พ่อบงการ ลูกตามสั่ง

“พ่อบงการ ลูกตามสั่ง” ผ่าน “รัฐบาล ‘พ่อ’ เลี้ยง-แพทองธาร ชินวัตร” คงไม่เกินเลยความเป็นจริง เพราะเมื่อ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีคำบัญชาผ่านเวทีต่างๆ รัฐบาลชุดนี้ก็สนองนโยบายทันที โดยไม่สนใจว่ารัฐบาลจะขาดความน่าเชื่อถือ และยำเกรงต่อกฎหมายมิให้คนนอกเข้ามาครอบงำแต่อย่างใด

เริ่มตั้งแต่งานเปิดตัวของ “พ่อนายกฯ” สู้อิสรภาพ หลังพ้นโทษไม่ได้ติดคุกแม้แต่วันเดียว ในงานดินเนอร์ทอล์ก จัดโดยสื่อดัง เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา ด้วยการแสดงวิสัยทัศน์ในเรื่องพื้นที่อ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกันของไทย-กัมพูชา (OCA) นำเอาทรัพยากรปิโตรเลียมที่มีอยู่ขึ้นมาใช้โดยแบ่งปันผลประโยชน์ระหว่างกันฝั่งละ 50%, ปรับโครงสร้างหนี้, ปกป้องผลประโยชน์เอสเอ็มอี, สร้างรายได้จากภาษีเศรษฐกิจใต้ดิน, ดิจิทัลวอลเล็ต, เพิ่มภาษีเงินได้ติดลบ (Negative income Tax), ปรับโครงการสร้างเศรษฐกิจ ฯลฯ

สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่นายกฯ แพทองธารแถลงต่อรัฐสภา ระหว่างวันที่ 12-13 ก.ย.ที่ผ่านมา

ไม่เพียงเท่านั้น ลิ่วล้อใน ครม.เพื่อไทยก็สนองนโยบายเต็มเหนี่ยว อย่างเช่น การปราศรัยเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานีเมื่อไม่นานมานี้ “ทักษิณ” ก็พูดเรื่องแจกเงินผู้สูงอายุ 60 ปี คนละ 10,000 บาท จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังจากพรรคเพื่อไทยก็เด้งรับทันที โดยระบุจะจ่ายเงินในช่วง 29 ม.ค.68 สอดรับกับช่วงการเลือกตั้ง อบจ.และ สจ.ทั่วประเทศในวันที่ 1 ก.พ.68

ท่ามกลางข้อสังเกตซื้อเสียงล่วงหน้าในการเลือกตั้งท้องถิ่นใช่หรือไม่ เพื่อหวังสร้างความร่ำรวยและอำนาจการเมืองให้แก่ตัวเอง ครอบครัว และพวกพ้อง ถือเป็นบทเรียนที่เจ็บปวดที่ชาวบ้านไม่ควรเป็นเหยื่อ และตกเป็นทาสในระบอบทักษิณซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีประเด็นถอนขนห่าน หรือขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 15% ของ พิชัย ชุณหวชิร รมว.คลัง ที่ถูกคนด่าทั้งบ้านทั้งเมือง เชื่อกันว่าเป็นแนวความคิดมาจาก “นายใหญ่” เช่นกัน จนถูกมองว่าต้องการหาเงินมาเพิ่มหลังถังแตกเพราะดิจิทัลวอลเล็ตหมื่นบาท

รวมถึงเรื่องปราบปรามผู้มีอิทธิพล และ เตรียมส่งคนไปทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน พม่า-กัมพูชา แพทองธาร นายกฯ และในฐานะกำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็เด้งรับตามดำริทันที

โดย พลตำรวจเอกธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ เปิดเผยภายหลังหารือกับนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา ถึงการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับเรื่องการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์

การแสดงออกของ “ทักษิณ” เหล่านี้จึงสรุปได้ว่าคือแนวทางการทำงานของรัฐบาลใช่หรือไม่

ขณะเดียวกัน หากใครไม่สนองงานก็ถูก “พ่อนายกฯ” กร่างใส่ เช่น งานสัมมนาพรรคเพื่อไทยเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา หลังทราบว่ามีแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลไม่เข้าร่วมประชุม ครม.ในการออก พ.ร.ก.เกี่ยวกับการเก็บภาษี เกรงว่าจะผิดรัฐธรรมนูญเพราะไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ก็ถูกซัดกลางแจ้งว่า ไม่ใช่เลือดสุพรรณฯ บ้าง เป็นอีแอบบ้าง พร้อมไล่ออกจาก ครม.

เนื่องจากไม่พอใจรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลไม่ยืนหยัดเคียงข้างลูกสาว และสนองนโยบายพรรคเพื่อไทย หรืออีกกระแส ยังมองว่าเดือดร้อนแทนนายทุนผูกขาด และต้องการเข้าฮุบเก้าอี้ หลังมีกระแสข่าวว่าขัดใจกับนายทุนใหญ่ที่ใกล้ชิดกับพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่

แต่สุดท้ายเชื่อว่า “ทักษิณ” ได้แค่ขู่ฟอดๆ เท่านั้น เพราะข้อเท็จจริง จำนวน สส.ของพรรคเพื่อไทยมีเพียง 140 เสียง ไม่ถึง 250 เสียงอย่างเช่นในอดีตแล้ว ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาล อย่างเช่น พรรคภูมิใจไทย และพรรครวมไทยสร้างชาติก็มี “ลมใต้ปีก” หนุนหลังทั้งสิ้น จึงไม่กล้าแตกหัก รวมถึงยังมีกับระเบิดผ่านคดีในศาล คำร้องในมือองค์กรอิสระรอบตัว พ่อนายกฯ และ  นายกฯ

เช่นเดียวกับฝ่ายตรงข้ามอย่างพรรคก้าวไกลในการช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ “นายใหญ่” ก็ฟาดไม่เลี้ยง ว่า เป็นพรรคพูดเก่ง และทำอะไรไม่ได้ หวังทวงคืนพื้นที่ฐานเสียง และมวลชน ภายใต้ระบอบทักษิณให้คืนชีพกลับมาเป็นเกราะป้องกันตัวเองและอำนาจต่อรองทางการเมือง

รวมทั้งยังส่งสัญญาณให้ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองเห็นว่าได้ดำเนินการตามดีล ที่ขันอาสานำทัพจัดการกับด้อมส้มให้สำเร็จ แลกกับตัวเองได้กลับประเทศ รวมถึง “โครงการพาน้องกลับบ้าน” ที่ประกาศว่า จะกลับมาเล่นสงกรานต์ในปี 68 นี้ใช่หรือไม่

จึงไม่น่าแปลกใจว่ารัฐบาลชุดนี้ถูกตั้งฉายาจากสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลว่า “รัฐบาล ‘พ่อ’ เลี้ยง” ที่เปรียบเสมือน “พ่อบงการ ลูกตามสั่ง” ใช่หรือไม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘เท้ง’พลาดซ้ำ รีบผลัก‘ภท.’ พา‘พรรคส้ม'ผูกมัดตัวเอง

ไม่ว่าจะคิดมาดีแล้ว หรือไม่ทันระวัง การรีบประกาศว่า หากพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล พรรคประชาชนจะไปเป็นฝ่ายค้านของ ‘เท้ง’ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ถือเป็นเรื่องที่นักเลือกตั้งซึ่งมีประสบการณ์ทางการเมืองสูงไม่เลือกจะทำ

ศึกเลือกตั้งรอบใหม่ กับ 'สามก๊กฉบับชาติวิบัติ' ภาค 3

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า สามก๊กฉบับชาติวิบัติ ภาค 3 (มีการปรับเปลี่ยนฝ่ายและชื่อตัวละครให้สอดคล้องสถานการณ์)

สแกน 100 ชื่อปาร์ตี้ลิสต์ 'เพื่อไทย' จับตาใช้สูตรปี66 จัดลำดับ

สแกน 100 ชื่อปาร์ตี้ลิสต์พท. แกนนำรุ่นใหญ่ ภูมิธรรม-สมศักดิ์-เสี่ยเพ้ง-สรวงศ์ ส่งลูก-หลังบ้าน-เครือญาติเข้าพรรค พวกย้ายพรรค-โยกสลับจากสอบตกเขตเพียบ จับตาอาจใช้สูตรเดิม เอาตัวเต็งรมต.ไว้ท้าย ลดแรงกระเพื่อม

ท็อปไฟว์5ข่าวดังการเมืองไทย68 ยุบสภาฯไคลแมกซ์ปิดท้ายปี

นับถอยหลังเหลือเวลาอีกแค่สัปดาห์เศษก็จะสิ้นปี 2568 เข้าสู่ปีใหม่ 2569 ที่เป็นปีมะเมีย ซึ่งตำราโหราศาสตร์บางสำนักบอกว่า จะเป็นปีม้าธาตุไฟ โดยการเมืองไทยปี 2569 เรื่องสำคัญที่สุดก็คือ การเลือกตั้ง สส.ในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 ที่จะนำมาสู่การจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง

สนามเลือกตั้งเมืองหลวง-กทม. ศึกชิง33เก้าอี้-แย่งเสียงปาร์ตี้ลิสต์ พรรคส้มเหงื่อตก หลายพรรครอเจาะยาง

หนึ่งในสาเหตุทางการเมืองที่คนยังเชื่อว่า พรรคส้ม-พรรคประชาชน จะชนะการเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ.2569 ก็เพราะมองว่า สนามเลือกตั้งเมืองหลวง กรุงเทพมหานคร ที่มี

แนวรบสุดท้ายสู้สแกมเมอร์ ปัจจัยที่ต้องปิดจ๊อบชายแดน

แม้สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดน "ไทย-กัมพูชา" ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนอีสานใต้ ฝ่ายไทยจะสามารถยึดเป้าหมายในหลายพื้นที่ และ มีแนวโน้มที่ดีใน 13 แนวรบ แต่ก็ยังประมาทไม่ได้ เพราะดูเหมือนว่า "กัมพูชา"