ซีอีโอใหม่ 'โออาร์' กางแผนลงทุน 1.1 แสนล้าน เพิ่มสัดส่วนธุรกิจไลฟ์สไตล์

“ดิษทัต” CEO ใหม่ OR กางแผนงบลงทุน 5 ปี กว่า 1.1 แสนล้าน โดยปี 66 ทุ่มกว่า 3.1 หมื่นล้าน แบ่ง 45% ในกลุ่มธุรกิจไลฟ์สไตล์ พร้อมผลึกกำลังกลุ่มปตท. เป็นผู้นำโครงสร้างพื้นฐาน EV ไทย มั่นใจเศรษฐกิจฟื้น ดันยอดขายน้ำมันปี 66 ขยายตัว

20 ม.ค. 2566 – นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)หรือ OR เปิดเผยว่า ในโอกาสที่ได้เข้ารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมสานต่อวิสัยทัศน์ “Empowering All toward Inclusive Growth” หรือ “เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโตร่วมกัน” และมุ่งผลักดันORให้ทะยานไปสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน สำหรับแผนดำเนินธุรกิจ 5 ปีนั้น OR ได้เตรียมแผนงบลงทุนที่ 1.1 แสนล้านบาท ในขณะที่งบลงุทุนปี 2566 จะใช้งบลงทุนที่ 31,000 ล้านบาท แบ่งเป็น กลุ่มธุรกิจ Seamless Mobility ที่ 22%, กลุ่มธุรกิจ All Lifestyles ที่ 45% , กลุ่มธุรกิจ Global Market ที่ 16% และ กลุ่ม OR Innovation ที่ 17% แบ่งเป็น

ขณะที่ 1. Ecosystem Design หรือ การออกแบบระบบนิเวศสำหรับธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ตั้งเป้าปี 2030 จะติดตั้งตู้ชาร์จไฟฟ้าครบ 7,000 ตู้ จากปัจจุบันกว่า 300 ตู้ชาร์จ เมื่อรวมกับสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ราว 800 ตู้ชาร์จ เพื่อให้ประชาชนสามารถได้เข้าถึงการใช้งานที่ครอบคลุม พร้อมพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่อง่ายต่อการใช้งาน สามารถตรวจสอบว่ามีตู้ชาร์จอยู่ที่สถานีไหนบ้าง จะส่งผลให้ OR มีอีโคซิสเต็ม และเกิดพาร์ทเนอร์ชิปอีวีในไทย

“OR จะเป็นผู้นำด้านอีโคซิสเต็มอีวี รองรับไลฟ์สไตล์ผู้ใช้งาน และเพื่อก้าวสู่ความยั่งยืนจะต้องคุยกับพาร์ทเนอร์ โดยจะหารือในเรื่องของกฎเกณฑ์ของสัญญาธุรกิจสถานีพีทีที สเตชั่น ซึ่งสาขาอนาคตที่จะเปิดใหม่ต้องมีองค์ประกอบด้านพลังงานสะอาดที่มาจากโซลาร์ รูฟ โดยขณะนี้ได้หารือกับบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ หรือ GPSC แกนนำนวัตกรรมธุรกิจไฟฟ้ากลุ่ม ปตท. เพื่อทำระบบกักเก็บพลังงาน สร้างอีโคซิสเต็มด้านพลังงานสะอาด อีกไม่เกิน 2 เดือนจะประกาศแผนให้ทราบอีกครั้ง”นายดิษทัต กล่าว

2.Professional Managementหรือ การพัฒนาบุคลากรภายในควบคู่กับการสรรหาพันธมิตร ที่มีความเชี่ยวชาญจากภายนอก โดยเป้าหมายหลักการทำงานต่อจากนี้ คือ สานต่อวิสัยทัศน์ที่ครอบคลุมการให้โอกาสในการดำเนินธุรกิจ จึงอยากทำให้ธุรกิจปัจจุบันแข็งแกร่ง ขับเคลื่อนองค์กร และผู้บริหารให้มีแนวคิดและกลยุทธ์เดียวกัน พร้อมกับหาธุรกิจใหม่เพื่อความก้าวหน้า และสร้างความเข้มแข็งให้กับพันธมิตรและ OR

3.Strategic Allianceหรือ การสร้างพันธมิตรเพื่อหาโอกาสขยายธุรกิจทั้งภายในและต่างประเทศ ทั้งนี้ จากการที่ตนมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจต่างประเทศ สิ่งสำคัญคือ จะต้องรู้เขารู้เรา ดังนั้น การลงทุนในประเทศใหม่ ๆ จะต้องหาพาร์ทเนอร์ให้เจอ พร้อมกับวิเคราะห์และทำงานร่วมกัน ดังนั้น คณะกรรมการ OR ทุกคนจะต้องช่วยกันผลักดัน ส่วนนโยบายการแทรกแซงทางการเมืองนั้น ยืนยันว่า OR ดำเนินธุรกิจมายาวนาน ที่ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำคือ การร่วมทำงานกับทุกภาคส่วนทั้งพาร์ทเนอร์และรัฐบาล

และ 4. Sustainability Criteriaหรือการกำหนดหลักเกณฑ์ด้านPeople & Planetซึ่งในการตอบโจทย์สังคมและสิ่งแวดล้อม OR จะสร้างความรู้สึกให้กับผู้ใช้บริการเมื่อเข้ามายังสถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่น จะเห็นการเปลี่ยนแปลงในปั๊มน้ำมันที่มีสีเขียวมากยิ่งขึ้น รวมถึงจำนวนตู้ชาร์จอีวี และทุกอย่างที่เป็นพลังงานสะอาดมากขึ้น

“สถานีน้ำมัน หรือคลังน้ำมันของ OR ในระยะ 5 กิโลเมตร ต้องทำให้ชุมชนบริเวณนั้น ๆ มีความสุข พร้อมกำหนดกฎเกณฑ์ ข้อบังคับในเรื่องของความยั่งยืนกับพันธมิตร เช่น สถานีบริการน้ำมันต่อจากนี้จะมุ่งสู่กรีนมากยิ่งขึ้น อาทิ การติดตั้งโซลาร์ รูฟ หรือแม้กระทั้งแก้วกาแกที่อเมซอน ก็จะต้องเป็นแก้วไบโอเพื่อนำมารีไซเคิลหรือย่อยสลายได้ง่าย”นายดิษทัต กล่าว

นายดิษทัต กล่าวว่า สำหรับภาพรวมของการเติบโตของธุรกิจในปีนี้นั้น หากดูในเชิงสภาพแวดล้อม และการท่องเที่ยวดีขึ้น ซึ่ง OR ทำธุรกิจค้าขายน้ำมัน เมื่อดีมานด์เพิ่มขึ้นก็จะซัพพลายผลิตภัณฑ์ได้ดีขึ้น จึงมั่นใจว่ากลุ่ม Mobility ในส่วนของยอดขายน้ำมันก็จะโตจากปี 2565 แน่นอน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

OR สนับสนุนสถาบันคึกฤทธิ์ ๘๐ สืบสานมรดกศิลปวัฒนธรรมไทย

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ประธานกรรมการมูลนิธิคึกฤทธิ์ ๘๐ ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี

ข่าวดี OR ไม่ปรับขึ้นราคาน้ำมัน 6 วันช่วงสงกรานต์

พีทีที สเตชั่น จะไม่ปรับขึ้นราคาน้ำมันทุกชนิดระหว่างวันที่ 12-17 เม.ย. 67 รวม 6 วัน และหากราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงก็จะปรับราคาน้ำมันลงตาม อีกทั้งเตรียมความพร้อมให้ พีทีที สเตชั่น ทุกแห่งให้มีน้ำมันเพียงพอในช่วงเทศกาล และเป็นจุดแวะพักระหว่างเดินทาง พร้อมมอบโปรโมชั่นมากมายสำหรับผู้เดินทาง

OR เสริมแกร่งธุรกิจจับมือ อะมอเร่แปซิฟิค ขยายธุรกิจความงาม

OR เสริมความแข็งแกร่งด้านธุรกิจไลฟ์สไตล์อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ร่วมกับ อะมอเร่แปซิฟิค (Amorepacific) หนึ่งในผู้นำผลิตภัณฑ์ด้านความงามในเกาหลีใต้ เดินหน้ารุกตลาดสุขภาพและความงาม (Health and Beauty) ของไทย มุ่งสร้างประสบการณ์การชอปปิ้ง สินค้าที่หลากหลายตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า ตั้งเป้าเปิดตัวสาขาแรกกลางปี 2567 นี้