‘เสนา’ชี้ตลาดอสังหาปี66 ยังท้าท้ายปัจจัยลบเพียบ

"เสนา" ประเมินตลาดอสังหาฯ ปี 66 ยังเผชิญความท้าท้ายต่อเนื่อง เตรียมปรับโครงสร้างทางธุรกิจ รองรับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงเหนือการควบคุม รุกกลยุทธ์ทำตลาดเจาะกลุ่มที่อยู่อาศัยในระดับที่ผู้บริโภคเอื้อมถึง 1-3 ล้านบาท มั่นใจเป็นตลาดที่ยังเติบโต

13 ต.ค. 2565 - นางเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปีนี้ และปี 2566 ยังคงเป็นความท้าท้ายของผู้พัฒนาอสังหาฯ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง. ) ประกอบกับการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของธนาคารต่างๆ จะทำให้ความสามารถในการกู้ซื้อที่อยู่อาศัยของผู้ซื้อน้อยลง ประกอบกับต้นทุนด้านการก่อสร้างบ้านที่เพิ่มขึ้นประมาณ 10% ขณะที่ราคาที่ดินยังคงอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาบ้านปรับเพิ่มขึ้น 3-5%

อย่างไรก็ตามความต้องการซื้อบ้านและที่อยู่อาศัย ในระดับ 1-3 ล้านบาท ยังเป็นระดับราคาที่ได้รับความนิยม และมีความต้องการของตลาดที่ยังไปได้ โดยประเมินว่าตลาดอสังหาฯ ในปีนี้ จะเติบโตดีกว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อยประมาณ 5-10% เป็นผลจากภาพรวมทางเศรษฐกิจโดยรวม และเงินเดือนของพนักงานยังปรับขึ้นไม่ทันต่ออัตราเงินเฟ้อของประเทศ ทำให้กำลังซื้อยังไม่เพิ่มมากนัก ดังนั้นในปีหน้า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทย ยังมีการแข่งขันที่รุนแรงและต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้เล่นส่วนใหญ่ 80-90% เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และมีการร่วมทุนกับบริษัทต่างชาติ ทำให้มีทั้งแหล่งเงินทุนที่หลากหลาย มีความสามารถในการพัฒนาโครงการต่างๆ และยังสร้างความน่าเชื่อถือในสายตาของผู้บริโภคได้

“ปีหน้าเป็นปีที่เหนื่อยและหนักอีกปีหนึ่ง เพราะจะมีปัจจัยเสี่ยงหลายๆ อย่างที่ควบคุมไม่ได้ และจะกระทบต่อเศรษฐกิจ ทำเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งจะต้องระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจ ที่ต้องหากลยุทธ์เจาะตลาดเพื่อรักษายอดขายให้เติบโต ซึ่งเสนาฯ ยังคงมุ่งพัฒนาในทำเลที่มีศักยภาพใกล้แหล่งงาน ซึ่งยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้บริโภคจะต้องประหยัดมากขึ้น จำเป็นต้องคิดวางแผนเรื่องลดค่าใช้จ่ายให้สอดรับกับรายได้ ซึ่งเสนาฯ มองว่า ยังมีกลุ่มพนักงานที่เช่าที่อยู่อาศัย เปลี่ยนมาเป็นการซื้อที่อยู่อาศัยแทน เพื่อเป็นสินทรัพย์ของตนเอง ลูกค้าในกลุ่มนี้ก็ยังมีโอกาสทำตลาดได้มาก” นางเกษรา กล่าว

นางเกษรา กล่าวว่า การปรับตัวของบริษัทฯ มีแผนปรับโครงสร้างบริษัท เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการบริหารงานของแต่ละบริษัท ยังคงตอกย้ำแนวคิด “Made From Her” คิดละเอียดกว่า ก็อยู่สบายกว่า ส่วนของผลิตภัณฑ์ที่เป็นตลาดแมสก็ยังคงทำอยู่ แต่จะทำให้ดียิ่งขึ้นและทำราคาไม่ให้แพงเพื่อให้ผู้บริโภคสามารถจับต้องและเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่สุดในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 4 จะมีการเปิดโครงการใหม่อีกจำนวน 5 โครงการ มูลค่า 3,972 ล้านบาท โดยทั้งปี 2565 เปิดทั้งหมดจำนวน 16 โครงการ รวมมูลค่า 10,711 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ทางเสนายังคงเป้ายอดขายไว้ 13,979 ล้านบาท และรายได้จากการโอน 12,188 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมี Backlog ยอดขายรอโอน 8,702 ล้านบาท โดยปีนี้สามารถรับรู้อยู่ที่ 6,345 ล้านบาท และทยอยรับรู้ในปีถัดไป