'สมศักดิ์' วีโตแพทยสภา ปลุกนิติธรรมโต้ 'ทักษิณ'

“การตัดสินใจครั้งนี้ ทักษิณ และ สมศักดิ์ประเมินพลังทางสังคมต่ำเกินไป เนื่องจากได้ปลุกแรงต้านในสังคมจากกลุ่มแพทย์ นักการเมือง ภาคประชาชน ให้ลุกขึ้นมาต่อต้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”

ไม่เกินความคาดหมาย หลัง สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะ สภานายกพิเศษ ทำหนังสือเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ถึงแพทยสภาวีโตการลงโทษ 3 แพทย์ กรณีรักษา ทักษิณ ชินวัตร ที่โรงพยาบาลตำรวจชั้น 14 ว่าไม่ได้ป่วยวิกฤต  

สอดรับกับการเดินเกมของ นายใหญ่ หลังออกมาปรากฏตัว โชว์วิสัยทัศน์ผ่านเวทีปราบยาเสพติดของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา แสดงตัวว่าจะไม่หนีคดี และประกาศให้รู้ว่าตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง 

โดยไม่สนใจว่า ประเทศไทยมี พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 28 และ 29 ป้องกันมิให้คนนอกครอบงำพรรคการเมืองและรัฐบาลหรือไม่ และจะด้อยค่านายกฯ แพทองธาร ชินวัตร หรือไม่   

นอกจากนี้ ยังท้ารบหมอ โดยซัดคืนว่า แพทยสภามีหน้าที่ดูเรื่องจริยธรรมของแพทย์ บางทีแพทยสภาก็ไม่มีจริยธรรมเสียเองก็มี

บางคนไลน์กลุ่มหลุดออกมา แพทยสภาบางคนด่าผมอยู่ในไลน์กลุ่ม แล้วแพทยสภาอีกคนหนึ่งก็ตอบเป็นสติกเกอร์ไปว่า YES ซึ่งยังไม่ทันพิจารณาเลย อย่างนี้เรียกว่าจริยธรรมมีปัญหาซะเอง” 

ขณะที่วันต่อมาก็มีไลน์ผ่านสื่อฯ มาสนับสนุน “นายใหญ่” ออกมาทำลายความน่าเชื่อถือแพทยสภาซ้ำอีกด้วย  

การออกมาซัดแพทยสภาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง เพราะคนพูดไม่มีเครดิตเรื่องจริยธรรม  จะไปเรียกร้องจากใคร เพราะที่ผ่านมาเป็นผู้ละเมิดจริยธรรมทางการเมืองตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน  สังคมเห็นเป็นที่ประจักษ์ 

ตั้งแต่สมัยเป็นนายกฯ ได้ทำการเมืองจนเกิดเผด็จการรัฐสภา แทรกแซงองค์กรอิสระ ออกนโยบายรัฐ เอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจตัวเองและพวกพ้อง มีคดีทุจริตเชิงนโยบายจนถูกศาลตัดสินให้จำคุก ยึดทรัพย์ และหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศถึง 17 ปี 

ก่อนกลับมายอมรับผิดขออภัยลดโทษ แต่ก็ไม่ยอมเข้าเรือนจำ โดยถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 เป็นเวลา 180 วัน ท่ามกลางข้อครหาป่วยทิพย์ และยังทำลายกระบวนการยุติธรรมอย่างยับเยิน 

นโยบาย ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ หวนกลับมาแล้ว คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่ และเอาอยู่ทุกสถานการณ์  

เป็นเหตุให้ สมศักดิ์ ไม่มีทางเลือก ต้องวีโตเพราะเมื่อ ทักษิณ ไม่รอด ตัวเองอาจจะถูกอีโต้ ในทางกลับกัน หากเดินตามกระแสสังคม และมติแพทยสภา แม้จะได้เสียงชื่นชม แต่อาจจะหมดลมในเส้นทางการเมือง 

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจครั้งนี้ ทักษิณ และ สมศักดิ์ ประเมินพลังทางสังคมต่ำเกินไป เนื่องจากได้ปลุกแรงต้านในสังคมจากกลุ่มแพทย์ นักการเมือง ภาคประชาชน ให้ลุกขึ้นมาต่อต้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะมองว่ามีเจตนาเพื่อช่วย นักโทษชั้น 14 ด้วยการแทรกแซงอำนาจของแพทยสภา และยังสนับสนุนการทำลายกระบวนการยุติธรรมอีกด้วย  

จึงจับตาท่าทีของบรรดาแพทย์ต่างๆ จะรวมพลัง ตอบโต้คืน ผ่านการประชุมแพทยสภา ในวันที่ 12 มิถุนายนหรือไม่    

โดยต้องใช้เสียงยืนยันไม่น้อยกว่าสองในสาม  หรือจำนวน 47 เสียงขึ้นไป ของจำนวนกรรมการทั้งคณะ 70 คน เพื่อยืนยันมติลงโทษ 3 แพทย์ ท่ามกลางกระแสล็อบบี้จากฝ่ายการเมืองเพื่อมิให้เสียงกรรมการไม่ถึง 47 เสียง  

มีกระแสข่าวยืนยัน พร้อมโต้กลับฝ่ายการเมืองว่า ขณะนี้มีเสียงจากแพทยสภาเกินสองในสาม จะยืนยันลงโทษแพทย์ 3 คนเช่นเดิม เพื่อรักษาความถูกต้องของวิชาชีพ    

ทั้งนี้ หากแพทยสภายืนยันมติสำเร็จ จะเป็นเอฟเฟกต์สะเทือนไปถึง ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพร้อมคดีชั้น 14 ของ “ทักษิณ” ในวันที่ 13 มิถุนายนว่า บังคับโทษถูกต้องตามคำพิพากษาหรือไม่ 

เช่นเดียวกับ ภาคประชาชน และแนวต้านระบอบทักษิณ นำโดย ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่เคยเป็นผู้ร้องให้ศาลฎีกาฯ ไต่สวนคดีชั้น 14 ของ ทักษิณ ก่อนหน้าศาลฎีกาฯ จะรับเรื่องไว้ไต่สวนเอง พร้อมด้วย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีต สส.พรรคเสรีรวมไทย ที่เคยไปเยี่ยมนายทักษิณที่ รพ.ตำรวจ 2 ครั้งช่วงนอนพักรักษาตัว, สมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา,  นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ, ภิมะ สิทธิ์ประเสริฐ และ นิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา ได้ร่วมกันยื่นคำร้องต่อศาลฯ ขอส่งมอบพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงต่างๆ อันเป็นที่มาของคำร้องฉบับที่ศาลฎีกาได้สั่งรับไว้ไต่สวนหาความจริงด้วยศาลเอง   

ประกอบด้วย 1.สำเนาเอกสารรายงานผลการตรวจของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 2.สำเนาเอกสารคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา 3.สำเนาเอกสารมติคณะกรรมการแพทยสภา ที่ได้มีการสอบสวนจริยธรรมแพทย์ที่รับรองการป่วยของ ทักษิณ ชินวัตร

4.สำเนาหนังสือ ป.ป.ช. วันที่ 16 ธันวาคม ของ สาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. 5.เอกสารคำให้การของ พล.ต.อ.เสรีศุทธ์  เตมียเวส 6.เอกสารคำให้การต่อ ป.ป.ช. ของผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ 2 ฉบับ นอกจากนี้ยังมีหลักฐานใหม่ ใบเสร็จจากโรงพยาบาลตำรวจ 26 ใบ มีแต่ค่าห้อง แต่ไม่มีค่ายาและค่ารักษา  

ชาญชัย กล่าวว่า เอกสารทั้งหมดที่นำมายื่นวันนี้ เป็นหลักฐานรายละเอียดประกอบคำร้องเดิมของตนเอง ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของนักการเมืองไม่ได้มีคำสั่งชี้แจงในชั้นไต่สวนวันที่ 13 มิถุนายน ตนจึงขอให้ศาลฎีกาฯ มีคำสั่งให้นำเอกสารและบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่ชี้แจงในชั้นไต่สวน ตามอำนาจของศาลฎีกาฯ พิจารณา

ด้าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อว่า “ทักษิณ” จะไม่เดินทางมาด้วยตัวเอง เนื่องจากหากมีคำพิพากษาในวันดังกล่าวที่ไม่เป็นคุณ จะทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยงต่อตัว “ทักษิณ” เอง ฉะนั้นจึงเชื่อว่า “ทักษิณ” จะหลบหนีก่อนวันที่ 13 มิถุนายน 68

ทั้งนี้ มติแพทยสภาเป็นส่วนสำคัญมากในเรื่องนี้  ตนในฐานะเป็นสมาชิกของแพทยสภายืนยันว่า แพทยสภาทำงานอย่างมืออาชีพ ตนเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการไต่สวน วันที่ 13 มิถุนายน 68 เป็นอย่างมาก

สอดรับกับสภาสูง ในเครือข่ายสีน้ำเงิน โดย นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ในฐานะประธาน กมธ.การสาธารณสุข และ พล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย ในฐานะประธาน กมธ.การกฎหมายและการยุติธรรม ร่วมกันศึกษา ตรวจสอบมติแพทยสภา ปมป่วยทิพย์ชั้น 14  ที่สะท้อนความไม่โปร่งใสในการให้ข้อมูลทางการแพทย์ และขุ่นเคืองต่อกระบวนการยุติธรรม เหลื่อมล้ำต่อการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังรายอื่นๆ หรือไม่ ซึ่งเชื่อว่าอาจมีการแถลงความคืบหน้าหรือผลการศึกษาก่อนวันที่ 13 มิ.ย. เป็นระยะ

เช่นเดียวกับ สัญญาณจากฝ่ายตุลาการ ที่ทยอยออกมารักษาหลักนิติธรรมของประเทศ โดยสะท้อนผลเชิงลบต่อระบอบชินวัตร ตั้งแต่ศาลอาญาในคดี 112 ไม่อนุญาตให้ ทักษิณ เดินทางไปต่างประเทศ เพราะเกรงว่าจะหนีคดีชั้น 14  

รวมถึงผลตัดสินของศาลปกครองสูงสุด พลิกคำตัดสินจากศาลปกครองกลาง จากไม่ผิด เปลี่ยนเป็นให้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ชดใช้ค่าเสียหายหมื่นล้านบาท จากความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว  

ล่าสุด บุญทรง เตริยาภิรมย์ ที่ได้รับการปล่อยตัว พักโทษ จากคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หลังถูกศาลฎีกาสั่งจำคุก 42 ปี จู่ๆ ป.ป.ช.ได้แจ้งข้อกล่าวหาใหม่ คดีร่ำรวยผิดปกติ 40 ล้านบาท อยู่ในชื่อคนใกล้ชิดที่เป็นเครือญาติอย่างน้อย 4 รายถือแทน หลังจากพ้นจากตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์  

การวีโตของ “สมศักดิ์” หวังอุ้ม “ทักษิณ” ได้ปลุกสังคม และสถาบันตุลาการ ให้ยึดหลักนิติธรรมเข้ามากู้ชาติ และทวงคืนความยุติธรรม ผ่านการตัดสินของศาลฎีกาฯ ในวันศุกร์ที่ 13 มิ.ย.นี้. 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ

เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569

มีคำตอบ! รัฐบาลอนุทินมี ‘ศุภจี‘ เป็นจุดเด่น ทำไมปล่อยให้มี ’ธรรมนัส’ เป็นจุดอ่อน

คุณศุภจีคือตัวแทนของ "ภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ" ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน ดึงดูดชนชั้นกลางและคนเมือง และเป็นเกราะป้องกันทางการเมือง เมื่อฝ่า

ขนลุก! กูรูใหญ่ สาปแช่งพรรคเพื่อไทย หลังข่าวซูเอี๋ยพรรคส้ม

ความคิดที่เพื่อไทยและประชาชนจะจับมือกันตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งแล้วเลื่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือท่าดีทีล้มละลายทางการเมือง

'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'

ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย

พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ

แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก