ส.อ.ท.ปลื้มดัชนีอุตฯพุ่งสูงสุดในรอบ 5 เดือน อยู่ที่ระดับ 82.1 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 79.0 หลังได้รับอนิสงค์จากมาตรการคลายล็อกดาวน์ โอดทุกอุตสาหกรรมยังขาดแคลนแรงงานกว่า 5 แสนคน แนะรัฐเร่งหาแนวทางช่วยเหลือ
8 พ.ย.2564-นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนตุลาคม 2564อยู่ที่ระดับ 82.1 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 79.0 ในเดือนก.ย.2564 โดยค่าดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ในทุกขนาดอุตสาหกรรมและทุกภูมิภาค ส่วนดัชนีคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 95.0 จากระดับ 93.0 ในเดือนก.ย. 2564 ถือเป็นการคาดการณ์ที่สูงสุดในรอบ 5เดือน เนื่องจากเดือนต.ต.มีการผ่อนคลายล็อคดาวน์
ทั้งนี้มองว่านโยบายเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. 2564 อนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติในกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ สามารถเดินทางเข้ามาได้โดยไม่ต้องกักตัว รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปี 2564 ขณะที่ภาคการส่งออกยังคงขยายตัวตามทิศทางเศรษฐกิจและการค้าโลกขณะที่องค์ประกอบของดัชนีฯ เพิ่มขึ้นเกือบทุกรายการ ทั้งยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ ยกเว้นต้นทุนประกอบการ
สำหรับปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ที่มีทิศทางดีขึ้นจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันลดลง ขณะที่จำนวนผู้ได้รับวัคซีนมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ภาครัฐผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ต่อเนื่องทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัว ขณะที่อุปสงค์ในประเทศและต่างประเทศขยายตัวต่อเนื่องทั้งสินค้าคงทน อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ฯ เครื่องจักรกลและโลหะการ เป็นต้น รวมถึงสินค้าไม่คงทนประเภทอาหารและยา นอกจากนี้เริ่มมีคำสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้าเพื่อใช้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ในกลุ่มสินค้าอาหารและสินค้าแฟชั่น ส่งผลให้ดัชนีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น ขณะที่มาตรการภาครัฐยังช่วยพยุงกำลังซื้อในประเทศ
นายสุพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์การขาดแคนแรงงานในภาคอุตสาหกรรมยอมรับว่ามีความกังวลเนื่องจากขนาดนี้เศรษฐกิจได้เริ่มทยอยเปิดโรงงาน รวมทั้งหลายๆธุรกิจอุตสาหกรรม ซึ่งยังขาดแคลนแรงงานมากพอสมควร เนื่องจากก่อนเกิดการแพร่ระบากโควิด-19 แรงงานต่างด้าวได้เดินทางกลับประเทศไปก่อนหน้านี้หลายแสนคน และขณะนี้ยังไม่เดินทางกลับเข้ามา มองว่าควรจะมีการลงนาม MOU ระหว่างรัฐต่อรัฐ ในการหาโคต้าแรงงานต่างด้าวเข้ามาเพื่อลดปัญหาการขาดแคลนแรงงงาน โดยมีเงื่อนไขต้องมีการตรวจสุขภาพ ซึ่งทั้งหมดมองว่านายจ้างยินดีที่จะจ่ายในส่วนนี้
“ เป็นการลงนามเพื่อแสดงเจตนารมย์ความต้องการแรงงานต่างด้าวให้เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องโดยมีระบบการตรวจเช็คสุขภาพสิ่งเหล่านี้มองว่าภาคเอกชนยินดีจะออกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ดังนั้นมองว่าหากยังไม่เปิดโอกาสในส่วนนี้จะทำให้มีแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาอย่างแน่นอน ซึ่งช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของ โควิด-19 แรงงานต่างด้าวกลับไปเป็นจริงนวนมาก และยังไม่กลับเข้ามาสู่ระบบแรงงาน ซึ่งปัจจุบันหลายธุรกิจและอุตสาหกรรมเริ่มทยอยเปิดแล้วทำให้ยังเป็นอุปสรรค ซึ่งขณะนี้มีความต้องการแรงงานถึง 5 แสนคน โดยอุตสาหกรรมที่ราดแคลนแรงงานมาที่สุดคือ ก่อสร้างและอาหาร เป็นต้น” นายสุพันธ์ กล่าว
ทั้งนี้มองว่าผู้ประกอบการได้มีความกังวลในเรื่องของปัญหาวัตถุดิบและพลังงานตามราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องที่จะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ทำให้ต้นทุนการขนส่งตามมา ขณะที่การผันผวนในอัตราแลกเปลี่ยนส่งผลกระทบต่อ ต้นทุนของผู้นำเข้าก็อาจจะดีต่อผู้ส่งออก ขณะที่อัตราการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ และอัตราค่าระหว่างเรือสูงยังเป็นปัจจัยที่กดดันผู้ส่งออก
สำหรับข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ คือ 1.เร่งรัดการฉีดวัดซีนที่มีคุณภาพให้แก่ประชาชน ตามเกณฑ์ขั้นต่ำ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่โดยเฉพาะจังหวัดที่เปิดรับนักท่องเที่ยวเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ 2.ภาครัฐควรมีแผนรองรับการเปิดประเทศ และมาตรการด้านสาธารณสุขที่ชัดเจนเพื่อให้การเปิดประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อยรวมทั้งควรมีการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวและประชาชนรับทราบเพื่อสร้างความเข้าใจ
3.เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเดิม และส่งเสริมการท่องเที่ยวรวมทั้งผ่อนคลายกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายใต้มาตรการควบคุมโรคเพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจและ4.ขอให้ภาครัฐเร่งแก้ไขปัญหาราคาพลังงาน ราคาวัตถุดิบและค่าขนส่งที่ปรับตัวสูงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อดันทุนประกอบการภาคอุดสาหกรรม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มพช. แจงปมของบ ส.อ.ท. ทำวิจัย
ดร.สุวิทย์ ธรณินทร์พานิช ประธานคณะกรรมการมูลนิธิพลังงานสะอาดเพื่อประชาชน (มพช.) พร้อมด้วยคุณพรอรัญ สุวรรณพลาย กรรมการและเหรัญญิก มพช.
เอกชนวอนรัฐ ตรึงราคาน้ามัน ชงลดดอกเบี้ย
ส.อ.ท.โอดหนี้ครัวเรือนฉุดดัชนีเชื่อมั่นอุตฯ ปรับตัวลดลง ปัจจัยต่างประเทศยังซ้ำ
'อัลฟ่าเซค' จับมือ 'ส.อ.ท.' ทำระบบมาตรฐานความปลอดภัยสารสนเทศของงาน Made in Thailand
อัลฟ่าเซค ร่วมมอบ “ใบรับรองระบบมาตรฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ ISO27001:2022” ให้กับ ส.อ.ท. ในฐานะที่ปรึกษาด้านความมั่นคงปลอดภัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการ MiT และเตรียมรับมือกับ ภูมิทัศน์ไซเบอร์ในปี 2567
ส.อ.ท. เสนอคุมส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้-เงินฝาก ช่วยเอกชน
นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI CEO Poll ครั้งที่ 37 ในเดือนมกราคม 2567 ภายใต้หัวข้อ “ดอกเบี้ยสูง หนี้พุ่ง อุตสาหกรรมไปต่ออย่างไร” พบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท.