เอ็มโอยู44-เอื้อนายทุน จุดจบรัฐบาลไม่ครบเทอม

“ความไม่ชัดเจนในเรื่องผลประโยชน์ปิโตรเลียมในกรอบบันทึกความเข้าใจไทย-กัมพูชา ว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน (MOU44) ถูกปลุกขึ้นมาว่าสุ่มเสี่ยงจะทำให้เสียเกาะกูด จ.ตราด และไทยเสียดินแดนหรือไม่ บนเครื่องหมายคำถามตัวโตๆ ว่าทำเพื่อชาติหรือเพื่อใคร บนสายสัมพันธ์แนบแน่นของระบอบ ชินวัตร-ฮุน เซน ใช่หรือไม่"

หากอ้างอิงข้อมูลจากนิด้าโพลเมื่อวันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา หัวข้อ รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ อยู่ครบเทอมหรือไม่ โดยประชาชนมากกว่า 57.71% มองว่าอยู่ไม่ครบเทอม ประกอบด้วยสัดส่วนร้อยละ 19.08 ระบุว่า เชื่อว่าจะไปต่อได้อีกประมาณ 2 ปี (2569) ร้อยละ 16.87 ระบุว่า เชื่อว่าจะไปต่อได้อีกประมาณ 1 ปี (2568) ร้อยละ 11.99 ระบุว่า เชื่อว่าจะไปต่อได้จนเกือบๆ ครบเทอมในปี 2570 ร้อยละ 9.77 ระบุว่า เชื่อว่าจะไปต่อได้ไม่เกินสิ้นปี 2567 และร้อยละ 0.61 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ ขณะที่ร้อยละ 41.68 ระบุว่า เชื่อว่าจะไปต่อได้จนครบเทอมในปี 2570 

แม้รัฐบาลจะมีเสียงในสภาสนับสนุนกว่า 320 เสียง จึงวางใจไม่ได้ เพราะหากประเมินสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ ปรากฏว่ามีศัตรูหน้าเก่า หน้าใหม่ รวมถึงที่มองเห็นและไม่เห็นกำลังเปิดศึกไล่ล่าทุกทิศ 

นำไปสู่จุดเสี่ยง จุดตายไว้หลายประเด็น ซึ่งบางประเด็นอาจถึงขั้นล้มรัฐบาล ขณะที่บางเรื่องอาจเป็นสารตั้งต้นไปสู่การเซาะกร่อนบ่อนทำลายได้ในที่สุดเมื่อทุกอย่างสุกงอม   

เริ่มที่ “ความน่าเชื่อถือ” ของรัฐบาลนี้ถึงขั้นติดลบ นโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทยไม่ตรงปก อาทิ ดิจิทัลวอลเล็ต ที่คนไทยทั้งประเทศไม่ได้เงินหมื่นทั่วหน้า

ที่ผ่านมาเฟสแรกก็ไม่สามารถสร้างพายุหมุนกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่คุยโวไว้ ส่วนเฟสสองต้องลุ้นคว่ำลุ้นหงาย เพราะยังหาเงินไม่ได้

ส่วนการแก้รัฐธรรมนูญส่อเค้าจะเป็นหมัน บนข้อสงสัยว่าพรรคเพื่อไทยมีความจริงใจหรือไม่ หรือแค่ต้องการนำเรื่องนี้มาเป็นตัวประกันเพื่อยื้อให้รัฐบาลอยู่ครบเทอม   

ขณะที่การนิรโทษกรรมก็ไม่กล้าแตะมาตรา 112 แตกต่างจากที่พรรคเพื่อไทย นำโดย เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ หรือ แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ในสมัยหาเสียง เคยระบุว่าจะต้องมีการนำไปพูดคุยในสภา เรื่องนี้ทำให้เสียมวลชนและแต้มทางการเมืองอย่างชัดเจน 

ไม่นับการจัดตั้งรัฐบาลถูกกล่าวหาว่าตระบัดสัตย์จับมือพรรคสองลุง ต่อมายังประสานประโยชน์กับพรรคประชาธิปัตย์และ กปปส. ที่เคยเป็นคู่อาฆาตและขับไล่ ทักษิณ ชินวัตร และ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปใช้ชีวิตต่างประเทศ 

รวมถึงกรณีการทำลายกระบวนการยุติธรรมของนักโทษเทวดาชั้น 14 และกรณีตากใบ ที่ปล่อยให้คดีหมดอายุความ ล้วนทำให้เกิดสภาวะล้มละลายทางความน่าเชื่อถือทั้งสิ้น 

เช่นเดียวกับปัญหาเศรษฐกิจ ที่นายกฯ หญิงเคยสัญญาจะขจัดความยากจนให้หมดไปภายในระยะเวลาที่เหลือของรัฐบาลไม่ถึง 3 ปี 

แต่กลับมีข้อมูลสวนทางจาก ดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า เศรษฐกิจไทยโตน้อยมา 2 ปีแล้ว ปี 2565 จีดีพีโต 2.6% ลดลงเป็น 1.9% ในปี 2566 และปี 2567 คนลดการลงทุนถึง 20% ของจีดีพีเลยทีเดียว 

เรื่องนี้แม้จะยังไม่ใช่จุดตายแบบเฉียบพลัน แต่ก็เซาะกร่อนบ่อนทำลายรัฐบาลลูกทักษิณจนหมดความชอบธรรมไปเรื่อยๆ และอาจมีผลต่อการเลือกตั้งครั้งต่อไป 

ด้านปัญหาพรรคร่วมรัฐบาล ที่หลายพรรคเป็นคนละอุดมการณ์ มีเป้าหมายทางการเมืองแตกต่างกัน และที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยก็ถูกขวางหลายเรื่อง วิจารณ์กันว่าอาจเป็นเหตุให้รัฐบาลอยู่ไม่ครบเทอม 

แต่หากประเมินอีกด้าน การขวางของพรรคร่วมฯ ถือเป็นการช่วยประคองและคานอำนาจพรรคเพื่อไทยเพื่อให้รัฐบาลอยู่ครบเทอม 

เพราะท้ายสุด เชื่อว่าทุกเรื่องที่เห็นต่าง แต่ก็จบไปในทิศทางเดียวกัน เพราะทุกพรรคยังไม่พร้อมเลือกตั้งสู้กับพลังส้ม เนื่องจากปีเศษที่เป็นรัฐบาล วุ่นวายแต่กับการแก้ปัญหาเรื่องการเมือง ขณะที่พรรครัฐบาลยังไม่ได้ผลิตผลงาน สะสมกระสุนดินดำ ฉะนั้นปัญหาพรรคร่วมรัฐบาลจึงไม่ใช่ปัจจัยที่จะล้มรัฐบาลได้ในตอนนี้  

ส่วนคำร้อง ทักษิณ ชินวัตร ครอบงำพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ โดยเฉพาะหลัง เศรษฐา พ้นตำแหน่งจากคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยประเด็นขาดจริยธรรมอย่างร้ายแรง และได้มีการหารือที่บ้านจันทร์ส่องหล้าเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา 

ขณะนี้ กกต.รับเรื่องไว้พิจารณา 4 คำร้อง ขณะที่ศาลรัฐธรรมนูญก็เรียกเอกสารจากอัยการสูงสุดชี้แจง ซึ่งในส่วนนี้คงต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ว่ามีประจักษ์พยานหรือคลิปเสียง ควบคู่กับพฤติกรรมที่แสดงออกมาว่าทักษิณครอบงำ หรือแค่มาขอคำปรึกษา  

ส่วนข้อต่อสู้ของพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลก็ยืนยันชัดว่า ทุกเรื่องผ่านมติที่ประชุมพรรคทั้งสิ้น พร้อมยกประเด็นสนับสนุน ตามกระแสข่าว ในค่ำวันที่ 14 ส.ค. ที่ชู ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกฯ แต่สุดท้ายวันโหวตนายกฯ ก็ยกมือให้ แพทองธาร เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร จะกล่าวหาว่าครอบงำได้อย่างไร   

หาก กกต.และศาลรัฐธรรมนูญไม่มีหลักฐานเด็ดจากคนพรรคพลังประชาชนที่ร่วมคณะในวันดังกล่าวด้วย หรือสัญญาณพิเศษ ก็ยากจะสั่งยุบพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลได้ จนเหลือพรรคประชาชนทำหน้าที่เพียงพรรคเดียวใช่หรือไม่  

แตกต่างจากปัจจัยเรื่องการทุจริตคอร์รัปชัน หรือผลประโยชน์ทับซ้อน ถ้าเกิดขึ้น รัฐบาลที่ภูมิต้านทานต่ำเช่นนี้ไม่รอด และแถมมีคนติดคุกด้วย อย่างเช่นสมัยทุจริตโครงการรับจำนำข้าวในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 

ขณะนี้มีของร้อนหลายเรื่องที่สุ่มเสี่ยง ไม่ว่าจะดันร่างกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ (กาสิโน), สัมปทาน 3 สนามบิน (ดอนเมือง อู่ตะเภา สุวรรณภูมิ) ที่กำลังชงเข้า ครม.ในเร็วๆ นี้, ร่าง พ.ร.บ.ขนส่งทางราง ที่เข้าสภารับหลักการในวาระ 1, ทบทวนการออกสัมปทานรับซื้อพลังงานหมุนเวียน 3,600 เมกะวัตต์  

ชามข้าวเหล่านี้ถูกกล่าวหาว่าเอื้อประโยชน์ให้ทุนใหญ่และเจ้าสัวของประเทศ ที่สนับสนุนพรรครัฐบาลอยู่ในเวลานี้ใช่หรือไม่ 

ยิ่งโดยเฉพาะความไม่ชัดเจนในเรื่องผลประโยชน์ปิโตรเลียมในกรอบบันทึกความเข้าใจไทย-กัมพูชา ว่าด้วยพื้นที่ที่ไทยและกัมพูชาอ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน (MOU44) ถูกปลุกขึ้นมาว่าสุ่มเสี่ยงจะทำให้เสียเกาะกูด จ.ตราด และไทยเสียดินแดนหรือไม่ บนเครื่องหมายคำถามตัวโตๆ ว่าทำเพื่อชาติหรือเพื่อใคร บนสายสัมพันธ์แนบแน่นของระบอบ ชินวัตร-ฮุน เซน ใช่หรือไม่ หลัง ธีรยุทธ สุวรรณเกษร มือยุบพรรคก้าวไกล ยื่นเรื่องร้องศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้หยุดการกระทำขายชาติ  

แม้แต่พรรคส้มยังเล็งเห็นโอกาสทางการเมืองชิงแต้มจากสังคม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาคณะก้าวหน้า ออกมาระบุว่า รัฐบาลยังไม่ออกมาพูดให้ชัดเจน จะเป็นผลเสียต่อทั้งรัฐบาลเอง จะเกิดการตั้งคำถามว่า ตกลงแล้วพื้นที่ซึ่งจะเจรจากับกัมพูชาคือหลักพันหรือหลักหมื่น เมื่อไม่ชัดเจน ประชาชนจึงตั้งคำถาม และเป็นการเปิดช่องให้นำกระแสชาตินิยมมาใช้ ซึ่งไม่เป็นประโยชน์กับชาติไทย

ดังนั้น หากรัฐบาลเลือกเดินหน้าทำเรื่องละเอียดอ่อนเหล่านี้ บนพื้นฐานการเมืองที่ไม่นิ่ง และตัวเองไร้เครดิตจากสังคม อาจทำให้ปลุกความสามัคคีของคนไทยและองค์กรต่างๆ ออกมาขับไล่ จนไม่สามารถเดินถนนหรือถึงขั้นไม่มีแผ่นดินจะอยู่ก็เป็นได้. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯ เยี่ยมนาวิกโยธินเหยียบกับระเบิด ฝาก 'นานาชาติ' อย่าเอาแต่บอกไทยหยุดยิง ให้ไปบอกเขมร

นายกฯเยี่ยมนาวิกโยธิน เหยียบทุ่นระเบิดบาดเจ็บ ฝากถึงนานาชาติ อย่าเอาแต่บอกให้ไทยหยุดยิง ให้ไปบอกเขมร ลั่นเลิกเกรงใจหน้าอินทร์หน้าพรหม เดินหน้าสถาปนาอธิปไตยเหนือชายแดนโดยเร็วที่สุด

นายกฯ เยี่ยมศูนย์อพยพ จ.สุรินทร์ นั่งระบายสี 'รถฮัมวี่ติดปืนกล' ร่วมกับเด็ก ลั่นรบ.จะดูแลเต็มที่

นายกฯ เยี่ยมศูนย์อพยพที่สุรินทร์ นั่งระบายสี ‘รถฮัมวี่ติดปืนกล’ ร่วมกับเด็กๆ เดินทักทาย-ให้กำลังใจชาวบ้าน-จนท. พร้อมขอให้อยู่ที่ศูนย์ไปก่อน รัฐบาลจะดูแลเต็มที่ ก่อนไปเยี่ยมทหารเหยียบระเบิดที่จันทบุรีต่อ

สนามเลือกตั้งเมืองหลวง-กทม. ศึกชิง33เก้าอี้-แย่งเสียงปาร์ตี้ลิสต์ พรรคส้มเหงื่อตก หลายพรรครอเจาะยาง

หนึ่งในสาเหตุทางการเมืองที่คนยังเชื่อว่า พรรคส้ม-พรรคประชาชน จะชนะการเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ.2569 ก็เพราะมองว่า สนามเลือกตั้งเมืองหลวง กรุงเทพมหานคร ที่มี

'อนุทิน' เปิดพรรครับ 'กลุ่มรักสถาบัน' ให้กำลังใจ ปกป้องอธิปไตยไทย

'อนุทิน' เปิดพรรค รับดอกไม้-หนังสือ 'กลุ่มศปปส.' ให้กำลังใจปกป้องอธิปไตย ลั่นไทยไม่มีแพ้ ขอมั่นใจพร้อมสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ทหาร

'อนุทิน' ระวัง! ติดกับดักตัวเอง ปมคำถามประชามติ

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี วางกับดักตัวเอง ในการส่งคำถามประชามติของคณะรัฐมนตรี