‘หนู’อุ้ม‘นก’ สยบรบ.แตก?

เรียกว่า “หัวจะปวด” หรือไม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) หลัง “เลขาฯ นก” ไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ลูกชายคนโตของ “เนวิน ชิดชอบ” ครูใหญ่พรรคฯ ประกาศในสภาเมื่อวันที่ 9 เม.ย.ว่า
“ผมนายไชยชนก ชิดชอบ ลูกชายคนโตของนายเนวิน และนางกรุณา ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย จะไม่มีวันเห็นด้วยกับกาสิโน”

ประโยคนี้สร้างความอื้ออึงไปทั้งแวดวงการเมือง ประหนึ่งกำลังดับเครื่องชนพรรคเพื่อไทย และผลที่คาดว่าจะตามมาคือสิ้นสุดทางร่วมรัฐบาล และป้ายต่อไปคือยุบสภาใช่หรือไม่

มีการมองสาเหตุที่ออกมาทิ้งบอมบ์เพราะใช้โอกาสนี้ เสนอตัว เป็นตัวแทนฝ่ายอนุรักษนิยม หลังออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านกาสิโน

ประกอบกับ พรรคภูมิใจไทยเพิ่งเปลี่ยนโลโก้ใหม่เป็น “สีน้ำเงินเข้ม” ที่มีเป้าหมายหลักคือเทิดทูนสถาบัน

ในสภาวะที่ฝ่ายขวากำลังอ้างว้าง ไม่มีหัวขบวนต่อสู้กับพรรคส้ม รวมถึงบางส่วนก็ไม่ไว้วางใจพรรคเพื่อไทยและระบอบทักษิณในเวลานี้ ดังสัญญาณที่ออกมาแปลกในระยะหลัง เช่น การไม่อนุญาตให้ออกนอกประเทศ หรือคดีนักโทษเทวดาชั้น 14 ที่พร้อมจะออกมาดับซ่า

สอดรับกับคนในเครือข่ายสีน้ำเงินออกมาเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็น “เนวิน” ในฐานะประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ไปบรรยายแนวทางพัฒนาเมือง ให้แก่นายกฯ อบจ.และ ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศเมื่อปลายสัปดาห์ก่อน โดยระบุตอนหนึ่งว่า “การเสนอกฎหมายให้อำนาจท้องถิ่น คงไม่เร่งด่วนเท่าเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

เช่นเดียวกับ “เสี่ยตือ”-สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองประธานสภาฯ และรัฐมนตรีหลายสมัย บิดาของ ภารดร ปริศนานันทกุล และ กรวีร์ ปริศนานันทกุล 2 สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ก็ออกมาโพสต์ดุเดือดแนะให้หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว หลังมีกระแสข่าวนายใหญ่ขู่หากพรรคร่วมไหนไม่เห็นด้วยกับกฎหมายกาสิโนจะขับออกพ้นรัฐบาล

แม้กระทั่ง เจ้าพ่อแห่งลุ่มแม่น้ำสะแกกรัง “ชาดา ไทยเศรษฐ์” สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ก็แนะนำ หากจะเปิดกาสิโน รัฐบาลอย่าคิดเอง แต่ควรจะถามประชาชนเสียก่อน

โดยเฉพาะท่าทีและจุดยืนของ สว.สายสีน้ำเงิน ที่มีเสียงข้างมากในสภาสูง ก็ออกมาเล่นใหญ่ ก่อนที่นายกฯ จะมีมติเลื่อนการพิจารณา กฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา

เรียกร้องให้รัฐบาลทำประชามติ เพราะหากเดินหน้าพิจารณาในสภาอาจเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายอาญา และ พ.ร.ป.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยจะยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบเรื่องมาตรฐานจริยธรรม

พร้อมด้วยสถานการณ์เป็นบวกที่เสริมเข้ามา เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ ไม่รับวินิจฉัยคดีที่ “ณฐพร โตประยูร” อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้วินิจฉัยว่า กกต.จัดเลือกตั้ง สว.ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

และสัญญาณนี้อาจเป็นลบ และสั่นสะเทือนไปถึงคดีของ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ที่ศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยหลัง คณะ สว.ยื่นให้ตรวจสอบว่าใช้อำนาจแทรกแซง กกต.ในคดีฮั้ว สว. และต้องการให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ ว่า เป็นการกระทำที่เข้าข่ายผิดมาตรฐานจริยธรรมหรือไม่ 

นี่ถือเป็นเหตุผลให้ “ไชยชนก” ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความมั่นใจสูง และเป็นตัวของตัวเองสูง ระบายจุดยืนออกมาใช่หรือไม่ แต่อาจจะไม่ถูกต้องในการแสดงออกทางการเมือง ในฐานะการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงจังหวะเวลาที่อาจยังไม่ใช่ตอนนี้

จึงเป็นเหตุให้ “เสี่ยหนู”-อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่มีภารกิจนอกสภา ต้องรีบเข้ามาสยบกระแสข่าวรัฐบาลกำลังจะแตก

เนื่องจากเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ถือเป็นข้อตกลงของพรรคร่วมรัฐบาล ก่อนคลอดออกมาเป็นนโยบายของรัฐบาลที่แถลงต่อรัฐสภา

โดย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยยอมรับว่า “ผิดคิวนิดหน่อย” พร้อมอธิบายว่า เป็นเอกสิทธิ์ในฐานะเป็น สส. และไม่ใช่มติของพรรคแต่อย่างใด

ขณะที่วันรุ่งขึ้น “อนุทิน” กล่าวอีกครั้งว่า ได้ส่งไลน์ไปแจ้งท่านนายกฯ แล้วว่าสิ่งที่ไชยชนกได้อภิปราย เป็นความเห็นส่วนตัว

 “คุณไชยชนกได้แสดงท่าทีออกไปแล้ว แต่ถ้าพรรคมีมติคุณต้องโหวต จะสวนมติพรรคไม่ได้ ถ้าสวนกับพรรค พรรคก็มีกฎระเบียบที่จะดำเนินการเหมือนสมาชิกพรรคทุกคน”

ขณะที่ “นายกฯ อิ๊งค์”-แพทองธาร ชินวัตร ตอบคำถามเรื่องนี้เคียงคู่กับ “อนุทิน” ที่ทำเนียบฯ ก่อนร่วมงานสืบสานวัฒนธรรมประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2568

โดยเธอรับว่า คิดว่าไม่มีอะไร และเคยได้คุยกับเลขาธิการพรรคภูมิใจไทยนอกรอบอยู่แล้ว และทราบว่าไชยชนกเป็นห่วงเรื่องภัยพิบัติและอุทกภัยต่างๆ ยังพูดถึงเรื่องของฝนและน้ำท่วม และแสดงความเป็นห่วงในเรื่องนี้
“แต่การอภิปรายเมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา อาจจะมีหลายเรื่องหลายประเด็นที่ทำให้เกิดความสับสนได้ ซึ่งเป็นเรื่องของพรรคภูมิใจไทยที่จะต้องไปเคลียร์กันเอง” นายกฯ อิ๊งค์ กล่าว

ส่วนเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ นายกฯ พร้อมเดินหน้าทำความเข้าใจกับประชาชน พร้อมประกาศลั่นไม่ถอน แค่เลื่อน

เมื่อฟังจากท่าทีของสองฝ่ายแล้ว เชื่อว่าประเด็นนี้ผู้มีอำนาจตัวจริงของพรรคแดงและพรรคน้ำเงินก็คงจะเคลียร์ได้เจ๊าๆ กันไปเช่นกัน เข้าทำนอง “อยู่กันแบบตบจูบ”

เพราะกดเครื่องคิดเลข ดีดลูกคิดแล้ว เห็นตรงกันว่า เวลานี้ “ยังไม่พร้อมแตกหัก!” เพราะอายุรัฐบาลยังมีเหลือถึงปี 70.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศึกชายแดน เปลี่ยนเกม! ‘อนุทิน’ พลิกบีบ ‘ส้ม-แดง’

พรรคภูมิใจไทย พลิกเกมขี่กระแส ชาตินิยม ได้อย่างทันทีท่วงที เมื่อ “นายกฯ หนู”-อนุทิน ชาญวีรกูล พลิกสถานการณ์จากเสียงตำหนิเรื่องน้ำท่วมใต้และปัญหาสแกมเมอร์ล่าช้า มายืนบนพื้นที่ที่ตัวเองได้เปรียบ คือกระแสชาตินิยม และประเด็นความมั่นคง

พิสูจน์กึ๋น“แม่ทัพใหม่กกต.” คุมบังเหียน2ศึกใหญ่ปีหน้า

ในช่วงปลายปี 2568 ที่กำลังจะสิ้นสุดลง กระแสการเมืองไทยกำลังร้อนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะประเด็นการเตรียมจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และการออกเสียงประชามติที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2569

แก้รธน.วาระ2เร่งสรุปเนื้อหา วัดใจวาระ3ก่อนกดปุ่มยุบสภา

ในการประชุมร่วมรัฐสภา ครั้งที่ 1 สมัยวิสามัญ เป็นพิเศษ วันพุธที่ 10 ธ.ค. และครั้งที่ 2 สมัยวิสามัญ เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีที่ 11 ธ.ค. ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ถึงเที่ยงคืนโดยประมาณ เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่…พุทธศักราช...ซึ่งคณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว วาระ 2

ข้ามเส้นแดง“เผด็จศึกฮุน เซน” “เจ็บต้องจบ”ก่อนถูกห้ามมวย

การปรากฏตัวของขุนพล “มือขวา” ของ “สมเด็จฮุน เซน” ประธานพฤฒสภากัมพูชาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เปรียบเหมือนสัญญาณที่บ่งชี้ว่า “กัมพูชา” กำลังขยับเข้าสู่ปฏิบัติการเอาพื้นที่คืนจากไทย ที่เราได้ยึดมาได้ใน “สงคราม 5 วัน” ช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

วาระร้อนหลังเปิดสภาฯ12ธ.ค. จุดไฟการเมืองลุกโชนก่อนยุบ!

รัฐสภาจะกลับมาเปิดสมัยประชุมกันอีกครั้งตั้งแต่ 12 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป ซึ่งหากจังหวะการเมืองเดินไปตาม MOA ที่ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ทำไว้กับพรรคประชาชน ก็คือจะ ยุบสภาฯ ในวันที่ 31 มกราคม 2569

หาดใหญ่-สแกมเมอร์ทำรบ.'แต้มหล่น' 'อนุทิน'เปิดหน้าชนกู้เรตติ้ง

โดนล่อเป้าในจังหวะที่รัฐบาลกำลังอยู่ในสภาพอ่อนแอจากกรณีมหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา สำหรับการปล่อยภาพที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล