‘แม้ว’ ทวงคืน มท. ‘เฮ้ง’ ป่วน รทสช. สัญญาณปรับ ครม.มาแล้ว

ไม่ว่าการที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ทรงอิทธิพลของ พรรคเพื่อไทย (พท.) จะพูดจริง หรือแค่ต้องการเขย่า พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่มี นายเนวิน ชิดชอบ เป็นครูใหญ่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นหัวหน้าพรรค ภท.

แต่การประกาศยึดกระทรวงมหาดไทยคืน ถือเป็นสัญญาณหนึ่งว่า การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้

ขณะที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวออกมาตลอดว่า การปรับ ครม.อุ๊งอิ๊ง 2 จะเกิดขึ้นหลังจากร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ผ่านสภาไปแล้ว

นอกจากสัญญาณจาก ‘ทักษิณ’ แล้ว ยังมีอีกหลายสัญญาณที่บ่งชี้ว่า การปรับ ครม.จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลอย่าง พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ในซีกของ ‘เสี่ยเฮ้ง’-นายสุชาติ ชมกลิ่น สส.บัญชีรายชื่อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์

ที่พยายามรวบรวม ระดมพลเพื่อน สส.ในพรรค ในทำนองว่า จะพาไปอยู่กับพรรคป้ายแดงอย่าง พรรคโอกาสใหม่ ที่มี นายทุนพลังงาน เป็นท่อน้ำเลี้ยง

หากจะบอกว่า ‘เสี่ยเฮ้ง’ ต้องการไปสร้างอาณาจักรใหม่ในการเลือกตั้งครั้งหน้าอาจจะจริงส่วนหนึ่ง แต่หากดูจากไทม์ไลน์ การขยับแรงในช่วงนี้ดูจะเร็วเกินไปในทางการเมือง

มีการมองกันว่า วัตถุประสงค์ของ ‘เสี่ยเฮ้ง’ ในการเดินแรงครั้งนี้ สาเหตุสำคัญมาจากความไม่มั่นคงในเก้าอี้รัฐมนตรีของตัวเองในรัฐบาล  น.ส.แพทองธาร ชินวัตร

แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ อีกซีกหนึ่งในพรรครับรู้การเคลื่อนไหวของ ‘เสี่ยเฮ้ง’ มาตลอด โดยเฉพาะการทำตัวเป็นมือทำงานคนสำคัญของอดีตนายทุนพรรค ซึ่งมีปัญหากับ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค เกี่ยวกับแนวทางการทำงาน

และยังต้องการจะโค่นนายพีระพันธุ์ และยึดพรรคไว้เอง

 ‘เสี่ยเฮ้ง’ พยายามรวบรวมเพื่อน สส.ในพรรค ให้อยู่ในกลุ่มก๊กตัวเอง เพื่อสร้างอำนาจต่อรองทั้งภายในพรรค โดยใช้ช่องว่างเรื่องความไม่พอใจของ สส.ที่มีต่อนายพีระพันธุ์ เกี่ยวกับแนวทางการปกครองในพรรค ด้วยการดึงมาเป็น ‘แนวร่วม’ ตัวเอง

แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติจากชลบุรี รู้ตัวดีว่า ผู้บริหารพรรคที่มีอำนาจตัดสินใจ ตั้งใจจะเขี่ยตัวเองพ้น ครม. หากมีการปรับ ครม.เกิดขึ้น            

ฉะนั้นจึงต้องเปิดหน้าสู้ด้วยการโชว์กองกำลังในพรรค ต่อรองกับอีกขั้วในพรรค เพื่อรักษาสถานะตัวเอง

2 สัญญาณ จากคำให้สัมภาษณ์ของ ‘ทักษิณ’ และจากการเคลื่อนไหวเซฟเก้าอี้ตัวเองของ ‘เสี่ยเฮ้ง’ ล้วนมาจากสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น นั่นคือการปรับ ครม.

การปรับ ครม.ครั้งนี้น่าสนใจ เพราะถ้านับจากอายุรัฐบาลแล้ว เหลือแค่อีกปีเศษๆ เท่านั้นก็จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นทุกตำแหน่ง ทุกกระทรวง ล้วนมีความหมายอย่างยิ่ง

ต้องเป็นการปรับเชิงยุทธศาสตร์สำหรับเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้งในอนาคต ซึ่งน่าจะเป็นการปรับครั้งใหญ่ในหลายตำแหน่ง

จุดสนใจคือ ‘กระทรวงมหาดไทย’ กระทรวงยุทธศาสตร์สำคัญที่นักการเมืองต่างต้องการใช้เป็นกลไกชิงความได้เปรียบใน สนามเลือกตั้ง ซึ่งจะเห็นว่าที่ผ่านมาพรรคแกนนำรัฐบาลมักจะครอบครองกระทรวงนี้เอาไว้เอง มีเพียงไม่กี่ยุคเท่านั้นที่หลุดไปอยู่ในมือพรรคร่วมรัฐบาลอื่น อันมาจากอำนาจต่อรองในมือของพรรคแกนนำมีไม่มาก

พรรคเพื่อไทยนั้นต้องการทวงคืนกระทรวงนี้กลับจากพรรคภูมิใจไทยมาตลอด แต่ปัจจัยหลายอย่างไม่เอื้อให้พวกเขาทำแบบนั้น     

พรรคเพื่อไทยไม่กล้าแตกหักกับพรรคภูมิใจไทย ด้วยปัจจัยหลายอย่าง ทั้งเสียงในพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งการต้องพึ่งพากลไกวุฒิสภาที่ สว.สีน้ำเงินคุมอยู่

ที่ผ่านมามีขบวนการพยายามลดอำนาจต่อรองของเครือข่ายสีน้ำเงินลง ด้วยการล้ม สว.ชุดปัจจุบัน เพื่อทำให้พรรคภูมิใจไทยอ่อนแอ และกำจัดได้ง่ายขึ้น แต่ยังไม่สำเร็จ

ขณะเดียวกันยังมีการเพิ่มกำลังพลเอาไว้เพื่อจะลดอำนาจต่อรองของพรรคภูมิใจไทย โดยมีพรรคกล้าธรรมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรค เป็นเครื่องจักรในการดูด สส.จากฝ่ายค้าน

อย่างไรก็ดี แม้วันนี้แผนการหลายอย่างจะยังไม่สำเร็จ แต่ด้วยระยะเวลาที่บีบรัดขึ้นทุกขณะ ประกอบกับพรรคเพื่อไทยยังไม่มีผลงานใดๆ มันจึงเดินมาสู่จุดต้อง ‘วัดใจ’

วัดใจด้วยการยึด ‘กระทรวงมหาดไทย’ มาดูเอง และยอมเสี่ยงกับการตอบโต้จากอีกฝั่งที่เสียประโยชน์ ซึ่งจะมาในหลายรูปแบบ 

บางส่วนในพรรคเพื่อไทยประเมินว่า จะรับมือกับแรงกระแทกได้ เพราะอีกฝั่งก็ไม่ได้ถูกสร้างมาให้เป็นฝ่ายค้าน

เพียงแต่วันนี้ยังฟันธงไม่ได้ว่า จะยึดคืนได้หรือไม่ เพราะในทางการเมืองมันอยู่ที่การเจรจา ซึ่งบางครั้งก็ต้องเล่นบทโหดๆ เพื่อให้อีกฝ่ายยอมลดความจัดจ้านลง

ปฏิกิริยาของพรรคภูมิใจไทยในห้วงสัปดาห์นี้ จะเป็นตัวบ่งบอกได้ระดับหนึ่งว่า สู้หรือไม่สู้ หลังจาก ‘ทักษิณ’ ส่งสัญญาณแรงๆ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดขั้นตอนหย่อนบัตร8ก.พ.69 บัตร3ใบเลือกตั้งพ่วงประชามติ

ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูกาลการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) อย่างเป็นทางการ โดยในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่จะมีการเลือกตั้ง สส. พร้อมกับการทำประชามติหนึ่งเรื่องในวันเดียวกัน โดยกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 17.00 น. ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

'ภท.-ปชน.' แตกหักปม112 'พท.' ตัวแปรรอร่วมรัฐบาล

การเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 กำลังเดินหน้าเข้าสู่ช่วงโค้งสำคัญ พรรคการเมืองต่างเร่งนำเสนอนโยบาย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และทีมรัฐมนตรี เพื่อขอโอกาสประชาชนเข้ามาบริหารประเทศในอีก 4 ปีข้างหน้า

เพื่อไทยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร คนรุ่นใหม่เพียบ ดึงคนใกล้ชิดมดดำ เสริมทีมเลือกตั้ง

เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย คนรุ่นใหม่เพี๊ยบ น้องชาย-คนสนิท มดดำ / มดเล็ก-รวีภัทร์ อดีต สส.กอล์ฟ กาญจนบุรี จั๋ง พงศ์ศรัณย์ อดีตรองเลขาธิการนายกฯ

กังขา 'ปชน.' ไม่จับมือ 'กธ.' แต่จับมือ 'พท.' แม้ 'ทักษิณ-ประเสริฐ' แนบแน่น 'เบน สมิธ'

นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊กระบุว่า พรรคประชาชนไม่จับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม เพราะ ธรรมนัส สนิทกับ เบนสมิธ

ภูมิใจไทยพลัส-เปิดเกมใหญ่ ชูรัฐมนตรีคนนอก ลุยเลือกตั้ง

บรรยากาศการเมืองปลายปี 2568 ต่อเนื่องต้นปี 2569 เดินหน้าเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มรูปแบบ หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งเตรียมเปิดรับสมัคร สส.ปลายเดือนธันวาคม ก่อนจะหย่อนบัตรในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 พรรคการเมืองต่างเร่งเปิดตัวผู้สมัคร นโยบายหาเสียง และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในช่วงโค้งสุดท้าย