มนต์ขลัง “ชินวัตร” เสื่อม “แพทองธาร” ยอมถอย สู้ศึกเลือกตั้ง

ท่ามกลางความร้อนแรงในทางการเมืองไทย เหล่าพรรคการเมืองต่างต้องเตรียมการเพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งใหญ่ในอีก 4 เดือนข้างหน้า ทั้งวางกลยุทธ์ วางสรรพกำลังสู้ศึกเลือกตั้ง

หลายพรรคการเมืองเดินหน้าอย่างเต็มที่ “พรรคเพื่อไทย” ก็เช่นกัน ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้เปิดอีเวนต์ใหญ่ “ยกเครื่องเพื่อไทย ยกเครื่องประเทศไทย” มีหัวหน้าพรรคอย่าง “มาดามแพ” แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปลุกใจ แถมมีการเปิดตัวผู้สมัคร สส.ล็อตใหญ่กว่า 200 คน

แถมงานนี้มีประกาศตั้ง “เดอะซัน” สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งของพรรค หนึ่งในบุคคลที่โดนกล่าวขานว่า หากเลือกตั้งครั้งไหน ให้ดูที่ “สุริยะ” เพราะมักจะอยู่กับพรรครัฐบาล แถมเมื่อช่วงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา หลายฝ่ายก็จ้อง “เดอะซัน” อย่างไม่กะพริบตาว่าจะอยู่กับพรรคไหน

แต่เมื่อเจ้าตัวได้ยืนยันหลายรอบว่า อย่างไรก็จะอยู่กับ “พรรคเพื่อไทย” ก็ทำให้มั่นใจได้ว่า “เดอะซัน” รอบนี้อาจจะอยู่ยาว แถมยังมีตำแหน่งผู้อำนวยการการเลือกตั้งพ่วงท้ายอีก แต่ที่เป็นประเด็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ที่สุดคือ การประกาศตั้งเป้าวาด 200 ที่นั่ง 

ส่วนเหตุการณ์เลือดไหลออกของ “พรรคเพื่อไทย” ที่เรียกได้ว่าสั่นสะเทือนไปทั้งพรรค คือการลาออกของ “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย คนเก่าคนแก่ที่อยู่กับพรรคมายาวนาน โดยสาเหตุที่ “สมพงษ์” อ้างถึงคือ “การบริหารจัดการภายในที่สะสมมาตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งปี 2566 และเชื่อ​ว่า สส.ส่วนใหญ่​ก็อึดอัดกับสถานการณ์ในพรรคในการจัดลำดับความสำคัญที่มีปัญหาค่อนข้างมาก แต่ผู้บริหารพรรคมองไม่เห็น ทั้งที่การเลือกตั้งทั้งในระดับ สส. หรือท้องถิ่น ก็ฟ้องอยู่ว่า พรรคเพื่อไทยอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือตอนบนที่ตนมีส่วนในการบริหารจัดการมาโดยตลอด ก่อนจะถูกลดบทบาท กระทั่งไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้เลย”

เรื่องดังกล่าว ทำให้ สส.คิดหนักถึงสถานการณ์ภายในพรรค ลามไปถึงผู้ใหญ่ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า การลาออกของ “สมพงษ์” สร้างแรงคลื่นอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโซนภาคเหนือ

สุดท้ายแล้วช่วงค่ำของวันที่ 21 ต.ค. มีข่าวว่า “แพทองธาร” จะลาออกจากหัวหน้าพรรค เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และ สส.ด่วน ในเช้าวันต่อมา “แพทองธาร” เข้าพรรค พร้อมแถลงการณ์ลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจริง

ส่วนสาเหตุที่ “อิ๊งค์” อ้างถึงคือ “จำเป็นต้องยกเครื่อง พลิกโฉม เปลี่ยนโครงสร้าง กระบวนการ และวิธีคิดใหม่ทั้งหมด เพื่อให้พรรคสามารถชนะเลือกตั้ง แล้วไปยกเครื่อง พลิกฟื้นประเทศไทยต่อไป เชื่อมั่นว่า การเปลี่ยนแปลงพรรคเพื่อไทยต้องเริ่มต้นโดยเร็วที่สุด ดิฉันจึงเลือกการลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคยกเครื่องได้อย่างอิสระ และสร้างพรรคใหม่ที่สมบูรณ์แบบ”

ทำให้เรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญ ให้ “แพทองธาร” พ้นจากตำแหน่ง กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง หลังจากเรื่องผ่านมาร่วมเดือนแล้ว ถึงแม้ระเบียบของพรรคไม่ได้กำหนดว่า “อิ๊งค์” จะต้องลาออก แต่เพื่อความสบายใจในการเลือกตั้งครั้งใหญ่ที่จะถึง ทำให้ “อิ๊งค์” ต้องลาออกจากหัวหน้าพรรค เพื่อสรรหาบุคคลใหม่ นี่ก็อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่ง

จะเห็นได้ว่าในการประกาศอีเวนต์ใหญ่ วันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา “แพทองธาร” มั่นใจ เหมือนจะนำทัพต่อ แต่ยูเทิร์นเลี้ยวกลับเสียได้ มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างมาว่า ผู้ใหญ่ในพรรคมองว่าสถานการณ์ภายในจะตกที่นั่งลำบาก เพราะเลือกตั้งซ่อมที่ศรีสะเกษและกาญจนบุรี แพ้ทั้ง 2 ที่ติด กลัวว่าจะเกิดเป็นโดมิโน เกรงว่าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ก็จะสู้ไม่ได้

จึงจำเป็นต้องชูคนที่ไม่ใช่ “ตระกูลชินวัตร” มาเป็นหัวหน้าพรรคใหม่ เผื่อจะดีขึ้น จึงทำให้ “ชินวัตร” ต้องถอยหลังออกมาตั้งหลักใหม่ เพื่อแลกกับโฉมใหม่ของ “เพื่อไทย

ส่วนที่หลายฝ่ายมองว่าการเปลี่ยนหัวหน้าพรรคครั้งนี้จะลบภาพ “ตระกูลชินวัตร” ออกจาก “พรรคเพื่อไทย” ได้หรือไม่นั้น เรื่องนี้แน่นอนว่า ไม่ได้ แต่จะดีกว่าถ้าลองออกมาจากกรอบเดิมๆ เผื่อจะมีอะไรดีขึ้น

ก็สอดคล้องกับสิ่งที่ “สุริยะ” พูดอย่างมีนัยว่า “เราคงปฏิเสธตระกูลชินวัตรไม่ได้ เพราะสร้างคุณูปการให้กับพรรคเพื่อไทย แต่อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง จากนี้ไปทางพรรคจะหาบุคคลที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับครอบครัวชินวัตร ซึ่งเป็นคนภายในพรรค แต่ไม่ได้อยู่ในตระกูลชินวัตร เข้ามาทำหน้าที่หัวหน้าพรรค”

ต้องรอดูว่าหัวหน้าพรรคคนใหม่ ที่ไม่ใช่ตระกูลชินวัตร จะเป็นใครที่มากอบกู้ภาพลักษณ์ให้กลับมาดูดีได้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'สุริยะ' รับ 'สุวัจน์' หอบลูกพรรคร่วมทัพเพื่อไทย แต่ไม่เอา 'แจ้'

'สุริยะ' รับ 'สุวัจน์' นำลูกพรรคร่วมทัพเพื่อไทย เสริมแกร่งโคราช 3 เขต เผยกำลังวางยุทธการให้ 'ยศชนัน' ลงปาร์ตี้ลิสต์หรือไม่

แนวรบสุดท้ายสู้สแกมเมอร์ ปัจจัยที่ต้องปิดจ๊อบชายแดน

แม้สถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดน "ไทย-กัมพูชา" ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนอีสานใต้ ฝ่ายไทยจะสามารถยึดเป้าหมายในหลายพื้นที่ และ มีแนวโน้มที่ดีใน 13 แนวรบ แต่ก็ยังประมาทไม่ได้ เพราะดูเหมือนว่า "กัมพูชา"

ได้ทุกขั้ว-เสบียงกรัง-อำนาจ เมินกระแส สส.แห่ซบ‘กล้าธรรม’

นอกจาก ‘พรรคภูมิใจไทย’ ที่มี ‘แม่เหล็ก’ ดึงดูดอดีต สส.และนักการเมือง ในการเลือกตั้งครั้งนี้แล้ว ‘พรรคกล้าธรรม’ อาณาจักรของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะที่ปรึกษาพรรค เป็นอีกค่ายหนึ่งที่มีผู้คนพาเหรดเข้ามาเป็นองคาพยพ

โจทย์หิน3แคนดิเดตนายกฯพท. ลูกเจ๊แดงโปรไฟล์ดีแต่มีข้อกังขา!

หลังพรรคเพื่อไทยเปิดตัว ศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ อดีตรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ลูกชายเจ๊แดง-เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวทักษิณ ชินวัตร และสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หมายเลข 1 อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา

เพื่อไทย ชูเครือญาติ 'ชินวัตร' นั่งแคนดิเดตนายกฯ อันดับ 1

"เพื่อไทย ชู "ยศชนัน" นั่งแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 ชี้ไม่เป็นปัญหาถูกมองหนีไม่พ้นตระกูลชินวัตร ลั่นเป็นโอกาส-จุดเด่น รับเป็นหน้าใหม่การเมือง เชื่อเวลา 2 เดือน ชนะใจปชช.ได้ พร้อมยัน ไม่ถูกครอบงำจาก “เยาวภา” ด้าน “สุริยะ” ยังมั่นใจ ถึงเป้า 200 ที่นั่ง ขณะที่ “จุลพันธ์” ประกาศพร้อมฝ่าด่านอำนาจรัฐ กระสุน กระแสชาตินิยม สู่ชัยชนะด้วยนโยบาย

พรรค‘ปชน.’ขอโทษจากใจ วอน‘ประชาชน’ไปต่อด้วยกัน

ภาพที่หัวหน้าพรรคสีส้มทุกยุคสมัยมาปรากฏตัวพร้อมหน้าบนเวทีเดียวกันไม่ได้เกิดขึ้นให้เห็นบ่อยนัก เอาเข้าจริงอาจจะยิ่งกว่าเวทีปราศรัยใหญ่ก่อนเลือกตั้งทุกครั้งด้วยซ้ำ เพราะในกิจกรรม