ครม.ไฟเขียว ขสมก.กู้เงินเสริมสภาพคล่อง 7,516 ล้านบาท

ครม.อนุมัติให้ขสมก.กู้เงินเสริมสภาพคล่องทางการเงิน จำนวน 7,516 ล้านบาท โดยให้คลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้  หลังขาดทุนมีภาระหนี้สินสะสม และดอกเบี้ยทั้งสิ้น 132,565 ล้านบาท 

18 ก.ค.2565-น.ส.ไตรศุลี  ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้มีมติอนุมัติให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) กู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ประจำปีงบประมาณ 2566 รวมจำนวน 7,516 ล้านบาท  และให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ กำหนดวิธีการกู้เงิน เงื่อนไข และรายละเอียดต่างๆในการกู้เงิน โดยกระทรวงคมนาคมรายงานว่า ขสมก.ประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงิน เนื่องจากผลประกอบการที่ขาดทุนและไม่ได้รับเงินชดเชยผลการขาดทุนตามจำนวนที่เกิดขึ้นจริง  

ทั้งนี้มีสาเหตุหลักมาจากการที่ ขสมก.เก็บค่าโดยสารตามอัตราที่ภาครัฐกำหนดซึ่งต่ำกว่าต้นทุนที่แท้จริง และไม่สามารถปรับอัตราค่าโดยสารเพิ่มขึ้นตามสภาวการณ์ปัจจุบันได้ จึงส่งผลให้มีผลขาดทุนจากการดำเนินงาน ภาระหนี้สินสะสม และดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปัจจุบัน ขสมก.อยู่ระหว่างดำเนินการทบทวนร่างแผนฟื้นฟูกิจการขสมก.ฉบับปรับปรุงใหม่  ทำให้ขสมก.ยังคงมีหนี้สินค้างชำระรวมทั้งสิ้น 132,565 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตามขสมก.ได้จัดทำประมาณการเงินสดรับ-จ่าย ในปีงบประมาณ 2566 คาดว่าจะมีเงินสดคงเหลือปลายงวดขาดมือจำนวน 42,640 ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงพอที่จะนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ดั้งนั้นเพื่อให้เกิดสภาพคล่องทางการเงินและสามารถทำให้องค์กรบริหารจัดการต่อไปได้ ขสมก.จึงมีความจำเป็นต้องกู้เงินจำนวน 42,640 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตามโดยส่วนหนึ่งจะนำไปชำระคืนหนี้เงินกู้เดิมที่ครบกำหนดชำระและไถ่ถอนพันธบัตรเงินกู้ จำนวน 35,123 ล้านบาท ซึ่งได้นำเสนอสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เพื่อบรรจุเข้าแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2566 แล้ว จึงคงเหลือเงินกู้เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน และเป็นเงินสดหมุนเวียนในการดำเนินงานของขสมก.ในปีงบประมาณ 2566 จำนวน 7,516 ล้านบาท  เป็นการชำระค่าเชื้อเพลิงวงเงิน 2,250 ล้านบาท, ชำระค่าเหมาซ่อม 1,422 ล้านบาท และเสริมสภาพคล่องทางการเงิน 3,844 ล้านบาท   

ทั้งนี้  ขสมก. รายงานว่าการกู้เงินในครั้งนี้ จะทำให้สามารถประหยัดค่าดอกเบี้ยค้างชำระได้เมื่อเทียบกับกรณีที่ไม่กู้เงินที่ภาระดอกเบี้ยค่าเชื้อเพลิงอยู่ที่ 5.82% ต่อปี ค่าเหมาซ่อมอยู่ที่6.35% ต่อปี รวมเป็นดอกเบี้ยที่ต้องชำระ 221.27 ล้านบาทต่อปี แต่หากกู้เงินต้นทุนดอกเบี้ยจะปรับลดลงเหลือเฉลี่ย 1.098% ต่อปี รวมดอกเบี้ยที่ต้องชำระ 40.324 ล้านบาท หรือประหยัดดอกเบี้ยได้ 180.95 ล้านบาท

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รอลุ้นครม.เศรษฐา 2 พปชร.ยังส่ง 'ไผ่ ลิกค์' นั่งรมช. ภูมิใจไทยไม่ขยับ

ความเคลื่อนไหวในการปรับ ครม. “เศรษฐา 2” หลังเทศกาลสงกรานต์ นั้น ล่าสุดมีรายงานข่าวว่า ในส่วนของ พรรคร่วมรัฐบาล โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)

ดักคอ 'เศรษฐา' เตรียมอุ้มอสังหาฯ หวังระบายสต๊อก เตือนผุดนโยบายเอื้อกลุ่มทุนพันตัว

"ก้าวไกล" เผย นายกเตรียมอุ้มอสังหาฯ หวังระบายสต๊อก อาจถูกมองเอื้อกลุ่มทุน ชี้คนที่ได้ประโยชน์คือกำลังซื้อต่างชาติ แนะถ้าจะกระตุ้นศก.ควรเริ่มจากราคาบ้านถูกกลางเมืองจับต้องได้

ทัพเรือลุ้นต่อไป! นายกฯ เผย ครม.ไม่มีคุยปมยกเลิกเรือดำน้ำ เปลี่ยนเป็น 'ฟริเกต'

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ได้รายงานในที่ประชุมครม.หรือไม่ถึงการไปพูดคุยกับประเทศจีน

'สุระ' มั่นใจ ฝ่ายค้านซักฟอกรัฐบาลไม่ระคาย หนุนปรับครม.หาคนเหมาะสม

“สุระ” มั่นใจ ฝ่ายค้านซักฟอก ไม่ทำให้ เสถียรภาพรัฐบาลสั่นคลอน เหตุ จำนวนเสียงพรรคร่วมรัฐบาลยังหนุนอื้อ ชี้ ปรับครม. นายกฯ พิจารณาตามความเหมาะสม เสริมประสิทธิภาพทำงาน แก้ปัญหาให้ประชาชน