รัฐบาลอ่อนหัด โครงสร้างล้าหลัง ฉุดเชื่อมั่น'อนุทิน-ภท.'จมดิ่งกับน้ำท่วม

วิกฤตมหาอุทกภัยถล่ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ สร้างความหายนะราวกับคลื่นสึนามิ ซากปรักหักพังของเมืองเสมือนวันสิ้นโลก เป็นโศกนาฏกรรมอันแสนเศร้า ส่งผลต่อชีวิตประชาชน กระทบเศรษฐกิจและสังคมมหาศาล

แม้จะเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ แต่หากหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบมีการเตรียมการบริหารจัดการภัยพิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ จะลดความสูญเสียลงได้ กลางปีที่แล้วเกิดน้ำท่วม ดินโคลนถล่มที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ต้นปีเกิดแผ่นดินไหว ตึก สตง.ถล่ม ปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาเกิดสงครามไทย-กัมพูชา เป็นบทเรียนที่หน่วยงานต่างๆ ต้องพร้อมรับมือภัยพิบัติและเหตุการณ์ฉุกเฉินได้เป็นอย่างดี

แน่นอนว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ต้องเป็นผู้รับผิดชอบคนแรกอย่างปฏิเสธไม่ได้

ในช่วงฝนตกหนักในพื้นที่ จ.สงขลา วันที่ 22 พ.ย. และ 23 พ.ย. นายอนุทินลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ และประเมินว่าประมาณ 3-4 วัน น้ำจะลดระดับ ค่อยๆ ระบายและลดลง ขณะที่ นายณรงค์พร ณ พัทลุง หรือ นายกแป้น นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ ก็รายงานว่า น้ำจะลดลงในวันที่ 25 พ.ย. และยังไลฟ์สดว่า เอาอยู่ ขอให้เชื่อมั่นเทศบาล น้ำจะไม่ท่วม?

แต่ภายหลังนายอนุทินกลับค่ำวันที่ 23 พ.ย. น้ำก็ไหลทะลักท่วมตัวเมืองหาดใหญ่จมมิด กระแทกหน้า นายกฯ อนุทิน-นายกแป้น อย่างจัง!

ทั้งที่วันที่ 22 พ.ย. ระบบการแจ้งเตือน cell broadcast ได้ส่งข้อความแจ้งเตือนระดับสูงสุดถึงระดับน้ำท่วมสูงที่คลองอู่ตะเภา จากพื้นที่ด้านเหนือจะไหลลงมาเพิ่มในพื้นที่เทศบาลนครหาดใหญ่ จะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเวลา 18.00 น.ของวันเดียวกัน ให้ยกของขึ้นที่สูง เคลื่อนย้ายรถไปที่สูง เก็บทรัพย์สินที่มีค่าและเอกสารสำคัญ ระวังเรื่องไฟฟ้าดูด ดูแลกลุ่มเปราะบาง หากจำเป็นให้อพยพจากพื้นที่ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวใกล้บ้าน

DDPM-กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือนผ่าน cell broadcast ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ย. รวมแล้วถึง 90 ครั้ง แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่เชื่อ นายกแป้น ที่่บอกว่า เอาอยู่ จึงลังเลไม่ออกจากพื้นที่ และไม่นำรถขึ้นจอดบนพื้นที่สูงเหมือนทุกปี สะท้อนการประสานงานระหว่างหน่วยงานที่รับผิดชอบเป็นปัญหา โดยเฉพาะกรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทาน สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และท้องถิ่น

สำหรับหน่วยงานหลักในการบริหารจัดการภัยพิบัติ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ.2550 มีคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (กปภ.ช.) ที่นายกรัฐมนตรีนั่งเป็นประธาน มี รมว.มหาดไทย (นายอนุทิน) เป็นรองประธานคนที่ 1 มีผู้บัญชาการเหล่าทัพอยู่ครบ ในระดับจังหวัดมีผู้ว่าฯ เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์

ในเรื่องการบริหารจัดการน้ำ มีคณะกรรมการน้ำแห่งชาติ (กนช.) ซึ่งนายกฯ มอบหมายให้ นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกฯ เป็นประธาน ส่วนสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) มี นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้กำกับดูแล สทนช.

ที่ประชุม ครม.ได้มีมติอนุมัติรับโอน นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) มาเป็นเลขาธิการ สทนช. เริ่มทำหน้าที่เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ต่อมาวันที่ 4 พ.ย. ได้มีมติแต่งตั้งนายดนุชากลับมาดำรงตำแหน่งเลขาฯ สศช.เหมือนเดิม ปัจจุบันยังไม่มีเลขาธิการ สทนช. มี นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รักษาการแทน???

 ในระดับพื้นที่ นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าฯ สงขลา เมื่อต้นปียังดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ พัทลุง วันที่ 18 ส.ค.68 ถูกเด้งไปเป็นผู้ว่าฯ กระบี่ ต่อมาวันที่ 14 ต.ค.68 ที่ประชุม ครม.มีมติโยกมาเป็นผู้ว่าฯ สงขลา และปฏิบัติหน้าที่่ผู้ว่าฯ อย่างเป็นทางการวันที่ 17 พ.ย. ช่วงน้ำเริ่มท่วมพอดี ว่ากันว่า นายรัฐศาสตร์ เป็นผู้ว่าฯ สาย สีน้ำเงิน ถูกโยกมาเป็นผู้ว่าฯ สงขลา เพื่อดูแลพื้นที่เลือกตั้ง

ส่วนอธิบดี ปภ. นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ อดีตผู้ว่าฯ อุทัยธานี เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเมื่อวันที่ 14 ต.ค.เช่นกัน ซึ่งนายธีรพัฒน์แนบแน่นกับบ้านใหญ่อุทัยฯ ตระกูลไทยเศรษฐ์ การแต่งตั้งโยกย้ายดังกล่าวเป็นการจัดทัพใหญ่ก่อนเลือกตั้ง ล้างขั้วอำนาจเก่า ทำให้ขั้ว สีน้ำเงิน ผงาดขึ้นยกแผง

 การแต่งตั้งโยกย้าย หากใช้คนให้เหมาะสมกับความสามารถและลักษณะงานก็เพิ่มประสิทธิภาพขององค์กร แต่หากใช้คนเพื่อหวังผลทางการเมือง ความเสียหายก็เกิดกับประเทศชาติ และเมื่อเกิดสถานการณ์วิกฤตก็เกิดความโกลาหล ประจานความล้มเหลวของตัวเอง

หลังเกิดเหตุ วันที่ 25 พ.ย. นายอนุทิน ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (คอภ.) ได้ลงนามจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำในสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (ศนภ.) โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็น ผอ.ศูนย์ฯ เพื่อกำกับดูแลการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำ ช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ภัยพิบัติ

วันถัดมาในการประชุม ครม. มี พลอากาศเอกสถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์ฯ เข้าร่วมประชุมด้วย พร้อมเชิญพระราชกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต่อความห่วงใยของพระองค์ท่านที่ทรงมีต่อประชาชนที่กำลังประสบภัยเหตุการณ์น้ำท่วม

โดย นายกฯ อนุทิน ลงนามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่จังหวัดสงขลา และแต่งตั้งให้ พล.อ.อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน และจัดตั้งกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) ขึ้น ณ กรม ปภ. เป็นศูนย์กลางในการอำนวยการ

พร้อมกับตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) มี นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็น ผอ.ศูนย์ฯ นอกจากนี้ยังได้ลงนามคำสั่งนายกรัฐมนตรี มอบหมายรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี รับผิดชอบการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยเป็นรายจังหวัดอีกด้วย

ในวันเดียวกัน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม ได้ตั้ง ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกระทรวงกลาโหม (ศบภ.กห.ส่วนหน้า) ที่กองบิน 56 จ.สงขลา เช่นเดียวกัน 

การจัดตั้งหน่วยงานรับมือกับภัยพิบัติดังกล่าว ทำให้เกิดความสับสนว่าหน่วยงานใดหรือใครเป็น ผู้บัญชาการเหตุการณ์ ในพื้นที่ ไม่มี Single Command เหมือนเหตุการณ์ 13 หมูป่าติดถ้ำหลวง จ.เชียงราย ที่ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร เป็น Single Command ตาม พ.ร.บ.ปภ. จนสามารถช่วย 13 หมูป่าได้สำเร็จ

