“ศักดิ์สยาม” ปูพรมเร่งลงทุนโครงข่ายคมนาคมในปี66 หวังดันจีดีพีประเทศฟื้นตัว 2.35% เพิ่มขีดความสามารถพลิกโฉมประเทศ พร้อมกางแผนลุยโปรเจกต์ปีนี้ ครอบคลุมบก-น้ำ-ราง-อากาศ
13 ม.ค. 2566 – นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยในการปาฐกถาพิเศษ เรื่อง Thailand Seamless: Moving Forward & Go Green “ประเทศไทย” ก้าวไปข้างหน้าอย่างไร้รอยต่อ มุ่งสู่โลกสีเขียว หัวข้อ “มิติใหม่! “คมนาคม” ก้าวไปข้างหน้าอย่างไร้รอยต่อ” ว่า ในปี 2566 กระทรวงฯ มีแผนผลักดันการลงทุนรวม 124,839 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินงบประมาณ 35,395 ล้านบาท และนอกงบประมาณ 89,443 ล้านบาท
ทั้งนี้โดยในวงเงินส่วนดังกล่าว มีการจัดสรรเพื่อพัฒนาโครงข่ายคมนาคมทางรางสูงสุดด้วยมูลค่ารวม 883,147 ล้านบาท หรือคิดเป็น 66.6% รองลงมา คือ ขนส่งทางถนน มูลค่ารวม 30,960 ล้านบาท คิดเป็น 24.8% ระบบขนส่งทางอากาศมูลค่า 6,331 ล้านบาท คิดเป็น 5.8% และระบบขนส่งทางน้ำ มูลค่า 2,936 ล้านบาท คิดเป็น 2.4% และขนส่งทางบก มูลค่า 597 ล้านบาท
“การลงทุนของกระทรวงคมนาคมในปี 2566 จะก่อให้เกิดการพลิกโฉมประเทศ โดยประชาชนคนไทย และชาวโลกจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็น การจ้างงานที่จะเพิ่มขึ้น 154,000 ตำแหน่ง ประกอบกับวงเงินสะพัดในอุตสาหกรรมก่อสร้าง และอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องอีกราว 1.24 ล้านล้านบาท และสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจสูงถึง2.35% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (GDP) หรือราว 4 แสนล้านบาทต่อปี”นายศักดิ์สยาม กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีโครงการลงทุนอื่นๆ เช่น มอเตอร์เวย์วงแหวนตะวันตก ช่วงบางขุนเทียน – บางบัวทอง วงเงิน 56,035 ล้านบาท มอเตอร์เวย์สายวงแหวนตะวันตก ช่วงบางบัวทอง – บางปะอิน วงเงิน 23,025 ล้านบาท มอเตอร์เวย์สายนครปฐม – ปากท่อ วงเงิน 43,227 ล้านบาท และส่วนต่อขยายยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลเวย์) วงเงิน31,358 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามขณะที่โครงการระบบราง ที่จะผลักดันส่วนต่อขยายรถไฟชานเมืองสายสีแดง 5 โครงการ วงเงินรวมกว่า7 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายในเดือน ก.พ. 2566 ขณะที่ขนส่งทางน้ำที่กระทรวงฯ อยู่ระหว่างผลักดันการจัดตั้งสายการเดินเรือแห่งชาติ การพัฒนาท่าเรือสำราญทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน