ก.ก.แตะ'ทักษิณ'แค่ผิว ปชป.ติดหล่มร่วมรัฐบาล

การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ระหว่างวันที่ 3-4 เม.ย. ถือเป็นเวทีของฝ่ายค้าน นำโดย พรรคก้าวไกล และ พรรคประชาธิปัตย์ สังคมคาดหวังจะมีการเปิดแผลให้รัฐบาลก่อนปิดสมัยประชุม 9 เม.ย.นี้

แม้การโหมโรงของสองพรรคดูขึงขัง แต่ถึงเวลาจริงถูกมองว่าเป็นสงครามน้ำลายมากกว่าเนื้อหาสาระ ด้วยข้ออ้างว่า อาจเป็นเวทีให้ข้อเสนอแนะ และไม่สามารถคาดโทษรัฐมนตรีด้วยการลงมติถอดถอนเช่นการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาตรา 151 และอีกด้านหนึ่ง รัฐบาลยังไม่ใช้งบประมาณอย่างเต็มที่ เพราะงบประมาณพึ่งผ่านรัฐสภาไปก่อนหน้าไม่นาน

พรรคประชาธิปัตย์ถูกคาดหมายหวังจะพลิกฟื้นความเชื่อมั่นให้กลับมาได้หรือไม่หลังถูกมองเป็น “อะไหล่”

ทั้งนี้ก่อนอภิปราย “เสี่ยต่อ”-เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค ปชป. ถึงกับเก็บตัวที่โรงแรมดังที่เมืองพัทยา พร้อมกับประกาศว่า “ยี่ห้อประชาธิปัตย์ ไม่มีมวยล้ม”

ขณะที่การอภิปรายในวันที่ 3 เม.ย. แม้เปิดหัวได้ดี และเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจที่สุด โดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อพรรค ปชป. 1ใน 4 สส.ในปีกนายชวน หลีกภัย ที่ต่อสู้กับ ระบอบทักษิณ ไม่ต่ำกว่า 20 ปี โดยเฉพาะเรื่อง “นักโทษเทวดา” ที่ทำลายกระบวนการยุติธรรมไทย   

“คนแรกที่ก้าวไม่พ้นคือนายกฯ วันแรกถึงขั้นลงทุนนั่งรถประจำตำแหน่งไปสโลว์ซบถึงบ้าน ปัญหาใหญ่สุดที่รัฐบาลต้องแก้ เพราะสร้างความเสื่อม เซาะกร่อนบ่อนทำลายรัฐบาลมากที่สุดคือ การสร้างความยุติธรรมสองมาตรฐานเป็นผลงานชิ้นเดียวที่รัฐบาลทำได้เร็วที่สุด เป็นคำตอบว่ารัฐบาลนี้เพื่อใคร คือการสร้างนักโทษพันธุ์ใหม่ แม้แต่เทวดาต้องยอมให้ใช้ชื่อ คุกทิพย์ ปลอกคอทิพย์ เลี้ยงหลานทิพย์ สำนึกทิพย์ ได้คืบเอาศอก ได้ศอกจะเอาวา” อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าว 

แม้ นายจุรินทร์ จะทำหน้าที่ได้สมศักดิ์ศรีเพียงใด แต่ในนามพรรคยังมีความเคลือบแคลงสงสัยจากสังคม ฉะนั้นเมื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ย้อนเกร็ดคืน “ท่านอย่าเป็นฝ่ายค้านทำให้โลกงง วันหนึ่งจะเป็นฝ่ายค้าน อีกวันมีข่าวขอเข้าร่วมรัฐบาล กลัวประชาชนงงมากกว่า”

ประโยคนี้เท่ากับเสยปลายคางชนะน็อกพรรคประชาธิปัตย์ไปทันที ตอกย้ำกระแสข่าว สส.ปีก “เสี่ยต่อ” จำนวน 21 คน มีความพยายามต่อรองขอร่วมรัฐบาล แต่ติดปัญหาที่ยังไม่สามารถขับ 4 สส.กลุ่มนายชวนพ้นจากพรรคหรือ สส.ได้เท่านั้น

การทำหน้าที่ของประชาธิปัตย์ที่ความน่าเชื่อถือยังไม่เกิด ไม่ว่าจะทำหน้าที่ออกมารูปแบบไหนก็ถูกวิจารณ์ทั้งขึ้นทั้งล่อง หากทำหน้าที่ดีก็ถูกมองเพื่อกดดันเพื่อเข้าร่วมรัฐบาล หรือหากทำหน้าที่อ่อนกว่ามาตรฐานก็ถูกมองว่า "มวยล้มต้มคนดู" นั่นเอง  

ด้าน พรรคก้าวไกล ก็ถูกคาดหวังจากสังคมไม่แพ้กัน จะเป็นฝ่ายค้านมืออาชีพหรือไม่ แม้จะตั้งธีมดุเดือด “รัฐบาลเพื่อใคร? ทำไมในหัวใจ ไม่ใช่ประชาชน” พร้อมฉายหนังตัวอย่าง จะมีการแตะ "นักโทษคดีการเมืองยังติดคุก (และบางคนได้กลับบ้าน)" 

เมื่อถึงเวลาจริงก็มี สส.อภิปรายแตะระดับเพียงแค่ผิวเท่านั้น ไม่ระคายเคืองบาดลึกไปถึงอวัยวะสำคัญของนายใหญ่เพื่อไทย 

และมองกันว่า มาตรฐานตกไปอย่างมาก หากเทียบกับการตรวจสอบ รัฐบาลลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีการเล่นใหญ่แบบจัดเต็ม ถึงขนาดตอกตะปูปิดตาย ทลายระบอบประยุทธ์

แต่การอภิปรายในสภาของพรรคส้ม ส่วนใหญ่โจมตีไปที่แค่ นายกฯ หุ่นเชิด และรัฐมนตรีในรัฐบาลมาตรฐานตามเนื้อผ้า ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และกองทัพ ฯลฯ และเนื้อหายังเรื่องเก่า ตัดข่าวจากหน้าสื่อมาประกอบลีลาและโวหารในรูปแบบ “กัด-จิก”  

เมาธ์กันในแวดวงคนการเมืองว่า เพราะ "ทักษิณ" ซูเอี๋ยกับ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ประธานคณะก้าวหน้าและนายทุนพรรคก้าวไกลไว้เรียบร้อยแล้ว

ก่อนหน้านี้ ผู้นำจิตวิญญาณพรรคส้ม ก็เคยออกมาให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า พรรคเพื่อไทยคือมิตร และหวังจะร่วมงานหรือผสมพันธุ์กันในอนาคต

สอดรับกับการออกตัวก่อนหน้าการอภิปรายโดย "โตโต้"-นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม.พรรคก้าวไกล ยอมรับว่า "เรื่องนายทักษิณเราไม่ต้องพูดถึงก็ได้ เพราะล่าสุดนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล จัดหนักพอสมควร ไม่ต้องอภิปรายมาตรา 152 ก็จัดหนักกันไปแล้ว ถ้าถึงลูกถึงคนกว่านั้นจะเป็นเรื่องรายละเอียด"  

ขยี้ดีลลับซ้ำโดย "เดอะแจ๊ค"-วัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวระหว่างนำปฏิทินที่มีรูปภาพการ์ตูนล้อเลียนนายทักษิณแต่งกายคล้ายนักโทษ ที่กำลังทำลายกระบวนการยุติธรรม

โดยมอบปฏิทินดังกล่าวผ่านเจ้าหน้าที่รัฐสภาเพื่อมอบให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, ร.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ว่า

 “ปฏิทินดังกล่าวตนทำขึ้นมาล้อเลียนนายทักษิณ ที่เป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทย และเจ้าของพรรคก้าวไกล ผมจึงไม่แปลกใจที่พรรคก้าวไกลอภิปรายตามมาตรา 152 ไม่แตะนายทักษิณ เพราะนายทักษิณกับนายธนาธร  เปรียบเป็นคนคนเดียวกัน” วัชระกล่าว

หากพฤติกรรมและพฤตินัยของสองพรรคฝ่ายค้านเป็นความจริง พี่น้องเอ้ย...อีกไม่นาน "ระบอบทักษิณ" คงฟื้นคืนชีพกินรวบประเทศอีกครั้งใช่หรือไม่?.  

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' ขี่กระแสชาตินิยม รวมบ้านใหญ่สู่รัฐบาล 4 ปี

“ประเทศไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่ม แต่จำเป็นต้องปกป้องตัวเอง”, “รัฐบาลสนับสนุนการทำหน้าที่ของกองทัพอย่างเต็มที่”, “นี่เป็นเรื่องของสองประเทศ ไม่ใช่เรื่องของคนนอก” และ “การหยุดยิงจะเกิดขึ้น ก็ต่อเมื่อกัมพูชาแสดงความจริงใจ และต้องแสดงออกอย่างเป็นรูปธรรม”

ศึกชิง ‘เมืองกล้วยไข่’ ‘กล้าธรรม’ ปะทะ ‘รัตนากร’

1 ในพื้นที่เป้าหมายสำคัญของ ‘พรรคกล้าธรรม’ ภายใต้การนำของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าพรรค คือ จ.กำแพงเพชร

เปิดขั้นตอนหย่อนบัตร8ก.พ.69 บัตร3ใบเลือกตั้งพ่วงประชามติ

ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูกาลการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) อย่างเป็นทางการ โดยในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่จะมีการเลือกตั้ง สส. พร้อมกับการทำประชามติหนึ่งเรื่องในวันเดียวกัน โดยกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 17.00 น. ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

'ภท.-ปชน.' แตกหักปม112 'พท.' ตัวแปรรอร่วมรัฐบาล

การเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 กำลังเดินหน้าเข้าสู่ช่วงโค้งสำคัญ พรรคการเมืองต่างเร่งนำเสนอนโยบาย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และทีมรัฐมนตรี เพื่อขอโอกาสประชาชนเข้ามาบริหารประเทศในอีก 4 ปีข้างหน้า

'ต๊ะ นารากร' หวังเป็นม้ามืด ปชป. ปักธงเขต 1 เชียงใหม่ แม้สู้กันดุเดือด

น.ส.นารากร ติยายน ให้สัมภาษณ์ถึงการลงสมัครเลือกตั้ง สส.เชียงใหม่เขต 1 ในนามพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ตนพึ่งตัดสินใจในการลงสมัคร สส. หลังจากที่มีการยุบสภา คิดมาเป็นปีที่จะมีการลงเล่นการเมือง เพราะที่ผ่านมาเคยไปสมัคร สว. มาแล้วแต่ตกรอบ