คดีของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ถูกหยิบขึ้นมากางบนโต๊ะอีกครั้ง เมื่อ พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. มีหนังสือที่ ตช 0015.(น.2)/6763 ลงวันที่ 27 พ.ค.ถึงเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขอรับสำนวนการสอบสวนคดีอาญาที่ 391/2566 ของ สน.เตาปูน กลับไปดำเนินการเอง ซึ่งในสำนวนดังกล่าวมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รวมอยู่ด้วย ถูกแจ้งข้อหา “สมคบกันกระทำความผิด ฐานฟอกเงินและ เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน”
ย้อนไทม์ไลน์คดี วันที่ 28 ก.ค.66 ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT นำกลังเข้าทลายเครือข่ายเว็ปพนันออนไลน์ “betfixroyal” จับกุม น.ส.ธันยนันท์ หรือ มินนี่ สืบสวนขยายผลพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.ได้มีคำสั่ง ตร.ที่ 593/2566 ดำเนินการสืบสวนขยายผล นำไปสู่การเข้าทลายเว็ปพนัน “บีเอ็นเค มาสเตอร์” ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จับกุมผู้ต้องหาได้ 36 คน ตัวละครสำคัญ ทั้ง น.ส.พิมพ์พิไล น.ส.หัสราวดี น.ส.เบญจมิน ผู้ดูแลบัญชีม้า วันที่ 4 ธ.ค.66
ขยายผลเส้นทางการเงินนำไปสู่การออกหมายจับ พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร รองผู้การจังหวัดสงขลา ,ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว, ส.ต.อ.ณัฐนันท์ ชูจักร ฐานสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน และนายณพรรษกร แหเกิด หรือเสี่ยอู๊ด หาดใหญ่ และเส้นทางการเงินของ พ.ต.อ.กิตติชัย เชื่อมโยงมายัง พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ คนใกล้ชิด “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กระทั่งวันที่ 2 เม.ย.67 คณะพนักงานสอบสวน บช.น.นำพยานหลักฐานยื่นขออนุมัติออกหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ศาลอนุมัติออกหมายจับฐาน ”สมคบกันกระทำความผิด ฐานฟอกเงินและ เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน” มีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าเป็นความผิด พร้อมชี้คดีนี้เป็นอำนาจของศาลอาญา
โดยสรุปเนื้อหาที่พนักงานสอบสวน บช.น.ส่งหนังสือถึงเลขาธิการ ป.ป.ช.เพื่อขอรับสำนวนกลับไปดำเนินการต่อตามกฎหมาย เป็นคดีที่ร้องทุกกล่าวโทษกับกลุ่มผู้ต้องหาผิดต่อบทบัญญัติแห่ง พ.ร.บ.การพนันฯ และเป็นลักษณะสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ อันเป็นข้อหาที่ไม่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ฉนั้นคดีอาญาที่ 391/2566 ของ สน.เตาปูน จึงไม่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช.แต่เป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลอาญา และอยู่ในอำนาจของพนักงานสอบสวน ซึ่งการสอบสวนจะต้องมีการเสนอความเห็นทางคดี ส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมผู้ต้องหานั้นไปยังพนักงานอัยการภายในระยะเวลา 6 เดือน ครบกำหนดวันที่ 6 มิ.ย.67 หากไม่คืนสำนวนตามกรอบระยะเวลาอาจเป็นเหตุเสียหายแก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติและทางราชการได้ คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนจึงขอรับสำนวนคดีในส่วนที่อยู่ในอำนาจของศาลอาญาคืน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายภายในวันที่ 4 มิ.ย. 2567 จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
คดีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อยู่ในมือ ป.ป.ช.แล้วทั้งหมด ซึ่งเป็นไปตามเจตนาที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เดินหน้าคัดค้านการทำงานของพนักงานสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผลน่าจะเป็นคุณแก่เจ้าตัว แต่มาวันนี้หนังสือของพนักงานสอบสวน บช.น.ยื่นเดตไลน์ให้ ป.ป.ช.ส่งกลับสำนวนคดีอาญาที่ 391/2566 คดีฟอกเงินฯคืนให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการขั้นตอนกระบวนการของกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียหายแก่คดี
วันที่ 7 มิ.ย.นี้ครบกำกนด 6 เดือน คดีฟอกเงินฯของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมพวกที่พนักงานสอบสวนต้องนำผู้ต้องหาพร้อมสรุปความเห็นส่งอัยการ แต่ไม่ได้รับการตอบรับจาก ป.ป.ช. แต่ในขณะเดียว ป.ป.ช.ได้มีมติแจ้งข้อกล่าวหา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และภรรยา กรณีไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินในส่วนบ้านที่อังกฤษและให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าวต่อ ป.ป.ช.ในวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่ถูกทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด คนใกล้ชิด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ร้องให้ตรวจสอบ
สังคมจึงจับจ้องไปที่การทำงานของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เพราะ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกมองว่ามีความสนิทเป็นการส่วนตัวกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ระดับสูงหลายคน หลายคดีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกร้องไปยัง ป.ป.ช.ถูกตีตกหมด และเจ้าตัวกำลังเดินเกมล่ารายชื่อ “ปฏิบัติการกวาดบ้าน ป.ป.ช.”เพื่อถอดถอน ป.ป.ช.บางคนที่มีความขัดแย้งส่วนตัว ซึ่งเป็นคนเดียวที่มีมติไม่รับเรื่อง”บิ๊กโจ๊ก” ไว้ไต่สวนคดีเว็ปพนัน สำนักงาน ป.ป.ช.จึงถูกมองเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้กับ “บิ๊กโจ๊ก”
คดีเว็ปพนัน “มินนี่” ที่ชุดทำงานสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานมาตั้งแต่ปี 65 “บิ๊กโจ๊ก” และตำรวจคนใกล้ชิดถูกแจ้งหลายข้อหา นอกจากคดีพนันฯ แล้วยังมี ม.157 ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ม.149 เรียกรับผลประโยชน์ ด้วยที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ป.ป.ช.เรียกสำนวนกับไปดำเนินการเองทั้งหมดทั้งที่คดีไปสู่อัยการแล้ว “คดีฟอกเงิน” ถูกแยกเป็นอีกสำนวนและส่งไปให้ ป.ป.ช.แล้ว แต่ท้ายความเห็นคดีเป็นอำนาจของศาลอาญา ไม่ใช่อำนาจของ ป.ป.ช. จึงเป็นไม้เด็ดที่ตำรวจเอาคืน ป.ป.ช. อาจจะกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างหน่วยงาน
เฉกเช่นในห้วงเดียวกันนี้ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจาดา อดีต ผบ.ตร. เปิดหน้าชนบุกร้อง ป.ป.ช.เปลี่ยนอนุกรรมการไต่สวนยกชุด คดีที่ถูกแจ้งข้อหาโครงการจัดซื้อรถตรวจการณ์อัจฉริยะและเครื่องไอโบแมทริกซ์มูลค่าหลายพันล้านบาท ที่ถูกทนายตั้ม คนสนิท “บิ๊กโจ๊ก” ยื่น ป.ป.ช.สอบ อ้างถูก “อดีตรอง ผบ.ตร.”และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ร่วมกันกลั่นแกล้ง
ชื่อ “บิ๊กโจ๊ก” มีเครดิตใน ป.ป.ช. แม้แต่อดีต ผบ.ตร. หรือ ผบ.ตร.คนปัจจุบันยังเพลี่ยงพล้ำ จับตาดูคดีฟอกเงินเว็ปพนันออนไลน์ของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะเป็นชนวนความขัดแย้งระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) หรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ
เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569
เอาแล้ว 'จตุพร' เตือน นายกฯหนู แบ่งแยกเยียวยาศพน้ำท่วม 2 ล้าน ระวังทำรัฐบาลพัง
'จตุพร' เตือน นายกฯหนู แบ่งแยกเยียวยาศพน้ำท่วม 2 ล้านระวังทำรัฐบาลพัง แนะน้ำท่วมใต้จากพายุชื่อเหมือนกันต้องเป็นธรรม ชดเชยเท่ากัน อย่าคิดแบบเขลาๆ แถเอาแต่สถานการณ์ฉุกเฉินมาอ้าง จะเกิดเหตุไม่พอใจ ลุกลามไปกันใหญ่
'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'
ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ
แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ
วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน
รัฐบาลอ่อนหัด โครงสร้างล้าหลัง ฉุดเชื่อมั่น'อนุทิน-ภท.'จมดิ่งกับน้ำท่วม
วิกฤตมหาอุทกภัยถล่ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ สร้างความหายนะราวกับคลื่นสึนามิ ซากปรักหักพังของเมืองเสมือนวันสิ้นโลก

