กสิกรฯ ชี้เศรษฐกิจไทยปี 65 โตหลุดเป้าที่ 2.6%

เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4/2565 ขยายตัวต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2566 ที่ 3.7% จากแรงหนุนของภาคการท่องเที่ยวเป็นหลัก แม้การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจะกดดันการส่งออกไทย

20 ก.พ. 2566 – ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ออกรายการวิเคราะห์เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/2565 พบว่า ขยายตัวต่ำกว่าคาดที่ 1.4% YoY ส่งผลให้ทั้งปี 2565 เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพียง 2.6% YoY ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 3.2% YoY

ทั้งนี้ ตัวเลข GDP ของไทยในไตรมาส 4/2565 มีปัจจัยกดดันหลักมาจากส่งออกสินค้าที่หดตัวถึง -10.5% YoY ตามโมเมนตัมเศรษฐกิจโลกที่ชะลอลง

นอกจากนี้ การบริโภคภาครัฐก็หดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่การลงทุนภาครัฐก็ขยายตัวต่ำกว่าคาด เนื่องจากการใช้จ่ายและลงทุนที่เกี่ยวข้องกับโควิดนั้นลดลงอย่างมาก ประกอบกับอัตราการเบิกจ่ายนั้นแม้จะสูงกว่าในไตรมาสก่อนหน้า แต่ก็ต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่ ในด้านปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 4/2565 การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว ส่งผลให้การส่งออกในภาคบริการนั้นขยายตัวในอัตราที่เร่งขึ้นที่ 94.6% YoY ซึ่งการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวก็ได้ส่งผลต่อเนื่องไปยังการจ้างงาน รวมถึงการบริโภคภาคเอกชนที่ยังขยายตัวได้ดีที่ 5.7% YoY ในไตรมาส 4/2565 แม้จะชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ขยายตัวได้ถึง 9.1%

สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทยที่ 3.7% ซึ่งสูงกว่าประมาณการของสภาพัฒน์ที่ 2.7-3.7% (ค่ากลางอยู่ที่ 3.2%) จากแรงหนุนของภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงจะเป็นขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยต่อเนื่องไปในปีนี้ แม้การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกอาจกดดันการส่งออกไทยให้หดตัวเล็กน้อยในปีนี้ อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า เศรษฐกิจโลกอาจไม่ชะลอตัวลงแรงอย่างที่เคยคาดการณ์ไว้ เนื่องจากการเปิดประเทศของจีนคงส่งผลให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวในอัตราที่สูงขึ้น ซึ่งคงส่งผลบวกต่อไปยังการค้าและเศรษฐกิจโลกโดยรวม ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ แม้จะเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลง แต่ตัวเลขตลาดแรงงานและยอดค้าปลีกล่าสุด ยังคงสะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีความแข็งแกร่ง ซึ่งอาจส่งผลให้การเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิคของเศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้นล่าช้าออกไปจากเดิม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศูนย์วิจัยกสิกร คาดดิจิทัลวอลเล็ต ดันยอดขายค้าปลีกโต 1%

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยแพร่บทวิเคราะห์ โครงการ Digital Wallet โดยชี้ จะส่งผลต่อยอดค้าปลีกมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับหลายเงื่อนไข ไม่ว่าจะเป็น การกำหนดพื้นที่ และประเภทร้านค้า นอกเหนือจากประเด็นทางด้านกฎหมาย รวมถึงระบบใช้งานของแอปพลิเคชัน ที่ยังต้องรอติดตามว่า จะใช้ที่ไหน อย่างไร? ซึ่งการกำหนดเงื่อนไขต่างๆ อาจส่งผลต่อร้านค้าปลีก และพฤติกรรมการใช้เงินของผู้บริโภคที่ต่างกัน ดังนี้