ชำแหละงบ69รายหน่วยงาน ไม้แข็งพท.บัญชีดำไม่ส่งลงเลือกตั้ง

ฝ่ายวิปรัฐบาลและแกนนำรัฐบาลเพื่อไทยออกมาแสดงความมั่นใจว่า การพิจารณาและให้ความเห็นชอบ

ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วาระ 2 และวาระ 3

ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาฯ ตลอด 3 วันของสัปดาห์นี้คือ 13-15 ส.ค. ทุกอย่างจะผ่านฉลุย ร่าง พ.ร.บ.งบ 69 ที่พิจารณาโดย กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบ ที่มี พิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.การคลัง เป็นประธาน จะผ่านสภาฯ แน่นอนในการโหวตเห็นชอบวาระ 3 วันศุกร์นี้ 15 ส.ค. จากนั้นก็จะส่งไปให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป 

ประเมินจากหน้างานการเมือง ตั้งแต่ภูมิใจไทยถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล วิปรัฐบาล ต้องรับมือกับปัญหา "เสียงปริ่มน้ำ" ในสภาฯ แต่ก็ยังแก้ปัญหาไม่ตก จนทำให้ประธานสภาฯ-รองประธานสภาฯ ต้องใช้วิธี "ชิงปิดประชุมสภาฯ" ไปหลายครั้งติดต่อกันในช่วงที่ผ่านมา หลังดูแล้ว ลากต่อไม่ไหว องค์ประชุมมีปัญหา

ทว่าสำหรับการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบ 69 ที่เป็นกฎหมายสำคัญของรัฐบาล แม้จะเป็นเรื่องของสภาฯ ไปแล้ว แต่ก็เป็นกฎหมายสำคัญที่สุดของฝ่ายบริหาร ดังนั้นทำให้รัฐบาล-วิปรัฐบาล ต้องเตรียมการล่วงหน้า รับมือเรื่องเสียง สส.ในห้องประชุมสภาฯ ไม่ให้เกิดปัญหา ทั้งตอนโหวตวาระ 2 เรียงรายมาตรา ที่ก่อนจะโหวตว่าที่ประชุมเห็นชอบกับ กมธ.เสียงข้างมาก ในการพิจารณางบแต่ละหน่วยงานเรียงรายมาตราหรือไม่ ประธานที่ประชุมจะต้องนับองค์ประชุมเสียก่อน ทำให้วิปรัฐบาลต้องกำชับ สส.และรัฐมนตรีที่เป็น สส.ให้สแตนบายด์เตรียมพร้อมตลอดเวลา ที่ก็คงน่าจะไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่วิปรัฐบาลต้องทำงานหนักพอควร

 อย่างไรก็ตาม คาดว่าฝ่ายค้านเองก็พร้อมจะเป็นองค์ประชุมให้ ถ้าไม่มีสัญญาณแตกหักกันจริงๆ เพราะฝ่ายค้านที่เป็น กมธ.งบเสียงข้างน้อย และ สส.ฝ่ายค้านที่ไม่ได้เป็น กมธ.งบ แต่ได้ยื่นคำสงวนคำแปรญัตติไว้ในงบแต่ละหน่วยงาน ก็ต้องการลุกขึ้นอภิปรายเหตุผลในการขอตัดงบ-ปรับลดงบประมาณแต่ละหน่วยงานที่สงวนความเห็น-ยื่นสงวนคำแปรญัตติไว้

จุดนี้ทำให้ฝ่ายค้านก็ย่อมต้องการให้การประชุมสภาฯ เดินหน้าไปได้ จะได้ลุกขึ้นอภิปรายแสดงข้อมูล-เหตุผลที่เตรียมไว้ เพราะหากการประชุมสะดุด การเตรียมการต่างๆ ก็จะสะดุดไปเช่นกัน

ส่วนการโหวตวาระ 3 ที่จะเกิดขึ้นในช่วงค่ำวันศุกร์ที่ 15 ส.ค. ก็เป็นคิวที่รู้ล่วงหน้ากันอยู่แล้วเป็นสัปดาห์ ตรงนี้ สส.รัฐบาล-รัฐมนตรีที่เป็น สส.ต้องเคลียร์งานวันดังกล่าว ทั้งหมด ต้องสแตนบายด์ที่รัฐสภาเพื่อรอโหวตวาระ 3

ทำให้ก็คาดว่า การโหวตวาระ 3 ก็น่าจะผ่านไปได้ ถ้าไม่มีอะไรพลิกผัน ซึ่งจับสัญญาณการเมืองตอนนี้ ยังไม่มีอะไรบอกเหตุ   

เพราะข่าวว่าแต่ละพรรคร่วมรัฐบาล แกนนำพรรค ก็มีการสั่งกำชับ สส.ให้เข้าประจำการที่รัฐสภาตลอดทั้ง 3 วัน ห้ามมูฟไปไหนทั้งสิ้น

ถึงขั้นมีกระแสข่าวร่ำลือกันว่า บางพรรคเช่น เพื่อไทย หลังเจอปัญหาเรื่องเสียง สส.ในสภาฯ หายไปบ่อย แม้วิปรัฐบาลจะมีการขู่กันไว้หลายรอบ เช่น จะเอาชื่อ สส.ที่หายไป ไม่เข้าประชุมสภาฯ โดยไม่แจ้งลาล่วงหน้า จนทำให้องค์ประชุมมีปัญหา จะนำรายชื่อมาประจาน เอามาแจกสื่อ เพื่อให้อับอายว่าเป็น สส.กินเงินเดือนภาษีประชาชนเดือนละแสนกว่าบาท ไม่รวมสวัสดิการอื่นๆ และขนาดมีข้าว-น้ำ-กาแฟสดให้กินฟรีที่รัฐสภา อย่างน้อยวันละ 2 มื้อแบบจัดเต็ม กินได้ไม่อั้น ก็ยังไม่ยอมเข้าประชุมสภาฯ แต่ปรากฏว่าไม้แข็งดังกล่าวดูเหมือนไม่ได้ผล เพราะยังเจอปัญหาเดิมๆ สส.รัฐบาลหายหัว องค์ประชุมมีปัญหา

 จนลือกันว่า แกนนำเพื่อไทยบางส่วนเลยจะเสนอให้มีการ ขึ้นบัญชีดำ-BlackList พวก สส.เพื่อไทยที่หายศีรษะบ่อยๆ โดยไม่มีเหตุจำเป็น และชี้แจงไม่ขึ้น จะมีการลงชื่อไว้ในบัญชีดำ ให้พรรคเตรียมพิจารณาจะไม่ส่งลงเลือกตั้ง สส.ในการเลือกตั้งสมัยหน้าที่จะมีขึ้น ไม้แข็งนี้น่าจะทำให้พวก สส.ขยันเข้าประชุมสภาฯ มากขึ้น เพราะ สส.เพื่อไทยหลายคนก็รู้ตัวดีว่า ตัวเองอายุเยอะ ทำให้พรรคเพื่อไทยอาจปลดระวางเพื่อดันคนอื่นที่ใหม่-สดกว่าลงเลือกตั้งแทน เพราะก็มีให้เห็นมาแล้วหลายคน หรือบางคนชนะเลือกตั้งมาได้แบบเฉียดฉิว เกือบสอบตก คะแนนไม่ดี พรรคก็เตรียมเปลี่ยนตัวอยู่ โดยทางพรรคเพื่อไทยก็อาจหาเหตุผลต่างๆ มาอ้างในการเปลี่ยนตัวไม่ส่งลงเลือกตั้งรอบหน้าก็ได้ เช่น พรรคทำโพลในจังหวัด-ในเขตเลือกตั้งดูแล้ว พบว่าคะแนนไม่ดี มีโอกาสสอบตกสูง และผลโพลปรากฏว่าประชาชนอยากให้พรรคส่งคนใหม่ ที่สดใหม่มากกว่าลงสมัครในนามพรรค หากพรรคไม่เปลี่ยนตัว ก็จะไปเลือกผู้สมัครพรรคการเมืองอื่น

แค่นี้เพื่อไทยก็หาเหตุผลในการไม่ส่งลงเลือกตั้งรอบหน้าได้แล้ว ยิ่งหากพรรคมีข้อมูลมายันได้อีกว่า ช่วงที่ผ่านมาพบว่ามีปัญหาไม่ค่อยเข้าประชุมสภาฯ หรือเข้าประชุม แต่กลับบ้านเร็ว กลับก่อน ไม่อยู่ร่วมประชุมสภาฯ ตอนโหวตนัดสำคัญๆ ทำให้ตอนโหวตนับองค์ประชุมมีปัญหาเสียงปริ่มน้ำ เจอเข้าไปแบบนี้ก็จบข่าว เถียงไม่ขึ้น

ต้องรอดูว่ากระแสข่าว จะใช้เรื่อง สส.เพื่อไทยคนไหนไม่ค่อยเข้าประชุมสภาฯ หรือเข้า แต่ไม่อยู่ประชุมจนเลิก มาเป็นข้อมูลประกอบในการส่งลงเลือกตั้งสมัยหน้า จะทำให้ สส.เพื่อไทยกลัวจนขยันเข้าประชุมสภาฯ และอยู่ประชุมจนสภาฯ เลิกประชุม มากขึ้นหรือไม่ หลังวิปรัฐบาลทั้งขอร้อง-ทั้งขู่ประจานชื่อ ก็ไม่ได้ผล แต่หากเจอไม้นี้เข้าไป สส.เพื่อไทยอาจกลัวตามประสานักเลือกตั้ง ทำให้การประชุมสภาฯ ตลอด 3 วันนี้ สส.เพื่อไทยจึงมาครบ อยู่จนปิดงานแน่

ส่วนการประชุมสภาฯ ตลอด 3 วันนี้ 13-15 ส.ค. แม้จะเป็นการพิจารณารายมาตรา เรียงตามหน่วยงานภาครัฐ ที่จะอภิปรายแบบลงลึกรายละเอียดในเชิงตัวเลข แต่คาดว่าการอภิปรายงบหลายหน่วยงาน น่าจะมีความเข้มข้นพอประมาณ

โดยเฉพาะหากมีการอภิปรายโยงเข้ากับสถานการณ์การเมือง เช่น การอภิปรายงบของ ก.กลาโหม-ก.การต่างประเทศ-สภาความมั่นคงแห่งชาติ-ก.มหาดไทย แล้วโยงเข้ากับสถานการณ์การสู้รบไทย-กัมพูชา เช่น งบจัดซื้ออาวุธ ของแต่ละเหล่าทัพ หรืออภิปรายบทบาทของ ก.การต่างประเทศว่าทำงานแบบตั้งรับ ชี้แจงข้อมูลของประเทศไทยต่อนานาชาติล่าช้าไม่ทันการณ์ ในการต่อสู้เรื่องข้อมูลข่าวสารกับกัมพูชา เป็นต้น

ทำให้การอภิปรายงบบางหน่วยงานอาจมีความเข้มข้นระดับหนึ่ง โดยเฉพาะงบที่ฝ่ายค้าน พรรคประชาชน ทำข้อมูลไว้ เช่น งบก่อสร้างตึก-อาคารราชการ ของหลายหน่วยงานที่ตั้งงบไว้สูงเกินความจำเป็น รวมถึงงบ ก.แรงงาน, กลาโหม, งบ กอ.รมน., งบแก้ปัญหาภาคใต้ ก็คาดว่า สส.พรรคประชาชนคงลุกขึ้นชำแหละพอหอมปากหอมคอ เป็นต้น

อันน่าจะทำให้การอภิปรายตลอด 3 วัน แม้ไม่ถึงกับซัดกันเดือดกลางสภาฯ ระหว่าง กมธ.เสียงข้างมาก กับ กมธ.เสียงข้างน้อย และพวก สส.ฝ่ายค้านที่ยื่นสงวนคำแปรญัตติ แต่ก็อาจมีฉากเชือดเฉือน สู้กันด้วยข้อมูล-ตัวเลข ให้เห็น พอได้ร้องซี้ดซ้าด.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ

เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569

'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'

ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย

พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ

แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ

วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน

รัฐบาลอ่อนหัด โครงสร้างล้าหลัง ฉุดเชื่อมั่น'อนุทิน-ภท.'จมดิ่งกับน้ำท่วม

วิกฤตมหาอุทกภัยถล่ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ สร้างความหายนะราวกับคลื่นสึนามิ ซากปรักหักพังของเมืองเสมือนวันสิ้นโลก

ปี69เดือด!เลือกตั้งทุกระดับ 'กกต.-ประชาชน'ตัดสินอนาคต

ปี 2569 กลายเป็นปีที่ท้าทายที่สุดสำหรับประชาธิปไตยไทย ด้วยการเลือกตั้งหลายระดับที่กระชั้นชิดกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่คาดว่าจะพ่วงด้วยการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบันทึกความเข้าใจ (MOU)