1 ในพื้นที่เป้าหมายสำคัญของ ‘พรรคกล้าธรรม’ ภายใต้การนำของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าพรรค คือ จ.กำแพงเพชร
‘เมืองกล้วยไข่’ ถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของพรรค เพราะมีอดีต สส.ของพรรคถึง 2 คน คือ นายไผ่ ลิกค์ และนายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ โดยเฉพาะ ‘ไผ่ ลิกค์’ ที่นั่งเป็นเลขาธิการพรรคด้วย
เป้าหมายของพรรคกล้าธรรมคือ รักษาพื้นที่ของคนที่เป็น สส.เดิม ไม่ว่าจะเป็นคนเก่า หรือผู้ที่มาใหม่ ดังนั้น 2 เขตดังกล่าวที่ จ.กำแพงเพชรจึง ‘แพ้ไม่ได้’
เพียงแต่ครั้งนี้การรักษาแชมป์ของ ‘พรรคกล้าธรรม’ ไม่ง่าย เพราะคู่แข่งสำคัญคือ แกนนำกลุ่มชากังราว ‘วราเทพ รัตนากร’ อดีตรัฐมนตรีที่พาอดีต สส.บางส่วนกลับไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย
เป็นครั้งแรกที่บ้านใหญ่กำแพงเพชร 2 หลัง คือ ‘บ้านใหญ่ลิกค์’ และ ‘บ้านใหญ่รัตนากร’ ลงคนละพรรค แล้วต้องมาปะทะกันเอง
โดยการเลือกตั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา 4 เขตของกำแพงเพชร ลงในสังกัดเดียวกันหมด คือ ‘พรรคพลังประชารัฐ’ โดยชนะยกจังหวัดมา 2 ครั้งติดต่อกัน
มีการแบ่งพื้นที่กันชัดเจน เขต 1 เป็นของ ‘ตระกูลลิกค์’ เขต 2 เป็นของ ‘ตระกูลอาภรณ์รัตน์’ เขต 3 เป็นของ ‘ตระกูลผลอำนวย’ และเขต 4 เป็นของ ‘ตระกูลฤกษ์หร่าย’ ส่วนตัวแทนปาร์ตี้ลิสต์ของกลุ่มคือ ‘กำนันตู้’ นายสุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ
แต่ภายหลัง ร.อ.ธรรมนัส แยกตัวออกจาก ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ไปสร้างอาณาจักรกล้าธรรม ‘ก๊วนชากังราว’ ได้แยกเป็นสองส่วนคือ ซีกนายไผ่ และซีกนายวราเทพ
นายไผ่และนายเพชรภูมิ เลือกตาม ร.อ.ธรรมนัสไปพรรคกล้าธรรม ส่วนนายอนันต์ ผลอำนวย และนายปริญญา ฤกษ์หร่าย อดีต สส.กำแพงเพชรอีก 2 คน ยังอยู่กับนายวราเทพต่อที่พรรคพลังประชารัฐ เพื่อรอเวลากลับพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งนี้
ความเข้มข้นของสนามนี้คือ การต่อสู้กันของอดีตคนกันเอง และไม่ใช่แค่การป้องกันพื้นที่ แต่เป็นการเปิดฉากเพื่อล้มอีกฝั่ง
‘พรรคกล้าธรรม’ ส่งครบ 4 เขต นายไผ่ ป้องกันแชมป์ที่เขต 1 นายเพชรภูมิ ป้องกันแชมป์ที่เขต 2 ส่วนเขต 3 ตระกูลอาภรณ์รัตน์ส่ง ‘พิชญา อาภรณ์รัตน์’ พี่สาวนายเพชรภูมิ ท้าชิงแชมป์กับตระกูลผลอำนวยที่ครั้งนี้นายอนันต์ ส่งลูกชาย ‘นพพล ผลอำนวย’ รักษาแชมป์แทนพ่อ ในนามพรรคเพื่อไทย
ขณะที่เขต 4 เดิมนายปริญญา ตามนายวราเทพไปพรรคเพื่อไทย แต่ปรากฏว่า นายวราเทพขอให้นายปริญญาไปลงสมัครแบบบัญชีรายชื่อ แล้วสลับเอา ‘กำนันตู้’ มาลงแบบแบ่งเขตแทน ซึ่งทำให้นายปริญญาไม่พอใจ เพราะทำพื้นที่มานาน สุดท้ายตัดสินใจไปอยู่กับพรรคกล้าธรรม เพื่อให้ได้ลงเขต
กลายเป็นว่า พรรคกล้าธรรมมีอดีต สส.กำแพงเพชรถึง 3 คน
เขตที่ดุเดือดน่าจะเป็นเขต 2 เขต 3 และเขต 4 เมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์แล้ว เพราะนายวราเทพส่งคู่แข่งที่แข็งลงไปสู้ โดยเขต 2 ส่งลูกชายคือ ‘ธนากร รัตนากร’ ไปท้าชิงกับ ‘เพชรภูมิ’ แชมป์เก่า ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของ ‘ตระกูลอาภรณ์รัตน์’ ถือว่าแชมป์เก่าเจอศึกหนัก
เพียงแต่นายวราเทพจะโฟกัสได้มากน้อยแค่ไหน เพราะที่เขต 3 ‘ตระกูลอาภรณ์รัตน์’ แก้เกม ส่ง ‘พิชญา’ พี่สาวของนายเพชรภูมิ ลงไปท้าชิงกับ ‘ตระกูลผลอำนวย’ แชมป์เก่า ที่แพ้ไม่ได้เหมือนกัน
ขณะที่เขต 4 นายปริญญาแยกตัวออกมาจากนายวราเทพ มี ร.อ.ธรรมนัสให้การสนับสนุนเต็มที่ เขตนี้น่าจะเดือดสุด เพราะทั้งนายปริญญา และนายสุรสิทธิ์ เป็นคนในพื้นที่เช่นกัน
ที่ผ่านมา ‘กำนันตู้’ อยากลงเขตนี้ แต่ติดตรง ‘ปริญญา’ มาคราวนี้นายวราเทพเลือกถือ ‘กำนันตู้’ งานนี้ได้วัดกันไปเลยว่า ใครแข็งกว่ากัน
‘ตระกูลฤกษ์หร่าย’ ในวันที่อยู่คนละฝั่งกับตระกูลรัตนากรจะไหวหรือไม่
จ.กำแพงเพชร ดูแล้ว ทั้งพรรคกล้าธรรมและพรรคเพื่อไทยมุ่งหวังทั้งคู่ เพราะเกี่ยวข้องกับการเมืองภายในจังหวัดด้วย ใครปักธงได้มากกว่า อาจส่งผลต่อการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นในโอกาสต่อๆ ไป
ซึ่งทั้งสองพรรคน่าจะมีเวทีใหญ่ประชันกันแน่นอน
พรรคกล้าธรรม มี ร.อ.ธรรมนัส ขณะที่พรรคเพื่อไทยแล้ว นอกจากมีนายวราเทพ ยังมีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ท่อน้ำเลี้ยงพรรคเพื่อไทยเป็นสปอนเซอร์ให้
มีแววซัดกันหนักตั้งแต่จับเบอร์เสร็จสิ้น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดขั้นตอนหย่อนบัตร8ก.พ.69 บัตร3ใบเลือกตั้งพ่วงประชามติ
ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูกาลการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) อย่างเป็นทางการ โดยในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่จะมีการเลือกตั้ง สส. พร้อมกับการทำประชามติหนึ่งเรื่องในวันเดียวกัน โดยกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 17.00 น. ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
'ภท.-ปชน.' แตกหักปม112 'พท.' ตัวแปรรอร่วมรัฐบาล
การเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 กำลังเดินหน้าเข้าสู่ช่วงโค้งสำคัญ พรรคการเมืองต่างเร่งนำเสนอนโยบาย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และทีมรัฐมนตรี เพื่อขอโอกาสประชาชนเข้ามาบริหารประเทศในอีก 4 ปีข้างหน้า
ภูมิใจไทยพลัส-เปิดเกมใหญ่ ชูรัฐมนตรีคนนอก ลุยเลือกตั้ง
บรรยากาศการเมืองปลายปี 2568 ต่อเนื่องต้นปี 2569 เดินหน้าเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มรูปแบบ หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งเตรียมเปิดรับสมัคร สส.ปลายเดือนธันวาคม ก่อนจะหย่อนบัตรในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 พรรคการเมืองต่างเร่งเปิดตัวผู้สมัคร นโยบายหาเสียง และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในช่วงโค้งสุดท้าย
‘บิ๊กป้อม’ ถอย ดัน ‘ตรีนุช’ เลือกตั้งสุดท้ายของ ‘พปชร.’
‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศถอนตัวจากการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ทั้งที่อีกไม่กี่ชั่วโมงจะถึงวันรับสมัคร สส.แบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดในวันที่ 27-28 ธันวาคมนี้
คิกออฟเลือกตั้ง69เช็กความพร้อมกกต. เปิดคู่มือผู้สมัครสส.ก่อนออกหาเสียง
ประเทศไทยกำลังเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ครั้งใหม่ หลังจากพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2568 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.2568
‘เท้ง’พลาดซ้ำ รีบผลัก‘ภท.’ พา‘พรรคส้ม'ผูกมัดตัวเอง
ไม่ว่าจะคิดมาดีแล้ว หรือไม่ทันระวัง การรีบประกาศว่า หากพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล พรรคประชาชนจะไปเป็นฝ่ายค้านของ ‘เท้ง’ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ถือเป็นเรื่องที่นักเลือกตั้งซึ่งมีประสบการณ์ทางการเมืองสูงไม่เลือกจะทำ