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส ที่อยู่หน้างานก็บอกว่าตนเองเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด และตะโกนต่อว่าทหารในพื้นที่ จนมีรายงานว่าทหารที่ปฏิบัติการกู้ภัยประกาศไม่ทำตามคำสั่ง ร.อ.ธรรมนัส 

ส่วนการสื่อสารในสถานการณ์วิกฤตก็ล้มเหลว นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบผู้สื่อข่าวที่ถามว่าสถานการณ์น้ำท่วมใต้เอาอยู่หรือไม่ ว่า “ต้องไปถามปี 54 ไม่ใช่ปีนี้” วันต่อมาถึงยอมรับมีบางอย่างที่รัฐบาลดำเนินการผิดพลาด

ขณะที่ นายภราดร ปริศนานันทกุล ในฐานะ ผอ.ศป.กฉ. ไม่ตอบคำถามสื่อที่ว่า “ถึงเวลาที่รัฐบาลจะยอมรับความผิดพลาดได้หรือยังว่าประเมินสถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ผิดพลาด" และลุกออกจากการแถลงข่าวทันที ต่อมาถึงยอมขอโทษ ขณะที่่ นายอนุทิน ก็เอ่ยคำขอโทษที่ทำให้ต้องจากที่อยู่อาศัย ระหว่างลงพื้นที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ปัญหาทั้งหมดไม่ใช่ความผิดพลาดของรัฐบาลฝ่ายเดียว เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างทั้งระบบที่หมักหมมมานับสิบปี ตั้งแต่การพัฒนาที่มุ่งความเจริญของเมือง ไม่วางยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับพื้นที่่ ไม่มีการวางผังเมืองเป็นระบบ ไม่มีการฝึกซ้อมเตรียมรับมือกับภัยพิบัติ การจัดสรรงบประมาณก็กระจุกอยู่ส่วนกลาง กำหนดโครงการไม่ตรงจุด มีการทุจริตคอร์รัปชัน หักหัวคิว ชักเปอร์เซ็นต์ ทำให้โครงการต่างๆ ล้มเหลว การแต่งตั้งอธิบดีบางกรมต้องซื้อเก้าอี้ถึง 300 กิโล เข้าไปก็ถอนทุนคืน เมื่อข้าราชการ นักการเมือง สมคบคิดกันหาประโยชน์ หายนะก็เกิดกับบ้านเมือง

เช่นเดียวกับปัญหา สแกมเมอร์ เจ้าหน้าที่รัฐรับส่วยสินบนจากกลุ่มทุนสีเทา-เว็บพนันออนไลน์ เป็นผลจากการรวมศูนย์อำนาจอยู่ที่ตำรวจ ผูกขาดการจับกุม สอบสวน ขาดการตรวจสอบจากหน่วยงานอื่น จับกุมผู้ต้องหาเว็บพนันออนไลน์ได้แล้วก็เป่าสำนวนคดีตบตาอัยการ ไม่ให้มีน้ำหนักพอฟ้องผู้ต้องหาได้ 

การแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจต้องใช้เส้นสายอภิสิทธิ์ชน ซื้อเก้าอี้ขึ้นตำแหน่งนับล้านบาท อดีต ผบ.ตร.ถูกชี้มูลผิดวินัยฐานรับส่วยเว็บพนันพร้อมพวก 200 คน อดีตรอง ผบ.ตร.ชำแหละสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าเป็น องค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุด เป็นวิกฤตองค์กรตำรวจ หากไม่ปฏิรูปโครงสร้าง ปัญหาก็วนอยู่ลูปเดิม

วิกฤตน้ำท่วมเป็นความล้มเหลวทั้งฝ่ายการเมืองและข้าราชการประจำ กระทบต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาลและ ภาวะผู้นำ ของ นายกฯ อนุทิน อย่างรุนแรง และหากการบริหารจัดการเยียวยา ฟื้นฟู ไม่เป็นที่พอใจประชาชน จะฉุดความเชื่อมั่นจมดิ่งกับน้ำท่วมมากกว่าเดิม พรรคภูมิใจไทยตั้งเป้าจะปักธงเป็นพรรคอันดับหนึ่งในภาคใต้ก็หมดหวัง พรรคคู่แข่งก็รุมขยี้แผลความล้มเหลวรับมือน้ำท่วม และเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ

สำหรับการประชุมร่วมกันของรัฐสภาสมัยวิสามัญ วาระพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 2 และ 3 ในวันที่ 10-11 ธ.ค.นี้ และเปิดสมัยสามัญ วันที่ 12 ธ.ค. พรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชนเจรจากันแล้วจะไม่ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ตาม รธน. ม.151 ก่อนลงมติรับร่างแก้ไข รธน.วาระ 3 ก่อนปีใหม่

แต่หลังผ่านวาระ 3 ไปแล้ว ช่วงเดือน ม.ค. ก่อนที่ นายกฯ อนุทิน จะยุบสภาในวันที่ 31 ม.ค.69 ความล้มเหลวในการแก้ปัญหาน้ำท่วมจะเพิ่มความชอบธรรมให้ฝ่ายค้านยื่นญัตติซักฟอกได้

ถึงเวลานั้น หาก นายกฯ อนุทิน จะชิงยุบสภาหนีเหมือนที่ประกาศไว้ ก็จะถูกวิจารณ์ว่าหนีการตรวจสอบ ไม่เคารพกระบวนการประชาธิปไตย เป็นสถานการณ์ที่ นายอนุทิน-พรรคภูมิใจไทย เลือกทางเดินลำบากขึ้น ความฝันที่จะเป็นนายกฯ อีกสมัยอาจสะดุดลงได้!.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อนุทิน' สวน พท. ใครทำงานห่วย ยุครัฐบาลนิด-อิ๊งค์ ติดโพลอันดับ 2

'อนุทิน' สวนเพื่อไทย ถ้าทำงานห่วย คนตั้งก็แย่สิ ยุครัฐบาล 'อิ๊งค์ - เศรษฐา' ผลโพลชี้ชัดนั่งแท่นอันดับ 2 ทิ้งห่าง พท. หัวเราะให้คะแนนตัวเอง 'เดี๋ยวจะหาว่าคุย'

'อนุทิน' ยันยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟูหาดใหญ่ต่อ จ่อขนนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียน

'อนุทิน' ยอมรับยังกังวลน้ำท่วมหาดใหญ่ ยัน ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วยังฟื้นฟู-เยียวยาต่อ หยอด อำนาจอยู่ที่ มท.1แล้ว 'นายกฯ คงไม่ขัดอะไร' เผยขั้นตอนนำผู้ประสบภัยกลับบ้าน ทำไปแล้วกว่า 90% จ่อขนกองทัพนักวิชาการลงพื้นที่ถอดบทเรียนพรุ่งนี้

นายกฯ ประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล 'ร.9'

นายกฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 'ในหลวง ร.9' วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. 2568

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ 'เบน สมิธ' ต้องรุกกลับปราบสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก

'จตุพร' แนะ 'อนุทิน' อย่าพะวงกับรูปถ่ายร่วมเฟรม 'เบน สมิธ' อย่ามัวแต่พูดอธิบายภาพ อ้างไม่สนิท จี้ปฏิบัติให้จริง รุกกลับปราบ'แก๊งสแกมเมอร์' ให้ราบคาบจากไทย ลั่นรู้นะ คนปล่อยรูปหวังทำลายการเมือง

อวยไส้แตก! สิ่งที่เท้งทำตอนน้ำท่วม ถ้าได้บริหารประเทศ จะตอบโต้สถานการณ์น้ำท่วมได้

ตอนน้ำท่วมแม่สาย เชียงราย ปีก่อน เท้งมาแบบคนที่ตาใสเลย นับ 1 จับต้นชนปลายไม่ถูก แต่มีความตั้งใจ มาแต่ตัวจริงๆ ไม่มีแม้อุปกรณ์ล้างบ้าน ตั้ง