'พรรคก้าวไกล' ปลุกคน เตรียมพล เพื่อผลลัพธ์ต่อไป ภายหลังฟังคำพิพากษา กับการดิ้นเฮือกสุดท้าย ก่อนถึงวันชี้ชะตา
ที่ศาลรัฐธรรมนูญ กำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ประชุมปรึกษาหารือ เพื่อลงมติ ในเวลา 09.30 น. และนัดฟังคำวินิจฉัย เวลา 15.00 น. วันที่ 7 ส.ค.นี้
ย้อนกลับไปในความพยายามก่อนหน้า ไล่เรียงมาตั้งแต่แถลงแนวทางสู้คดี เปิดเผยคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา เรียกร้องศาลรัฐธรรมนูญเปิดไต่สวน พร้อมเรียกพยานบุคคล และพยานเอกสารเพิ่มเติม
ตลอดจนเปิดความเห็นพยานปากสำคัญ อย่าง ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ผู้เชียวชาญทางด้านกฎหมายมหาชน ที่ปรึกษากฎหมายของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือ คู่กรณี และเพื่อนร่วมรุ่นกับนายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ
ตอกย้ำจากนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่ประกาศกร้าวว่า “นี่ไม่ใช่เวลาที่เราต้องหวั่นไหว ไม่มั่นใจ เพราะหลัง 7 ส.ค. ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อนาคตข้างหน้ามีแต่สว่างไสวกว่าเดิมแน่นอน ผมบอกกับ สส.ไปว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เรามีแผนจะขยายที่ทำการพรรคแน่นอนแล้ว เพราะเรามั่นใจว่าการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า ห้องประชุม สส. ของเราใหญ่ไม่พอแล้ว …
ดังนั้น ผมขอให้ความมั่นใจอีกครั้ง ไม่ต้องหวั่นไหว เดินหน้าสู่การเปลี่ยนแปลง ไม่มีอะไรจะหยุดยั้งสายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงได้อีกแล้ว เราจะเดินหน้าก้าวไปด้วยกัน ฝ่าฟันทุกอุปสรรค ทำลายทุกกำแพงที่มาขวางกั้นการเปลี่ยนแปลง จนกว่าการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงจะปรากฏ”
และ “เราจะทำงานในการเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ที่มีเป้าหมาย ภารกิจ ยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่การเป็นฝ่ายค้านที่จะจ้องล้มรัฐบาลทุกวัน แต่คือการเดินหน้าเตรียมพร้อมการเป็นรัฐบาลที่ดีที่สุดให้กับประชาชนในการเลือกตั้งครั้งหน้า”
พร้อมปล่อยวิดีโอ “จากอนาคตใหม่ สู่ก้าวไกล สู่อนาคต” มาสมทบ เพื่อบ่มความคิด และยืนยันความเชื่อมั่น โดยการใช้เหล่าบุคคลแถวหน้า ที่ถูกมองว่าจะเป็น ‘รุ่นต่อไป’
โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล ระบุในวิดีโอข้างต้นว่า “สิ่งที่คุณยุบได้คือแค่องค์กร หรือตัวนิติบุคคลเท่านั้น ไม่สามารถยุบความคิด หรือชุดอุดมการณ์ที่อยู่เบื้องหลัง ที่อย่างไรก็จะต้องไปต่อแน่นอน”
เพราะ "ท้ายที่สุดแล้วการเมืองเป็นเรื่องของการโน้มน้าวการทำงานเชิงความคิด ถ้าจะทำอะไรสำเร็จ คุณต้องประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนใจใครคนหนึ่ง หัวหน้าพรรคก้าวไกลเคยบอกว่า เป็นการเปลี่ยนวาระที่้เคยถูกมองว่าเป็นไปไม่ได้ ให้กลายเป็นวาระที่ปฏิเสธไม่ได้ พอเราชนะในสมรภูมิทางความคิดก่อน ก็ทำให้เราสามารถชนะในสมรภูมิทางกฎหมายตามมาได้ด้วยเช่นกัน”
พ่วงด้วยการเผยแพร่ข้อความพรรคก้าวไกล “ขอเรียนเชิญประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศ และเจ้าของพรรคก้าวไกลทุกท่าน มาร่วมรับฟังคำวินิจฉัยพร้อมกัน ณ อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคก้าวไกล ในวันที่ 7 ส.ค. ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ซึ่งจะมีกิจกรรมต่อเนื่องจนถึงเวลาประมาณ 21.00 น.”
ท้ายที่สุดคือโหมโรงองค์สุดท้าย ในการบรรยายพิเศษ ของนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า หัวข้อ ‘ศาลรัฐธรรมนูญกับการยุบพรรคการเมือง’ ก่อนรับฟังคำวินิจฉัย
ปิดจบด้วยการนำ สส.ของพรรคทั้งหมด มาแถลงใหญ่ที่ทำการพรรคร่วมกันต่อหน้าสาธารณชน ซึ่งคาดว่าอาจจะมีการอ่านคำแถลงปิดคดีด้วย
หากผลลัพธ์ออกมาว่า ถูกพิพากษาทางการเมืองจริง ลำดับต่อไป คงเป็นเพียงแค่การฉายภาพซ้ำเมื่อครั้งยุบพรรคอนาคตใหม่ ด้วยการชูตัว ‘ผู้นำคนใหม่’ พร้อมประกาศชื่อพรรคที่จะต้องย้ายไป
สิ่งสำคัญกว่านั้นคือ การรอดูผลจากปักธงทางความคิด ว่าจะสามารถผลิดอกได้จริงหรือไม่ หรือ ความเคลื่อนไหวของเหล่าผู้สนับสนุนจะเป็นอย่างไร
สำหรับผู้นำคนใหม่ที่วางตัวไว้คือ ไหม-ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคฯ โดยเธอกล่าวถึงความพร้อมกับตำแหน่งหัวหน้าพรรคคนใหม่ว่า ก็แล้วแต่ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากวันที่ 7 ส.ค. ซึ่งผลก็ออกได้หลายทาง ถึงแม้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราก็มีการเตรียมความพร้อมไว้เป็นอย่างดี
เมื่อถามว่าหากได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค ต้องสู้กับน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และจะกลายเป็นการต่อสู้กันด้วยพลังหญิง น.ส.ศิริกัญญา บอกว่า "ถ้าท้ายที่สุด พรรคตัดสินใจเสนอชื่อดิฉัย และมีสมาชิกพร้อมจะเลือก การที่ ณ วันนี้ ประเทศไทย มีผู้นำพรรคการเมืองที่เป็นผู้หญิงมากขึ้น คิดว่าน่าจะเป็นมิติใหม่ที่ดี นอกจากเป็นตัวแทนของประชาชนทุกฝั่ง ทุกเพศ ทุกวัย เราก็จะยิ่งมีมุมมองใหม่ๆ ต่อการเมืองที่อาจแตกต่างจากที่ผ่านมา ที่ผู้นำทางการเมืองเป็นผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ เราก็คิดว่าจะสร้างมิติใหม่ให้กับการเมืองไทยได้"
แต่ถ้าผลออกมาเป็นบวก ‘ก้าวไกล’ ก็พร้อมเดินหน้าต่อวันถัดไปทันที ผงาดขึ้นตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา โดย นายชัยธวัช ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ต่อนายกรัฐมนตรี.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สนามเลือกตั้งเมืองหลวง-กทม. ศึกชิง33เก้าอี้-แย่งเสียงปาร์ตี้ลิสต์ พรรคส้มเหงื่อตก หลายพรรครอเจาะยาง
หนึ่งในสาเหตุทางการเมืองที่คนยังเชื่อว่า พรรคส้ม-พรรคประชาชน จะชนะการเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ.2569 ก็เพราะมองว่า สนามเลือกตั้งเมืองหลวง กรุงเทพมหานคร ที่มี
แนวรบสุดท้ายสู้สแกมเมอร์ ปัจจัยที่ต้องปิดจ๊อบชายแดน
แม้สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดน "ไทย-กัมพูชา" ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนอีสานใต้ ฝ่ายไทยจะสามารถยึดเป้าหมายในหลายพื้นที่ และ มีแนวโน้มที่ดีใน 13 แนวรบ แต่ก็ยังประมาทไม่ได้ เพราะดูเหมือนว่า "กัมพูชา"
ได้ทุกขั้ว-เสบียงกรัง-อำนาจ เมินกระแส สส.แห่ซบ‘กล้าธรรม’
นอกจาก ‘พรรคภูมิใจไทย’ ที่มี ‘แม่เหล็ก’ ดึงดูดอดีต สส.และนักการเมือง ในการเลือกตั้งครั้งนี้แล้ว ‘พรรคกล้าธรรม’ อาณาจักรของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะที่ปรึกษาพรรค เป็นอีกค่ายหนึ่งที่มีผู้คนพาเหรดเข้ามาเป็นองคาพยพ
โจทย์หิน3แคนดิเดตนายกฯพท. ลูกเจ๊แดงโปรไฟล์ดีแต่มีข้อกังขา!
หลังพรรคเพื่อไทยเปิดตัว ศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ลูกชายเจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวทักษิณ ชินวัตร และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หมายเลข 1 อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา
พรรค‘ปชน.’ขอโทษจากใจ วอน‘ประชาชน’ไปต่อด้วยกัน
ภาพที่หัวหน้าพรรคสีส้มทุกยุคสมัยมาปรากฏตัวพร้อมหน้าบนเวทีเดียวกันไม่ได้เกิดขึ้นให้เห็นบ่อยนัก เอาเข้าจริงอาจจะยิ่งกว่าเวทีปราศรัยใหญ่ก่อนเลือกตั้งทุกครั้งด้วยซ้ำ เพราะในกิจกรรม
เร่งเกม'เลือกตั้ง-จบศึกชายแดน' เมื่อทุกแนวรบกำลังได้เปรียบ
เรียกได้ว่าเกือบจะเป็นฉันทามติของสังคมที่ต้องการให้กองทัพดำเนินกลยุทธ์ในการนำพื้นที่ตามเส้นปฏิบัติการของไทยคืนจากกัมพูชาให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดในการสู้รบระลอกที่ 2

