ชาวนาไทยเฮลั่น แห่กดเงินส่วนต่างข้าว 'ประกันรายได้' งวดแรกเข้าบัญชีวันนี้


เกษตรกรชาวนาแห่กดเงิน 'ส่วนต่างข้าว' ออกจากธนาคารวันนี้ หลังรัฐบาลจ่ายเงินส่วนต่างโครงการประกันรายได้ผู้ปลูกข้าวให้กับชาวนาปีที่ 3 งวด 1 ขณะที่ปลูกข้าวเหนียวปลื้มสุด ได้ส่วนต่างสูงถึง 69,399 บาท

9 พ.ย.2564 - นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กำลังร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี แต่ได้สั่งการให้ติดตามรายงานจากพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศวันนี้ บรรยากาศการเบิกจ่ายเงินส่วนต่างโครงการประกันรายได้ผู้ปลูกข้าวให้กับชาวนาปีที่ 3 งวด 1 สำหรับชาวนาที่แจ้งการเก็บเกี่ยวไว้ก่อนวันที่ 15 ตุลาคม 2564 โดยโครงการประกันรายได้ข้าว (ความชื้น 15%) สิทธิ์ของชาวนา คือ ข้าวหอมมะลิประกันรายได้ 15,000 บาทต่อตันจำนวน 14 ตัน ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ 14,000 บาทต่อตัน จำนวน 16 ตัน ข้าวหอมปทุม 11,000 บาทต่อตัน จำนวน 25 ตัน ข้าวเจ้า 10,000 บาทต่อตัน จำนวน 30 ตัน ข้าวเหนียว 12,000 บาทต่อตัน จำนวน 16 ตัน

สำหรับบรรยากาศวันนี้ ทั้งกระทรวงพาณิชย์จังหวัด เกษตรจังหวัด กลุ่มเกษตรกรและ ธกส.ได้ติดตามการเบิกจ่ายเงินและอำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกรพี่น้องชาวนาอย่างใกล้ชิด สำหรับงวดแรกของปีนี้ เนื่องจากข้าวราคาตกทำให้เกษตรกรได้รับเงินส่วนต่างสูงสุดของข้าวแต่ละชนิด คือ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ได้สูงสุดในบัญชีเกษตรกรเอง 57,900.78 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 57,524 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 26,303.25 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 58,038.6 บาท และข้าวเปลือกเหนียว 69,399.52 บาท เป็นต้น ส่วนชาวนาที่ปลูกข้าวจำนวนลดหลั่นลงไปก็ได้รับส่วนต่างตามสิทธิ์ของตนเองเช่นกัน

ระหว่างที่สำนักปลัดกระทรวงพาณิชย์รับรายงานพร้อมติดตามรีวิวภาพบรรยากาศการรายงานของพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศรีวิวภาพการเบิกจ่ายเงินมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่จังหวัด เช่น เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำพูน ลำปาง พิษณุโลก สระบุรี สุโขทัย อุทัยธานีปราจีนบุรี นครปฐมศรีสะเกษ อุบลราชธานี กำแพงเพชร ปทุมธานี นครปฐม ขอนแก่น อุทัยธานี เป็นต้น ส่วนจังหวัดอื่นๆก็ทยอยรายงานอย่างต่อเนื่องซึ่ง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สั่งการให้ทั้งกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯ รวมทั้งความร่วมมือจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ หรือ ธ.ก.ส.ติดตามดูแลพี่น้องชาวนาอย่างใกล้ชิดและคอยแก้ไขปัญหาแต่ละจุดอย่างทันท่วงที

"ทางด้านการดึงราคาข้าว มีมาตรการคู่ขนาน “เก็บข้าวในยุ้งฉาง” ได้ค่าฝากเก็บตันละ 1,500 บาท สหกรณ์และโรงสี ได้ชดเชยดอกเบี้ย 3% เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง ผู้ค้าข้าว ได้ชดเชยดอกเบี้ยเก็บสต็อก 3% และมาตรการอื่นทยอยดำเนินการ และระหว่างนี้นายจุรินทร์ กำลังร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีโดยวันนี้มีสาระสำคัญจากกระทรวงพาณิชย์ในการนำเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อเห็นชอบเกี่ยวกับการใช้เงิน เพื่อจ่ายงวดต่อไป สำหรับพี่น้องชาวนาที่แจ้งเก็บเกี่ยวไว้ช่วง 21 ตุลาคม เป็นต้นมา ทั้งนี้กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ เข้มงวดเรื่องเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินชดเชยจากรัฐ ซึ่งจะต้องให้เป็นไปตามกฏหมายมาตรา 28 หรือพระราชบัญญัติการเงินการคลัง และต้องรายงานให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติเป็นก้อนงบประมาณรายงวดไป " ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โวอีกไม่เกินสัปดาห์จะเปิดโฉมขบวนการฮุบที่ดิน ส.ป.ก.

นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เปิดเผยหลังเข้าหารือกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) โดยมีนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

'ธรรมนัส' ขึงขัง ประกาศสงครามกับที่ดินเถื่อนในเขตปฏิรูปที่ดิน

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า ผมพร้อม "ทำสงครามกับที่ดินเถื่อน

'หมอวรงค์' เปิดใจ! ทำไมต้องมี 'พรรคไทยภักดี'

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ทำไมต้องมีพรรคไทยภักดี คำถามที่หลายคนต้องการคำตอบ เพื่อความชัดเจนว่า ทำไมต้องมีพรรคไทยภักดี ตั้งใจอ่านให้จบนะครับ

กษ. ลุยขับเคลื่อน 'ปศุสัตว์' อาชีพหลักเกษตรกร เปิดตลาดส่งออกนอก

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า

รัฐบาล ชี้ FTA ดันไทยส่งออกสินค้าเกษตรอันดับ 1 อาเซียน อันดับ 7 ของโลก

รัฐบาลเพิ่มแต้มต่อสินค้าไทยในตลาดโลกด้วย FTA ดันไทยครองตำแหน่งส่งออกสินค้าเกษตรอันดับ 1 ในอาเซียน และอันดับ 7 ของโลก พร้อมสนับสนุนทุกภาคส่วนเพิ่มรายได้เกษตรกรไทยด้วยการตลาดและนวัตกรรม