์ก็ไม่ปลื้ม แม้จะเป็นรุ่นน้องสิงห์ดำด้วยกัน

กระแสข่าวที่ออกมาดังกล่าว เห็นได้ชัดทำให้ สุทธิพงษ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นั่งไม่ติด ต้องออกมาชี้แจงรัวๆ ว่า การโยกย้ายนายชัยวัฒน์ไปเป็นผู้ว่าฯ โคราช ได้มีการพูดคุยกันก่อนแล้ว โดยนายชัยวัฒน์ได้ตัดสินใจเลือกในการที่จะไปดำรงตำแหน่ง ผวจ.นครราชสีมา เพื่อทำหน้าที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชนชาวโคราช ซึ่งเป็นจังหวัดภูมิลำเนาของภรรยา ดังนั้นที่ปรากฏข่าวว่า เตะตัดขา ไม่ใช่เรื่องจริง

เรื่องทำนองนี้ไม่ใช่ไม่เคยเกิดขึ้นในกระทรวงมหาดไทย เคยมีปลัดกระทรวงมหาดไทย คนที่ 32 คือ พงศ์โพยม วาศภูติ ซึ่งเคยเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แล้วไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และกลับมาเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และก้าวสู่ตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย คนที่ 32 ดังนั้นขอยืนยันว่า การแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย เราพิจารณาจากความเหมาะสม โดยยึดระบบคุณธรรม ความรู้ความสามารถ และที่สำคัญได้มีการพูดคุยสอบถามก่อนจะมีการเสนอ"

ซึ่งหากดูจากคำชี้แจงของนายสุทธิพงษ์ โดยยกกรณีของนายพงศ์โพยมขึ้นมาอธิบาย ก็จะเห็นได้ว่า การที่นายพงศ์โพยมที่เคยเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมาก่อน กว่าที่จะขึ้นมาเป็นปลัดมหาดไทยได้ หลังถูกย้ายไปเป็น ผวจ.โคราช ตัวนายพงศ์โพยมก็ต้องกลับมาเข้าตำแหน่งหลักในกระทรวงมหาดไทย คือรองปลัดกระทรวงมหาดไทยก่อน ถึงค่อยขึ้นเป็นปลัดมหาดไทย ดังนั้นมันก็ชัดว่า การที่ชัยวัฒน์โดนย้ายจากอธิบดี พช.เป็นผู้ว่าฯ โคราช ทำให้เจ้าตัวที่เดิมมีโอกาสได้ลุ้นเป็นปลัดมหาดไทยคนใหม่ปีนี้ หมดโอกาสลุ้นไปโดยปริยาย เพราะกว่าจะได้ลุ้นเป็นปลัดมหาดไทยอีกที ต้องกลับเข้าสู่ตำแหน่งบริหารหลักในกระทรวงมหาดไทยอย่าง รองปลัดกระทรวงมหาดไทย-อธิบดี เสียก่อนนั่นเอง

ทั้งหมดจึงเห็นได้ว่า ศึกชิงเก้าอี้ปลัดกระทรวงมหาดไทยปีนี้ส่อเค้าระอุแต่หัววัน!

 หากฝ่ายข้าราชกาประจำเครือข่ายสิงห์ดำในมหาดไทยไม่เอาด้วยกับสัญญาณจากฝ่ายการเมือง ที่จะให้ดันไชยวัฒน์สายตรงบ้านใหญ่ชิดชอบเป็นปลัดมหาดไทยคนใหม่ ไม่ใช่ขจร อธิบดีท้องถิ่นฯ แกนนำสิงห์ดำ ยุคเปลี่ยนผ่านอำนาจ ที่หากไม่มีการเคลียร์กันให้ได้ก่อน มหาดไทยป่วนแน่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ

เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569

'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'

ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย

พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ

แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ

วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน

รัฐบาลอ่อนหัด โครงสร้างล้าหลัง ฉุดเชื่อมั่น'อนุทิน-ภท.'จมดิ่งกับน้ำท่วม

วิกฤตมหาอุทกภัยถล่ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ สร้างความหายนะราวกับคลื่นสึนามิ ซากปรักหักพังของเมืองเสมือนวันสิ้นโลก

ปี69เดือด!เลือกตั้งทุกระดับ 'กกต.-ประชาชน'ตัดสินอนาคต

ปี 2569 กลายเป็นปีที่ท้าทายที่สุดสำหรับประชาธิปไตยไทย ด้วยการเลือกตั้งหลายระดับที่กระชั้นชิดกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่คาดว่าจะพ่วงด้วยการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบันทึกความเข้าใจ (MOU)