สูญสิ้นความเชื่อมั่นในผู้แทนฯ ‘ส้ม’ท้าชิง‘แดง’ป้องพื้นที่‘เชียงราย’

การเลือกตั้งซ่อมเชียงราย เขต 7 ที่จะเกิดขึ้น ในวันที่ 14 ก.ย.2568 เพื่อแทนที่ตำแหน่งที่ว่างลงของ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน อดีต สส.เชียงราย และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 หัวหอกคนสำคัญของโควตา สส.ภาคเหนือเพื่อไทย

ถือเป็นหนึ่งในศึกแห่งศักดิ์ศรี ระหว่าง 'พรรคเพื่อไทย' และ 'พรรคประชาชน' ที่จะวัดคะแนนความนิยม หลังสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นที่แตกต่างกัน จนถึงขั้นที่โพลล่าสุดก็ยิ่งชี้ชัดว่า 'ประชาชนไม่เชื่อมั่นพรรคการเมือง' อีกต่อไปแล้ว

ว่ากันตามตรงแล้ว ในสนามเลือกตั้งซ่อมเชียงรายนี้ พรรคเพื่อไทยดูจะมีความพร้อมที่สุด ด้วยการเปิดตัว 'นายสง่า พรมเมือง' เป็นผู้สมัครก่อนใคร เสมือนได้เตรียมการและวางตัวมานานแล้ว ในขณะเดียวกันก็มีปมขัดแย้งของ 'คนกันเอง' ในพรรคเพื่อไทยซ่อนอยู่ลึกๆ ซึ่งสืบเนื่องมาตั้งแต่ศึกเลือกตั้งนายก อบจ.เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา

เป็นที่รู้กันว่า นายสง่านั้นเป็นเด็กปั้นในสังกัดของ 'บ้านใหญ่แม่จัน' ที่หัวเรือใหญ่อย่าง นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ส่งคนสนิทเข้าประสานงานกับ 'นายใหญ่' แห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า จนได้ไฟเขียวอนุมัติให้จับมือนายสง่าเปิดตัวชิงเก้าอี้ สส.แซงหน้าตระกูลเก่าแก่คนอื่นๆ ในเชียงราย ขนาดที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยังมาช่วยปราศรัยหาเสียงอย่างเอิกเกริก

ย้อนไปเมื่อการเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงราย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่สนับสนุนผู้สมัครนายก อบจ.เชียงราย 'สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช' ภรรยาของนายยงยุทธถึง 2 ครั้ง ทว่ากลับพ่ายแพ้ให้คู่แข่ง ทำให้นายทักษิณถึงขั้น 'โกรธควันออกหู' และตำหนิ 'สส.เชียงราย' ที่เกียร์ว่าง ทำคะแนนในพื้นที่ไม่เข้าเป้า ว่ากันว่าหนึ่งในนั้นก็มี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน เจ้าของพื้นที่เขต 7 ที่โดนเรียกมาสวดชุดใหญ่ด้วย

เป็นเหตุให้ในการเลือกตั้งซ่อม สส.หนนี้ ‘บ้านใหญ่แม่จัน’ อาจถือเป็นโอกาสกู้หน้า ล้างตาจากศึกนายก อบจ. พิสูจน์ผลงานให้นายใหญ่ได้ประจักษ์ ซึ่งหากผลการเลือกตั้งเป็นใจ ชื่อของนายพิเชษฐ์ก็เสี่ยงจะหายต๋อมไปยาวๆ ก็เป็นได้ ขึ้นอยู่กับว่า นายสง่าจากซุ้มแม่จันจะเอาชนะใจชาวเชียงรายเขต 7 ได้หรือไม่

ขณะที่พรรคประชาชนส่ง 'นายสุทัศน์ ยาละ' อดีตที่ปรึกษานายกเทศมนตรีตำบลหล่ายงาว ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร เจ้าของร้านคราฟต์เบียร์ และโรงแรมในจังหวัดเชียงราย 

นายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรคประชาชน เปิดเผยว่า ผู้สมัครคนนี้อยู่กับเรามานาน ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ เคยลงสมัครเลือกตั้ง สจ.ในนามคณะก้าวหน้า มีการทำงานร่วมกับพรรคมาอย่างต่อเนื่อง ในการเลือกตั้งรอบนี้ พรรคจึงมองเห็นว่า ในจังหวะเร่งด่วนที่จะต้องตัดสินใจ จึงเลือกคนที่ไว้วางใจที่สุด และเชื่อมั่นว่านายสุทัศน์จะเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชน ที่ประชาชนมอบความไว้วางใจได้ 

เนื่องจากที่ผ่านมา นายสุทัศน์ก็พิสูจน์ตัวเองแล้ว การทำงานในฐานะอาสาสมัครมาโดยตลอดในพื้นที่ ทั้งน้ำท่วม อาสางานกู้ภัย ประชาชนชาวเชียงรายจึงมั่นใจได้ "ฝากประชาชนว่า จะเพิ่มหนึ่งเสียงให้กับรัฐบาล ที่อาจไม่ได้มีนัยอะไร หรือเพิ่มหนึ่งเสียงให้กับฝ่ายค้าน ที่จะตรวจสอบปกป้องผลประโยชน์ให้ประชาชนอย่างเข้มข้น" นายศรายุทธิ์กล่าวย้ำ

หลังจากที่เดิมทีจะต้องมีอีกหนึ่งผู้เข้าแข่งขันจากพรรคพลังประชารัฐ นางสาวมิรันตี บัวแก้ว ที่เคยลงสมัครในรอบก่อน และได้คะแนนมาเป็นลำดับที่ 3 แต่ปรากฏว่า หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ปิดรับสมัครเลือกตั้งซ่อมไป เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา กลับมีเพียงผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน 2 คนเท่านั้น 

หากย้อนกลับไป ในการเลือกตั้งปี 66 ผลคะแนนในเขตนี้ อันดับ 1 คือ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน พรรคเพื่อไทย ได้ 31,588 คะแนน อันดับ 2 นายประหยัด เสียงดัง จากพรรคก้าวไกล 25,889 คะแนน และอันดับที่ 3 สุดท้าย นางสาวมิรันตี บุญแก้ว 18,153 คะแนน 

การเลือกตั้งซ่อมหนนี้ค่อนข้างคาดเดายาก เพราะแต่ละฝ่ายต่างเปลี่ยนผู้เล่นไม่ซ้ำกับการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่แน่นอน ผนวกด้วยวิกฤตศรัทธาที่สะท้อนผ่านผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เก้าอี้ สส.ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ภาคเหนือ แม้เพียงที่นั่งเดียว ก็บ่งบอกคะแนนนิยมของพรรค ตลอดจนความพร้อมสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ได้ ยิ่งเป็นการประชันกัน 2 ต่อ 2 ด้วยแล้วยิ่งดุเดือด

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าพรรคเพื่อไทยหรือพรรคประชาชนเอง ต่างก็มีบาดแผลที่กระทบต่อคะแนนนิยม เพราะสาเหตุที่ต้องมีการเลือกตั้งซ่อม ก็เพราะ นายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม. พรรคประชาชน เองที่ยื่นถอดถอนนายพิเชษฐ์ด้วยความผิดในมาตรา 144 จนพ้นจากสมาชิกภาพ ไม่แน่ว่าอาจทำให้เกิดภาพลักษณ์ในทางลบต่อฐานเสียงเดิมในพื้นที่จังหวัดเชียงรายหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ จะเป็นประเด็นให้คู่แข่งอย่างเพื่อไทยหยิบยกมาโจมตีได้

แต่การรักษาแชมป์ของพรรคเพื่อไทยนั้น จำเป็นต้องมีแกนนำคนสำคัญมาช่วยหาเสียง และสร้างความมั่นใจให้กับโหวตเตอร์เดิมว่า ความผิดของ สส.ในเรื่องการผันงบประมาณลงสู่พื้นที่อย่างไม่ถูกต้องนั้น เป็นความผิดเฉพาะบุคคล และไม่ได้เป็นมลทินมัวหมองมาถึงพรรคเพื่อไทย ซึ่งบุคคลที่จะสร้างน้ำหนักในคำพูดระดับนั้นได้ คงหนีไม่พ้นนายทักษิณ ซึ่งหากเป็นเวลาปกติคงไปเยือนเชียงรายในฐานะผู้ช่วยหาเสียงแล้ว

ทว่าด้วยนิติสงครามที่กำลังรุมเร้ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยอย่างหนักตลอดเดือนสิงหาคมนี้ ทั้งคดีของนายทักษิณเอง ซึ่งศาลอาญาฯ จะนัดฟังคำพิพากษาในคดี ม.112 ในวันที่ 22 ส.ค. ตลอดจนคดีชั้น 14 ที่ศาลฎีกานัดฟังคำสั่งบังคับคดี ไหนจะคดีในศาลรัฐธรรมนูญของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลูกสาวคนเล็ก ซึ่งยังน่าเป็นห่วง อาจทำให้นายทักษิณไม่สามารถโลดแล่นได้อย่างเสรีนัก 

จากปัจจัยทั้งหมดจึงต้องลุ้นว่า จะมีเหตุพลิกผันใดๆ ที่สร้างแรงสะเทือนจนส่งผลต่อการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขต 7 ก่อนวันที่ 14 ..ที่จะถึงนี้หรือไม่.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ

'ทักษิณ' ร่วมเวที 'เสก โลโซ' ร้องเพลงใจสั่งมา ในเรือนจำกลางคลองเปรม

"ทักษิณ" ขึ้นเวทีเรือนจำฯ ควงไมโครโฟนร้องเพลง "ใจสั่งมา" บรรยากาศอบอุ่นมวลความสุข เพื่อนผู้ต้องขังกว่า 1,000 คน ต่างลุกโชว์สเต็ปแด๊นซ์

เพจดังงัดภาพใหม่กว่า ตบหน้าแฟนคลับพรรคแดง ขว้างงูไม่พ้นคอ ทักษิณก็รู้จัก 'เบน สมิธ'

จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หลังปรากฏภาพนายเบน สมิธ ถ่ายร่วมเฟรมกับบุคคลระดับสูงในแวดวงการเมืองไทย ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ

เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569

'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'

ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย