
“พาณิชย์”ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รายการใหม่ “กล้วยหอมทองพบพระ” จ.ตาก มั่นใจช่วยให้สินค้าเป็นที่รู้จัก เพิ่มมูลค่า และสร้างรายได้ให้ท้องถิ่นมากขึ้น เผยปัจจุบันมีขายอย่างแพร่หลายในท็อปส์ และวิลล่า มาร์เก็ต และยังส่งออกไปได้ถึงญี่ปุ่น สร้างรายได้ให้ชุมชนรวมกว่าปีละ 440 ล้านบาท
2 ก.พ. 2566 – นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) กล้วยหอมทองพบพระ จ.ตาก ซึ่งเป็นสินค้า GI รายการที่ 3 ของจังหวัด ตามหลังแปจ่อเขียวแม่สอด (ถั่วทอด) และครกหินแกรนิตตาก ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนก่อนหน้านี้ โดยจะทำให้สินค้าชุมชนท้องถิ่นเป็นที่รู้จักมากขึ้น ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่นที่ปลูกกล้วยหอมทองพบพระได้มากขึ้น
สำหรับกล้วยหอมทองพบพระ เป็นกล้วยพันธุ์กล้วยหอมทองที่ปลูกในพื้นที่อำเภอพบพระ ด้วยสภาพอากาศร้อนชื้น ฝนตกสม่ำเสมอ ทำให้กล้วยหอมทองพบพระมีรสชาติหอมหวาน เป็นเอกลักษณ์ เนื้อสัมผัสแน่น เหนียวหนึบ ผลโค้งคล้ายรูปตัวแอล ปลายผลมีจุกคล้ายดินสอ เปลือกบางและผลสุกสีเหลืองทองสม่ำเสมอกัน ซึ่งกล้วยหอมทองพบพระ 1 เครือ มีน้ำหนักถึง 14 กิโลกรัม
ปัจจุบันกล้วยหอมทองพบพระ เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และมีจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป เช่น ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และวิลล่า มาร์เก็ต และยังเป็นซอฟต์พาวเวอร์เผยแพร่อัตลักษณ์ไทยสู่นานาชาติ มีตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ ญี่ปุ่น มีมูลค่าส่งออกถึง 27 ล้านบาทต่อปี และสร้างรายได้ให้เกษตรกรในชุมชนรวมกว่า 440 ล้านบาทต่อปี อีกทั้งในการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปก (APEC 2022) ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ยังได้ผลักดันกล้วยหอมทองพบพระ ให้เป็นหนึ่งในสินค้า GI ที่ร่วมแสดงอัตลักษณ์ความเป็นไทยในโอกาสพิเศษนี้ด้วย
สำหรับวิสาหกิจชุมชน หรือชุมชนท้องถิ่น ที่มีสินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่น มีคุณลักษณะเฉพาะของแหล่งภูมิศาสตร์ และเป็นสินค้าที่มีคุณภาพมีชื่อเสียง สามารถขอคำปรึกษาเพื่อยื่นคำขอขึ้นทะเบียน GI ได้ที่ศูนย์บริการประชาชน ชั้น 3 กรมทรัพย์สินทางปัญญา หรือสายด่วนกรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร. 1368
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
2 เดือนแรกของปี 66 ต่างชาติขนเงินลงทุน 2.6 หมื่นล้านโต 305% จีนนำเบอร์หนึ่ง
2 เดือนแรกปี ‘66 ต่างชาติลงทุนในไทย 26,756 ล้านบาทเพิ่มขึ้นกว่า 305 % จีนเบียดขึ้นแท่นลงทุนอันดับหนึ่ง 10,987 ล้านบาท ตามด้วย ญี่ปุ่น 8,545 ล้านบาท และสิงคโปร์ 3,090 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 1,651 คน
'พาณิชย์' เผยสถิติจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาช่วงโควิดพุ่งเฉลี่ยปีละ 60,000 คำขอ
“พาณิชย์”เผยสถิติจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา 3 ปี โควิด-19 พบยื่นคำขอพุ่งทะลุปีละกว่า 6 หมื่นคำขอ ลดลงจากช่วงก่อนโควิด-19 เล็กน้อย ยกเว้นการยื่นจดสิทธิบัตรยา เวชภัณฑ์ สินค้าป้องกันโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น ตอกย้ำไทยให้ความสำคัญกับการปกป้อง คุ้มครอง และใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญา ระบุ WIPO ยังจัดอันดับไทยอยู่ที่ 43 ของโลก ในฐานะประเทศมีความสามารถด้านนวัตกรรม
พาณิชย์ ดึง 'บัวขาว' และ 'แอนนา เสือ' เปิดตัวกางเกงมวยผ้าไหมไทยครั้งแรกในโลก
“สินิตย์”เผยสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย เตรียมจัดงาน “Andaman Craft Festival” 12 มี.ค.นี้ ที่ภูเก็ต ชูจุดขายสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยว ผ่านงานศิลปหัตถกรรมไทย ดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ พร้อมเชิญ “บัวขาว” และ “แอนนา เสือ” เปิดตัวกางเกงมวยผ้าไหมไทยครั้งแรกในโลก หวังช่วยกระตุ้นตลาดสินค้าของที่ระลึกภาคใต้ มั่นใจโกยเม็ดเงินกว่า 2 พันล้านบาท
‘สินิตย์’ มอบตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ให้ร้านอาหารไทย 217 ร้าน
“สินิตย์”มอบตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ประจำปี 2565 ให้กับร้านอาหารไทยที่ผ่านเกณฑ์ 217 ร้าน พร้อมดึงหน่วยงานพันธมิตร แกร๊บ ไลน์แมน แอร์เอเชีย ซุปเปอร์แอป บัตรกรุงไทย ร่วมจัดแคมเปญ “ชวน ฟิน กิน Thai SELECT” แจกส่วนลดอื้อ “ทศพล” เผยจะตรวจคุณภาพร้านอาหารต่อเนื่อง ไม่ผ่านเกณฑ์ปลดออก พร้อมเดินหน้ารับสมัครรายใหม่เพิ่ม ปิ้งไอเดียให้ตรา Thai SELECT ร้านสตรีท ฟู้ด หลังผู้ประกอบการร้องขอ
ขึ้นทะเบียน GI ‘ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา’
“พาณิชย์”ประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) รายการใหม่ “ทุเรียนสะเด็ดน้ำยะลา” มั่นใจช่วยเพิ่มมูลค่าให้สินค้า สร้างรายได้ให้ชุมชน และมีโอกาสส่งออกขายจีนและมาเลเซียเพิ่มขึ้น เผยราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 190 บาท สร้างรายได้ให้จังหวัดยะลากว่า 2,800 ล้านบาทต่อปี คาดหลังจากนี้ สร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีกแน่
'สินิตย์' โชว์ผลสำเร็จการขึ้นทะเบียน GI ปี 65 ทำได้ 25 รายการ
“พาณิชย์”โชว์ผลสำเร็จการขึ้นทะเบียน GI ปี 65 ทำได้รวม 25 รายการ ส่งผลให้มีสินค้า GI ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้วรวม 177 สินค้า สร้างมูลค่าการตลาดรวมกว่า 48,000 ล้านบาท เผยปี 66 เตรียมลุยผลักดันขึ้นทะเบียนต่อ ตั้งเป้า 20 สินค้า พร้อมเดินหน้าควบคุมคุณภาพ เพิ่มช่องทางขายทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ ดันแหล่งผลิตเป็นสถานที่ท่องเที่ยว