
แม้ขณะนี้ปัญหาการเมืองในพื้นที่ ชลบุรี ของ สองขั้วอำนาจการเมือง ในชลบุรี ระหว่างขั้วอำนาจเก่าที่เรียกกันว่า กลุ่มบ้านใหญ่ตระกูลคุณปลื้ม ของสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กับ กลุ่มอำนาจใหม่ สายเสี่ยเฮ้ง สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงานและ ส.ส.ชลบุรี ที่ขัดแย้งกันหนัก ชนิด ไม่เผาผี-ทางใครทางมัน จะสงบลงชั่วคราว หลังแกนนำพรรคพลังประชารัฐเอ่ยปากจะเข้ามาไกล่เกลี่ยความขัดแย้งดังกล่าว
แต่ดูจากหน้างานทางการเมือง ยังไงมันก็ยากแล้วที่จะประสานรอยร้าว ศึกเมืองชล ครั้งนี้ได้ เพราะการฟาดปาก ห้ำหั่นกันรุนแรงผ่านหน้าสื่อและโซเชียลมีเดียของสองฝ่าย ที่เคยอยู่ ซุ้มบ้านใหญ่เมืองชล กำนันเป๊าะ-สมชาย คุณปลื้ม มาด้วยกันในอดีต แต่มาวันนี้ ถึงขั้นเอ่ยเรื่องทำนอง "ทวงบุญคุณ-คนทรยศหักหลัง-แม่ทัพอัลไซเมอร์-เรื่องสุนัขที่จำเป็นออกไปอยู่บ้านหลังใหม่ของตัวเอง"
ของแบบนี้ ว่ากันตามประสา ลูกผู้ชายการเมือง ยังไง มันก็ยากแล้วที่เสือสองตัวอย่างสนธยาและสุชาติ จะอยู่ถ้้ำเดียวกันได้ ขณะนี้ก็เหลือแค่รอวันแยกย้ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น
และในความเป็นจริง ที่ผ่านมาคนในพลังประชารัฐและคนในพื้นที่ชลบุรีก็รู้มานานแล้วว่า กลุ่มคุณปลื้ม จะย้ายออกจากพลังประชารัฐแน่นอนแล้ว เพราะคนในพลังประชารัฐก็รู้ข่าวจาก อดีตคนพลังประชารัฐที่ไปร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทยกับ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มาสักระยะแล้วว่า สนธยามีการเปิดดีลย้ายไปร่วมงานกับ ดร.สมคิด และอุตตม สาวนายน และสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ที่พรรคสร้างอนาคตไทยนานแล้ว รวมถึงมีการมองกันว่า หากสุดท้ายถ้ากลุ่มคุณปลื้มประเมินว่า ถึงตอนเลือกตั้งถ้าพรรคสร้างอนาคตไทยไม่น่าจะเติบโตได้ ยังไงกลุ่มคุณปลื้มก็ย้ายออกจากพรรคพลังประชารัฐแน่นอน แต่จะไปทางไหน พรรคใด คาดว่ากลุ่มคุณปลื้มก็มีทางเลือกมองไว้อยู่หลายทาง ทั้งกลับเข้าชาติไทยพัฒนาเดิม หรือจะกลับไปปัดฝุ่น พรรคพลังชล เพื่อทำการเมืองแบบพรรคการเมืองขนาดเล็ก ทำการเมืองในพื้นที่โซนตะวันออกให้ได้ ส.ส.สัก 6-8 ที่นั่ง แล้วรอร่วมรัฐบาลแบบที่เคยมาแล้วตอนเลือกตั้งปี 2554 ที่ตอนนั้นก็ได้โควตา รมว.วัฒนธรรม มาหนึ่งเก้าอี้เหมือนตอนพลังประชารัฐแบบนี้
ทั้งหมดคือทางที่เลือกเดินแล้วของ กลุ่มคุณปลื้ม ที่ตอนนี้มีฐานการเมืองหลักคือ สนธยา ที่เป็นนายเมืองพัทยา- วิทยา คุณปลื้ม ที่เป็นนายก อบจ.ชลบุรี-ณรงค์ชัย คุณปลื้ม น้องชายสนธยา ที่เป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข และ อิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม
ที่ถึงตอนนี้คงเลือกที่จะเดินออกจากพรรคพลังประชารัฐ ที่แน่นอนว่าเมื่อกลุ่มของสนธยาออกไปจากพลังประชารัฐแล้ว และในอนาคตสิ่งที่จะได้เห็นก็คือ กลุ่มของสนธยาก็จะต้องมาแข่งกับ "เสี่ยเฮ้ง-สุชาติ" ในพื้นที่ชลบุรี ที่สุชาติ กำลังเร่งสร้างอาณาจักรการเมืองของตัวเองในพื้นที่ชลบุรี ที่เลือกตั้งรอบหน้าจะมี ส.ส.เพิ่มจาก 8 คนเป็น 10 คน รวมถึงมีข่าวว่ากลุ่มเสี่ยเฮ้ง-สุชาติ จะขยายอาณาจักรไปยังพื้นที่จังหวัดอื่นด้วย เช่น เพชรบุรี-ระยอง
จึงทำให้เลือกตั้งรอบหน้าจะได้เห็นการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่าง กลุ่มบ้านใหญ่-คุณปลื้ม กับ กลุ่มเสี่ยเฮ้ง ในพื้นที่เลือกตั้งชลบุรีแน่นอน เพราะยังไงกลุ่มคุณปลื้มคงรอวัน ชำระแค้นทางการเมืองกับสุชาติ แบบนับวันรอเพื่อทวงคืนทั้งต้นและดอก ปิดบัญชีกันไปเลย!
แต่งานหนักทางการเมืองเฉพาะหน้าของ สนธยาและบ้านใหญ่-คุณปลื้ม ที่ต้องเตรียมรับมือต่อจากก็คือ
"การเลือกตั้งนายกเมืองพัทยาและสมาชิกสภาเมืองพัทยา"
ที่มีข่าวว่า กระทรวงมหาดไทยและตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จะมีการประชุมกันวันจันทร์ 21 ก.พ.นี้ เพื่อหารือและกำหนดวันเลือกตั้งในส่วนของ ผู้ว่าฯ กทม.-สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร-นายกเมืองพัทยาและสมาชิกสภาเมืองพัทยา และคาดว่าหากการหารือได้ข้อยุติ ทาง กกต.และมหาดไทยอาจจะเสนอกรอบเวลาการกำหนดวันเลือกตั้งเข้าที่ประชุม ครม.อังคารที่ 1 มีนาคมนี้ เพื่อส่งเรื่องให้ กกต.ประกาศวันเลือกตั้งในองค์กรปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษกรุงเทพมหานครและพัทยาในเดือน พ.ค.ที่จะถึงนี้
ซึ่งสนามเลือกตั้งนายกเมืองพัทยาและสมาชิกสภาเมืองพัทยาที่จะมีการเลือกกัน 24 เก้าอี้ เลือกตั้งรอบนี้ กลุ่มบ้านใหญ่-คุณปลื้ม ต้องเจอทั้งคู่แข่งเดิมและคู่แข่งใหม่ที่เพิ่มขึ้น จึงเป็นงานยากไม่น้อยในการจะรักษาฐานที่มั่นพัทยา-ชลบุรี ที่เป็นฐานการเมืองท้องถิ่นเอาไว้ให้ได้
โดยพบว่าจนถึงตอนนี้ แม้สนธยาจะประกาศความพร้อมของทีมบ้านใหญ่ในการเลือกตั้งนายกเมืองพัทยา แต่ก็พบว่า เขาก็ยังไม่ประกาศชัดเจนว่าจะลงสมัครนายกเมืองพัทยาด้วยหรือไม่ และหากไม่ลง จะส่งใครลง หลังมีข่าวว่าสนธยา อาจจะกลับมาลงการเมืองระดับชาติ ด้วยการจะลงสมัครส.ส.รอบหน้า แต่ที่แน่ๆ คู่แข่งที่เปิดตัวแล้วก็มีเช่น นิรันดร์ วัฒนศาสตร์สาธร อดีตนายกเมืองพัทยา อดีตคนคุ้นเคยที่เคยสังกัดบ้านใหญ่ตระกูลคุณปลื้ม มาก่อน แต่ตอนหลังแยกตัวออกไปและไปร่วมงานการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย และล่าสุดได้เปิดตัวจะลงสมัครนายกเมืองพัทยา ใช้ชื่อ ทีมพัทยาร่วมใจ
แต่ที่หลายคนกำลังจับตามองก็คือผู้สมัครนายกเมืองพัทยาของ คณะก้าวหน้า ที่นำโดยธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ตอนนี้ข่าวว่าได้ตัวแล้ว และธนาธรนำบุคคลดังกล่าวลงพื้นที่พัทยาไปหาเสียงกับประชาชนแล้วเมื่อเร็วๆ นี้ โดยข่าวว่า คณะก้าวหน้าจะเปิดตัวได้ภายในไม่เกินเดือนนี้ ซึ่งพบว่า บุคคลดังกล่าวเป็นนักธุรกิจ คนรุ่นใหม่ในพื้นที่เมืองพัทยาที่คนพัทยารู้จักกันดี อีกทั้งคณะก้าวหน้าก็จะส่งคงลงชิงสมาชิกสภาเมืองพัทยาให้ครบทั้ง 24 คนด้วย บนเป้าหมายที่แกนนำคณะก้าวหน้าประกาศแล้วว่า ต้องล้มบ้านใหญ่ ให้ได้
เรียกได้ว่า บ้านใหญ่-คุณปลื้ม ตอนนี้ต้องสู้ศึกหนักทั้งการเมืองระดับชาติ การเมืองในพลังประชารัฐ และการเมืองท้องถิ่น กับการต้องเอาชนะนายกเมืองพัทยาและชิงที่นั่่งในสภาเมืองพัทยาให้ได้มากที่สุดเพื่อรักษาฐานที่มั่นสำคัญเมืองพัทยาเอาไว้ให้ได้
เพราะถ้าผลเลือกตั้งท้องถิ่นพัทยาออกมา กลุ่มของสนธยาทำไม่ได้ตามเป้า มีหวัง "บ้านใหญ่-คุณปลื้ม" สะเทือนหนัก.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รองนายกฯ สุชาติ เดินหน้ามาตรการเข้ม คุมโรงงานน้ำตาล-โรงไฟฟ้าชีวมวล ลดฝุ่น PM2.5 รับมือหมอกควันปี 2569
นายสุรินทร์ วรกิจธำรง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบนโยบายสำคัญให้หน่วยงานในสังกัดเดินหน้าจัดการมลพิษเชิงรุก เพื่อรับมือสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในปี 2569
“สุชาติ” ประชุมคณะอนุกรรมการประจำภาคตะวันออก เร่งขับเคลื่อนแผนพัฒนาพื้นที่เชิงบูรณาการ ปีงบประมาณ 2570
วันนี้ (4 ธันวาคม 2568) เวลา 14.00 น. นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ
เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569
'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'
ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย


