กระแสข่าวการ ปรับคณะรัฐมนตรี ดังขึ้นอีกครั้งในต้นสัปดาห์นี้ หลังเดิมทีหลายฝ่ายคาดการณ์ว่า “ทักษิณ ชินวัตร-นายกรัฐมนตรีตัวจริง” จะสั่งให้ แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ปรับ ครม.หลังวันที่ 13 มิ.ย. ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาฯ นัดไต่สวนปมชั้น 14 รพ.ตำรวจ ที่เกี่ยวข้องกับทักษิณโดยตรง ซึ่งสถานการณ์คาดการณ์ได้ยากว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทำให้ถูกมองว่าทักษิณคงขอตั้งหลักรอวันที่ 13 มิ.ย.ไปก่อนค่อยคิดปรับ ครม.
ทว่าต้นสัปดาห์นี้เกิดกระแสข่าวว่า นายกฯ ตัดสินใจปรับ ครม.ภายในสัปดาห์นี้ เพราะเห็นว่าเป็นช่วงจังหวะการเมืองที่เหมาะสม รัฐบาลบริหารประเทศมาเข้าสู่เดือนที่ 9 ไทม์มิ่งลงตัวที่จะปรับ ครม.เพื่อกระชับอำนาจและปรับปรุงการทำงานให้ดีขึ้น ไม่จำเป็นต้องรอวันที่ 13 มิ.ย. เพราะแกนนำเพื่อไทยประเมินว่า หากผลการไต่สวนของศาลฎีกาฯ วันที่ 13 มิ.ย. เกิด worst-case ในทางที่ไม่เป็นคุณกับทักษิณ อาจทำให้ พรรคเพื่อไทยเสียสมดุลอำนาจการต่อรองในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาลได้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับทักษิณ เพราะอาจทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเกรงใจเพื่อไทยน้อยลง โดยเฉพาะการเจรจาต่อรองยึดคืน กระทรวงมหาดไทย จากเนวิน ชิดชอบ และอนุทิน ชาญวีรกูล-พรรคภูมิใจไทย ทำให้เพื่อไทยเร่งปรับ ครม.-เร่งเจรจา ปิดดีล-ทำข้อตกลงสัญญาใจ กับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลให้จบภายในสัปดาห์นี้ และอาจเริ่มปรับ ครม.-ส่งรายชื่อภายในสัปดาห์หน้าก่อน 13 มิ.ย.
อย่างไรก็ตาม มันก็ยังเป็นกระแสข่าวที่ร่ำลือกันทางการเมือง ท่ามกลางการออกมาปฏิเสธจากแกนนำรัฐบาลหลายคน ว่ายังไม่ได้สัญญาณจากนายกฯ ในเรื่องการปรับ ครม.
โดยเฉพาะกระแสข่าวการเจรจาแลกโควตากระทรวงระหว่างเพื่อไทยกับภูมิใจไทย ในส่วนของมหาดไทยน่าจะลงตัวแล้ว จนลือกันว่า เต็ง 1 เก้าอี้ "มท.1" ของเพื่อไทย อาจเป็น “เฮียเสริฐ-ประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลฯ” เพื่อให้เข้าไปขับเคลื่อนงานหลายอย่างที่ทักษิณเห็นว่า ภท.ยังไม่สนองเท่าที่ควร ทั้งงานหน้าฉาก เช่น ปราบยาเสพติด-การอัดฉีดงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจลงสู่หมู่บ้านและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงงานหลังฉาก ที่ข่าวว่าทักษิณต้องการให้ประเสริฐเข้าไป ปิดจ๊อบ-รับจบ โดยเร็ว ก็คือการหาทางออกในการแก้ไขกฎหมาย-กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับเรื่อง พนันออนไลน์ให้เป็นสิ่งถูกกฎหมาย ที่ทักษิณมองว่า ที่ผ่านมามหาดไทยไม่สนองตอบเท่าที่ควร หลังการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงดิจิทัลฯ-มหาดไทย และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไม่คืบหน้า
และล่าสุดต้องสะดุดลงชั่วคราว หลังคณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัยว่า การออกกฎกระทรวงเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข กำหนดหลักประกัน การจัดเก็บรายได้และวิธีการเล่นพนันออนไลน์ ตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 จะต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายแม่บทให้อำนาจไว้ ไม่อาจกระทำสิ่งที่จะเกินกฎหมายแม่บทได้ จนส่งผลให้ความพยายามทำเรื่องพนันออนไลน์ของรัฐบาลเพื่อไทยเครื่องดับกลางทาง ทำให้ทักษิณ-เพื่อไทย ต้องการให้ รมว.มหาดไทยกับ รมว.ดีอีเอส เป็นคนของเพื่อไทยทั้ง 2 กระทรวง เพื่อจะได้หาทางออกเรื่องนี้โดยเร็ว เพราะคงมองว่าอนุทินไม่อยากเร่งทำเรื่องนี้
ตลอดจนทักษิณ-เพื่อไทย ต้องการให้ประเสริฐเข้าไปเตรียมการรองรับนโยบายเปิดกาสิโน-เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หลังเพื่อไทยส่งสัญญาณเปิดสภาฯ 3 ก.ค. จะผลักดันร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจรให้ผ่านสภาฯ วาระแรกภายในการประชุมสภาฯ รอบหน้า ทำให้เพื่อไทยต้องเตรียมพร้อมทุกสเต็ป
เพราะร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร มาตรา 8 ให้นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทยรักษาการ โดยมอบอำนาจให้ รมว.มหาดไทยออกกฎกระทรวงเพื่อรองรับกฎหมายเปิดกาสิโน เช่น อำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ เป็นต้น รวมถึงยังให้อำนาจ รมว.มหาดไทยไว้อีกหลายเรื่อง เช่น การร่วมเป็นคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร หรือซูเปอร์บอร์ด ที่มีอำนาจในการออกใบอนุญาต-การให้ใบอนุญาต-การกำหนดสถานที่ตั้งกาสิโนและสถานบันเทิงครบวงจร แต่ที่ผ่านมาอนุทินไม่เด้งรับ แถมยังเคยเสนอให้รัฐบาลทำประชามติก่อนสภาฯ เห็นชอบกฎหมาย ทำให้การปรับ ครม.รอบนี้ ทักษิณต้องเอากระทรวงมหาดไทยกลับคืนจาก ภท.และส่งมือทำงาน ที่เป็นมือรับจบ-ปิดจ๊อบเร็ว แบบเฮียเสริฐของ สส.เพื่อไทย เข้าไปทำภารกิจนี้ รวมถึงงานอื่นๆ ในภารกิจ รมว.มหาดไทย เช่น
การจัดทัพสิงห์คลองหลอด-มหาดไทย เพื่อเข้าไปล้างบาง เปลี่ยนถ่ายอำนาจจาก
สิงห์น้ำเงิน ทั้ง อธิบดี-ผู้ว่าฯ-รองผู้ว่าฯ-นายอำเภอ สายภูมิใจไทย ให้จัดทัพใหม่เป็น สิงห์คลองหลอดสายแดงของเพื่อไทย ผงาดยกแผง ผ่านการตั้งบิ๊กคลองหลอดสายเพื่อไทย เข้าไปยึดกุมตำแหน่งหลักในมหาดไทย เช่น อธิบดีกรมการปกครอง ที่ไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อดีต ผวจ.บุรีรัมย์ สายตรงเนวิน จะเกษียณปีนี้ โดยทักษิณและกลุ่มโคราชเพื่อไทยต้องการดัน ชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าฯ โคราช ที่จะเกษียณปี 2570 ไปเป็นอธิบดีกรมการปกครองเพื่อเตรียมจัดทัพนักปกครองก่อนเลือกตั้งปี 2570 ถ้าไม่ยุบสภาเสียก่อน รวมถึงทักษิณต้องการให้ มท.1 จากเพื่อไทยเข้าไปจัดทัพผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ ตั้งแต่กันยายนปีนี้ เพื่อฝังรากลึกก่อนการเลือกตั้ง เผื่อจะได้เป็นลมใต้ปีกช่วยเพื่อไทยชนะเลือกตั้งรอบหน้า ทำให้ช่วงนี้เต็ง 1 มท.1 เลยเป็นชื่อของประเสริฐ ที่เป็นอดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ซึ่งตอนเลือกตั้งปี 2566 แท็กทีมกับ “เสี่ยแป้งมันพันล้าน วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีต รมช.คมนาคม ที่ย้ายมาจากภูมิใจไทย” นำทีม สส.เพื่อไทยโคราช ชนะเลือกตั้งมาถึง 12 คน จาก 16 เขต ซึ่งเพิ่มขึ้นจากตอนปี 2562 ถึง 8 ที่นั่ง จนทักษิณให้โควตารัฐมนตรีกับกลุ่มโคราช 2 เก้าอี้ คือ ประเสริฐกับสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม แถมไม่พอ ช่วงหลังลือกันว่าประเสริฐมีสายสัมพันธ์อันดีกับ เสี่ยใหญ่นักธุรกิจพลังงาน ที่แนบแน่นกับทักษิณด้วย เลยยิ่งทำให้ได้แรงหนุนเพิ่มเข้าไปอีก ในการลุ้นขยับนั่งเก้าอี้ใหญ่ขึ้นจาก รมว.ดีอีเอสไปเป็น มท.1 อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีชื่อบิ๊กเพื่อไทยคนอื่นที่รอลุ้น มท.1 เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น บิ๊กอ้วน-ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ที่กำลังโดนถล่มอย่างหนักว่า “ขาดภาวะผู้นำ-ไม่มีบารมี-ขาดความเด็ดขาด” ในการแก้ปัญหาการเผชิญหน้ากันระหว่างทหารไทย-กัมพูชาที่ลุกลามบานปลายยังเคลียร์กันไม่จบ หากไม่ปรับเปลี่ยนปล่อยไว้แบบนี้ ยังให้ภูมิธรรมเป็น รมว.กลาโหมต่อไป อาจไม่เป็นผลดีต่อตัวเองและรัฐบาลเพื่อไทย
ทำให้ก็ไม่แน่ ภูมิธรรม อดีตพี่ใหญ่สิงห์ดำ รัฐศาสตร์ จุฬาฯ อาจได้กลับมหาดไทยอีกครั้ง ในตำแหน่ง มท.1 หลังก่อนหน้านี้เคยอยู่มาแล้ว เมื่อ 24 ปีที่แล้ว ที่ตอนนั้นเข้าไปเป็น เลขานุการ รมว.มหาดไทย-ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ในช่วงรัฐบาลทักษิณ หลังเลือกตั้งปี 2544
ส่วนว่าหากอนุทินยอมแลกมหาดไทยกับเพื่อไทยแล้วกลับไปเป็น รมว.สาธารณสุขอีกครั้ง แล้ว สมศักดิ์ เทพสุทิน-รมว.สาธารณสุข จะไปอยู่ที่ไหน ก่อนหน้านี้ก็มองกันว่า สมศักดิ์ที่ตลอดชีวิตการเมือง เป็น รมต.มาแล้วหลายกระทรวง แต่ไม่เคยอยู่มหาดไทยเลยแม้แต่ครั้งเดียว จะได้มาเป็น มท.1 สักครั้งในชีวิตหรือไม่ หลังล่าสุดเอาใจนายใหญ่ทักษิณ ด้วยการชนกับหมอ-แพทยสภา ผ่านการวีโตมติแพทยสภา ที่ลงโทษ 3 หมอ
จับกระแสดูยังไม่พบว่ามีการขานชื่อสมศักดิ์ในตำแหน่ง มท.1 มากนัก มีแต่ข่าวลือทำนองว่า หากอนุทินมาเป็น รมว.สาธารณสุข สมศักดิ์อาจไปเป็น รมว.ดีอีเอส ควบรองนายกฯ แทนประเสริฐ ที่ไปเป็น มท.1 หรือไม่ก็เป็นรองนายกฯ ตำแหน่งเดียว หรือรองนายกฯ ควบ รมว.การท่องเที่ยวฯ ที่สมศักดิ์เคยเป็นมาแล้ว แทนสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวฯ ที่อาจโดนปรับออก เพราะผลงานไม่เข้าตาทักษิณ
นี่ขนาดยังไม่ชัด จะปรับ ครม.ช่วงใดกันแน่ ก็เริ่มฝุ่นตลบในเพื่อไทยและรัฐบาล ซึ่งหากชัดว่าปรับแน่ รับรองทั้งรัฐมนตรีที่อยากอยู่ต่อ และพวกที่อยากเข้ามาเป็นรัฐมนตรีบ้างในเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลแต่ละพรรค คงวิ่งกันขาขวิด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ
เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569
'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'
ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ
แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ
วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน
รัฐบาลอ่อนหัด โครงสร้างล้าหลัง ฉุดเชื่อมั่น'อนุทิน-ภท.'จมดิ่งกับน้ำท่วม
วิกฤตมหาอุทกภัยถล่ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ สร้างความหายนะราวกับคลื่นสึนามิ ซากปรักหักพังของเมืองเสมือนวันสิ้นโลก
ปี69เดือด!เลือกตั้งทุกระดับ 'กกต.-ประชาชน'ตัดสินอนาคต
ปี 2569 กลายเป็นปีที่ท้าทายที่สุดสำหรับประชาธิปไตยไทย ด้วยการเลือกตั้งหลายระดับที่กระชั้นชิดกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่คาดว่าจะพ่วงด้วยการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบันทึกความเข้าใจ (MOU)


