โหวต ปธ.ศาลปกครองสูงสุด “วิษณุ”ลุ้น-สภาสูงไฟเขียว?

เหลืออีกไม่กี่วันก็จะปิดสมัยประชุมรัฐสภา ที่จะปิดสมัยประชุม 10 เม.ย. ขณะที่ “วุฒิสภา” ชุดปัจจุบัน จะหมดวาระการเป็น สว. ตั้งแต่ 11 พ.ค.นี้ แต่จะต้องทำหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมี สว.ชุดใหม่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่

ในช่วงที่ สว.กำลังนับถอยหลังหมดอำนาจลง แต่การใช้อำนาจของ สว.ในช่วงท้าย ก็มีเรื่องหนึ่งที่หลายคนให้ความสนใจนั่นก็คือ

  “การโหวตให้ความเห็นชอบประธานศาลปกครองสูงสุดคนใหม่”

ที่หลายฝ่ายกำลังเฝ้าจับตาหลังมีการวิพากษ์วิจารณ์และถูกพูดถึงมาหลายสัปดาห์

โดยพบว่า การประชุมวุฒิสภาวันจันทร์ที่ 1 เมษายนนี้ จะมีการพิจารณาระเบียบวาระเรื่อง การให้ความเห็นชอบผู้ถูกเสนอชื่อเป็นประธานศาลปกครองสูงสุดคนใหม่ นั่นก็คือ “ดร.วิษณุ วรัญญู รองประธานศาลปกครองสูงสุด” ที่ได้รับเลือกจากที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2566 ให้ถูกเสนอชื่อเป็นประธานศาลปกครองสูงสุดคนใหม่ แทน วรพจน์ วิศรุตพิชญ์ ประธานศาลปกครองสูงสุดคนปัจจุบันที่จะต้องพ้นจากตำแหน่ง ในวันที่ 1 ตุลาคม 2567 และต่อมาได้มีการส่งชื่อ-ประวัติ ของนายวิษณุ และผลการพิจารณาของ ก.ศป.มาให้วุฒิสภา เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2567 ซึ่งที่ประชุมได้ตั้งคณะกรรมาธิการสามัญตรวจสอบประวัติ ความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรม

สำหรับนายวิษณุนั้นเป็นอดีตนักวิชาการที่แสดงความคิดเห็น ให้ประเทศไทยมีการจัดตั้งศาลปกครอง มาตั้งแต่สมัยเป็นอาจารย์ที่คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ โดยมีนักวิชาการหลายคนก็ออกมาเคลื่อนไหวสนับสนุนแนวทางดังกล่าว ที่รวมถึง ดร.วรพจน์ วิศรุตพิชญ์ ประธานศาลปกครองสูงสุดคนปัจจุบัน ที่เป็นอาจารย์รุ่นพี่นายวิษณุที่ธรรมศาสตร์

 ทำให้เมื่อรัฐธรรมนูญปี 2540 กำหนดให้มีการจัดตั้งศาลปกครอง และมีการเปิดศาลปกครองครั้งแรกเมื่อปี 2544 นายวิษณุก็ลาออกจากธรรมศาสตร์ไปสมัครเป็นตุลาการศาลปกครอง ยุคก่อตั้ง พร้อมกับนายวรพจน์

ดังนั้น เก้าอี้ประมุขศาลปกครองสูงสุด จึงย่อมเป็นจุดหมายปลายทาง ในเส้นทางชีวิตการสวมเสื้อครุยตุลาการศาลปกครอง ของนายวิษณุแน่นอน ส่วนจะได้เป็นหรือไม่ ก็อยู่ที่การโหวตของ สว.วันจันทร์ที่ 1 เม.ย.นี้

ทั้งนี้ ในเอกสารรายงานของคณะกรรมาธิการได้ข้อมูลว่า กรรมาธิการได้เรียกผู้เกี่ยวข้องของสำนักงานศาลปกครอง เช่น เลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง มาชี้แจงกับกรรมาธิการ รวมถึงได้ทำหนังสือขอข้อมูลในทางลับไปยังหน่วยงานต่างๆ เพื่อตรวจสอบประวัติ ความประพฤติและพฤติการณ์ต่างๆ เช่น กองบัญชาการตำรวจสันติบาล สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักงาน ป.ป.ช. รวมถึงยังได้ส่งหนังสือแบบตรวจสอบพฤติกรรมทางจริยธรรมของนายวิษณุไปยังผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชา

ตลอดจนเรียกนายวิษณุมาสัมภาษณ์ เมื่อวันจันทร์ที่ 4 มีนาคม ซึ่งมีกระแสข่าวว่า การประชุมนัดดังกล่าวใช้เวลาหลายชั่วโมง เพื่อตอบคำถามและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างนายวิษณุกับกรรมาธิการ

ซึ่งข้อมูลทั้งหมดจะปรากฏอยู่ใน เอกสารลับ ที่คณะกรรมาธิการจะนำเสนอต่อ สว.ในที่ประชุมวุฒิสภาวันที่ 1 เม.ย.นี้

อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนทั้งหมดข้างต้น ว่าไปแล้วก็เป็นขั้นตอนปกติเหมือนกับการตรวจสอบประวัติ เวลาที่วุฒิสภาจะลงมติให้ความเห็นชอบ กรรมการองค์กรอิสระ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตุลาการศาลปกครองสูงสุด

เพียงแต่รอบนี้ กรณีของนายวิษณุค่อนข้างถูกจับตามองมากเป็นพิเศษ เพราะก่อนหน้านี้สังคมโซเชียลมีเดีย และสื่อบางสำนัก เสนอข่าวและการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับทัศนคติทางการเมืองและสังคมของนายวิษณุก่อนหน้านี้อย่างกว้างขวาง จนเกิดกระแสข่าว สว.บางส่วนหนักใจแทนที่จะโหวตเห็นชอบ

และต่อมามีข่าวว่า นายวิษณุทำหนังสือเปิดผนึกถึง สว.เพื่อชี้แจงประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้น

เช่น ประเด็นเรื่องมีภาพไปร่วมงานแต่งงานของนายปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ที่มีแนวคิดชัดเจนในเรื่องการปฏิรูปสถาบัน และการแก้ไขมาตรา 112 โดยนายวิษณุที่เคยเป็นอดีตอาจารย์คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ชี้แจงว่า เป็นการไปร่วมงานแต่งงานในช่วงที่นายปิยบุตรยังเป็นอาจารย์อยู่ที่คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ แต่หลังนายปิยบุตรลาออกไปตั้งพรรคการเมืองและเล่นการเมือง ก็ไม่ได้พบกับนายปิยบุตรอีก และไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกัน

รวมถึงนายวิษณุยังได้ชี้แจงอีกหลายประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ เช่น กรณีเสียงวิจารณ์ว่ามีความเห็นลบต่อพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรี กรณีมีโพสต์แสดงความเห็นต่อข่าวการทุบบ้านสี่เสาเทเวศร์

ซึ่งประเด็นนี้ “วิษณุ-แคนดิเดตประธานศาลปกครองสูงสุดคนใหม่” ชี้แจงว่า โพสต์ดังกล่าวมิได้เขียนขึ้นเอง แต่เป็นโพสต์ที่ผมไปพบเข้าในโซเชียลมีเดีย และผมนำมาแชร์ในเฟซบุ๊กเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ ดังนั้นข้อความเหล่านั้นจึงมิใช่ข้อความตามความคิดของผม และเจตนาที่แท้จริงที่กระผมนำโพสต์ดังกล่าวมาแชร์นั้น ก็เพื่อเยาะเย้ยเสียดสีกลุ่มบุคคลที่เคยชุมนุมประท้วงและไปชุมนุมล้อมบ้านสี่เสาอันเป็นที่พำนักของ ฯพณฯ พลเอกเปรม และล้วนแต่ต้องคดีถูกลงโทษตามคำพิพากษาของศาลยุติธรรม ทำนองว่า ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ถึงแก่อนิจกรรมไปแล้ว และมีการรื้อถอนทุบทิ้งบ้านสี่เสาแล้ว สะใจกันหรือยังล่ะ กระผมมิได้มีเจตนาจะตำหนิหรือด่าว่าหรือคิดในทางลบต่อ ฯพณฯ พลเอกเปรม แต่อย่างใด

จึงเรียนชี้แจงมาเพื่อโปรดพิจารณาให้ความเป็นธรรมกับกระผมด้วย” นายวิษณุในตอนท้ายของเอกสารชี้แจงที่ส่งถึง สว.

สำหรับ วิษณุ-แคนดิเดตประธานศาลปกครองสูงสุดคนใหม่ ได้รับเลือกให้เป็นว่าที่ประมุขศาลปกครองสูงสุดแบบไร้คู่แข่งขัน

เพราะแคนดิเดตอีก 4 คน ที่เป็นรองประธานศาลปกครองสูงสุดในปัจจุบัน ต่างถอนตัวหมด เพราะเห็นว่านายวิษณุมีความเหมาะสม เนื่องจากเป็นรองประธานศาลปกครองอาวุโสสูงสุด ทำให้ที่ประชุม ก.ศป.มีมติเอกฉันท์ให้เสนอชื่อนายวิษณุเป็นประธานศาลปกครองสูงสุดคนใหม่ แต่จะได้เป็นหรือไม่ ก็อยู่ที่ผลการลงมติของ สว.

ซึ่งเสียงโหวตของ สว.ใช้เพียงแค่เสียงข้างมากของที่ประชุม เท่านั้น คือนับจากจำนวน สว.ที่โหวตออกเสียงในที่ประชุม ไม่ได้ใช้เสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งของจำนวน สว.ที่ปฏิบัติหน้าที่ เหมือนกับการโหวตเห็นชอบองค์กรอิสระทั่วไป ที่จะต้องได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง คือ 126 เสียง

ท่ามกลางกระแสข่าวว่า การโหวตครั้งนี้ สว.มีการจับกลุ่มพูดคุยกันอย่างกว้างขวาง หลังมีกระแสข่าวต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย จนทำให้ สว.บางคนอาจใช้วิธีไม่เข้าร่วมประชุม หรือไม่ก็ใช้วิธีงดออกเสียงเพื่อตัดปัญหา แต่คาดว่า สว.จะใช้เวลาในช่วงเช้าก่อนการลงมติ พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ก่อนจะถึงขั้นตอนการโหวต

จันทร์ที่ 1 เม.ย.นี้ ก็รอดูกันว่า ที่ประชุม สว.จะว่าอย่างไร กับการลงมติวาระสำคัญนัดนี้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ

เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569

'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'

ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย

พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ

แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ

วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน

รัฐบาลอ่อนหัด โครงสร้างล้าหลัง ฉุดเชื่อมั่น'อนุทิน-ภท.'จมดิ่งกับน้ำท่วม

วิกฤตมหาอุทกภัยถล่ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ สร้างความหายนะราวกับคลื่นสึนามิ ซากปรักหักพังของเมืองเสมือนวันสิ้นโลก

ปี69เดือด!เลือกตั้งทุกระดับ 'กกต.-ประชาชน'ตัดสินอนาคต

ปี 2569 กลายเป็นปีที่ท้าทายที่สุดสำหรับประชาธิปไตยไทย ด้วยการเลือกตั้งหลายระดับที่กระชั้นชิดกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่คาดว่าจะพ่วงด้วยการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบันทึกความเข้าใจ (MOU)