'จุรินทร์' ปักหมุดเยือนยูเออี 6-7 ขับเคลื่อนการค้า -การส่งออก

“จุรินทร์” ปักหมุดวันที่ 6-7 ก.พ. นี้ เตรียมนำคณะผู้แทนการค้าภาครัฐ-เอกชน เยือนตลาดสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาง 5 กิจกรรม ขับเคลื่อนเพิ่มยอดการค้า การส่งออก ตั้งเป้าหมายตีตลาดยูเออี หนุนส่งออกไทยเพิ่มไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท

5 ก.พ. 2566 – นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เตรียมนำคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและภาคเอกชน ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) และสมาพันธ์โลจิสติกส์ไทย เดินทางไปเยือนสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในวันที่ 6-7 ก.พ.2566 เพื่อขับเคลื่อนกิจกรรมในการขยายการค้า การลงทุน และเพิ่มยอดการส่งออกให้กับประเทศจำนวน 5 กิจกรรม

โดยกิจกรรมที่ 1. จะพบกับรัฐมนตรีการค้าต่างประเทศของยูเออี เพื่อหารือการทำข้อตกลงทางการค้าร่วมกันต่อไปในอนาคต กิจกรรมที่ 2. จะนับหนึ่งการลงนามจัดตั้งสภาธุรกิจไทย-ยูเออี ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายอยากให้มีสภาธุรกิจเกิดขึ้น โดยจะช่วยให้เอกชนทั้ง 2 ฝ่าย ค้าขายระหว่างกัน พัฒนาการค้าระหว่างกันได้ในเวลาที่รวดเร็ว กิจกรรมที่ 3. ลงนาม MOU ร่วมกันระหว่างภาคเอกชนไทยที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ หรือระบบการขนส่งกับดูไบเวิลด์ (DP World) ซึ่งจะช่วยให้การบริการไทยส่งสินค้าไปยังท่าเรือและสนามบินทั่วโลกได้รับสิทธิพิเศษหลายประการ กิจกรรมที่ 4. นำคณะเอกชนไทยไปขายสินค้าให้กับยูเออี คาดว่าครั้งนี้ 2 วัน จะขายได้ไม่ต่ำกว่า1,000 ล้านบาท และกิจกรรมที่ 5. เปิดตลาดไทยในยูเออี ซึ่งจะมีสินค้าไทยจำหน่ายไม่ต่ำกว่า30คูหา

“คาดว่าการเดินทางไปครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกให้ไทยทั้งปี มีผลต่อเนื่องในปี 2566เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท โดยตลาดยูเออีในปีนี้ตั้งเป้าส่งออกไว้ 148,000 ล้านบาท สินค้าที่เป็นดาวรุ่ง เช่น รถยนต์ เครื่องปรับอากาศ อัญมณี ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เป็นต้น”นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพยุโรป (อียู) ว่า เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบกรอบการเจรจา FTA ไทย-อียู โดยเมื่อ ครม. ให้ความเห็นชอบแล้ว จะขออนุมัติจาก ครม. ให้ รมว.พาณิชย์เป็นผู้ประกาศเรื่องเปิดการเจรจาร่วมกับผู้แทนของสหภาพยุโรปต่อไป

“สหภาพยุโรปมีการทำ FTA กับกลุ่มประเทศอาเซียนแล้ว 2 ประเทศ คือ สิงคโปร์และเวียดนาม ถ้าเป็นไปตามที่คาดการณ์ ไทยจะเป็นประเทศที่ 3 ในอาเซียน ซึ่งผมและรองนายกฯ อียู ตั้งเป้าเร่งกระบวนการภายใน เพื่อประกาศนับหนึ่งการเจรจาให้เสร็จภายในไตรมาสแรกของปีนี้ และจะเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย โดยไทยจะได้แต้มต่อทั้งการค้าสินค้า การค้าบริการ และการท่องเที่ยว กับ 27 ประเทศที่เป็นสมาชิก” นายจุรินทร์ กล่าว

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ก.ก.แตะ'ทักษิณ'แค่ผิว ปชป.ติดหล่มร่วมรัฐบาล

การอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ระหว่างวันที่ 3-4 เม.ย. ถือเป็นเวทีของฝ่ายค้าน นำโดย พรรคก้าวไกล และ พรรคประชาธิปัตย์ สังคมคาดหวังจะมีการเปิดแผลให้รัฐบาลก่อนปิดสมัยประชุม 9 เม.ย.นี้

'เสี่ยอ้วน'ชวนกินหมู!

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีหมูและไข่ไก่ที่ล้นตลาดแต่ราคายั