
‘สุพัฒนพงษ์’ ลั่นค่าไฟงวดใหม่ ไม่ปรับขึ้น พร้อมหาแนวทางลดเหลืออัตราเดียว ตัดพ้อการส่งออกของประเทศไม่ดี กฟผ.อุ้มหนี้อีกแสนล้าน กกพ. เผยตามมติ กพช. คุมค่าไฟ งวดพ.ค.-ส.ค.ต่ำกว่า 5 บาทแน่นอน
9 มี.ค. 2566 – นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยในงาน THE NEXT THAILAND’S FUTURE : จุดเปลี่ยนประทศไทยสู่ความยั่งยืน ว่า แนวโน้มค่าไฟฟ้าเดือน พ.ค.-ส.ค.2566 ว่าค่าไฟฟ้าจะเหลืออัตราเดียวทั้งภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม จากเดิมที่ใช้ค่าไฟฟ้า 2 อัตรา คือค่าไฟสำหรับครัวเรือนอยู่ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย และค่าไฟของภาคอุตสาหกรรม 5.33 บาทต่อหน่วย โดยการปรับลดลงของภาคอุตสาหกรรมมาเท่ากับภาคครัวเรือนนั้นเป็นไปตามแนวนโยบายที่ต้องช่วยดูแลผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกถดถอย ที่ทำให้ภาคการส่งออกได้รับผลกระทบ
ขณะที่ ค่าไฟฟ้าของภาคครัวเรือนซึ่งอยู่ที่ 4.72 บาทต่อหน่วยในงวดนี้ในฐานะผู้กำกับนโยบายได้มอบหมายนโยบายให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) แล้วว่าไม่ควรที่จะปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนการผลิตไฟฟ้าคือก๊าซธรรมชาติมีแนวโน้มลดลงในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ในส่วนของค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ปรับเพิ่มเป็น 98 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งเมื่อรวมค่าไฟฐานแล้ว ทำให้ค่าไฟจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4.75 บาทต่อหน่วย หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 0.3 บาทต่อหน่วย นั้น มองว่า ประเด็นนี้ ฝ่ายนโยบายสามารถดูแลได้
” ในฐานะผู้กำกับนโยบาย มองว่า ราคาค่าไฟในงวดหน้า ไม่ควรที่จะปรับขึ้นและกลับมาใช้อัตราเดียวเท่ากันระหว่างภาคครัวเรือนและอุตสาหกรรม ซึ่งต้องดูแลทั้งสองภาคส่วนโดยภาคครัวเรือนต้องดูแลในค่าครองชีพ และภาคอุตสาหกรรมก็ต้องดูแลในช่วงที่ภาวะการส่งออกของประเทศไม่ดี นอกจากนี้ ยังมีภาระสำคัญที่ต้องดูไม่ให้เกิดผลกระทบกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ที่ต้องได้รับการชดเชยจากการแบกรับค่าเอฟที เมื่อปีที่ผ่านมา กว่าแสนล้านบาท ซึ่งก็ต้องดูว่าจะชดเชยกลับคืนให้ กฟผ.ได้อย่างไรอีกด้วย “สุพัฒนพงษ์ กล่าว
ด้านนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ว่าการกำหนด เอฟที งวดใหม่เดือนพ.ค.-ส.ค.2565 อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ซึ่งกำลังเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ซึ่งที่ประชุม ได้เน้นย้ำให้ กกพ. คำนึงถึงผลกระทบที่มีต่อประชาชน และขอให้รับฟังความคิดเห็นครอบคลุมทุกด้าน โดยเฉพาะขณะนี้ราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นต้นทุนเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าปรับลดลงแล้ว
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขานุการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับทราบข้อห่วงใยจาก กพช. แล้ว โดยอัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยที่เรียกเก็บกับประชาชนงวดเดือนพ.ค.-ส.ค.2566 จะต่ำกว่า 5 บาท/หน่วยแน่นอน ส่วนรายละเอียดจะกำหนดเป็นอัตราเดียวกันทั้งประเทศหรือไม่ กกพ.มีกำหนดการชี้แจงอีกครั้งในวันที่ 10 มี.ค.นี้ ซึ่งมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นวันที่ 10-20 มี.ค.2566 เพื่อนำเสนอให้ที่ประชุม กกพ. พิจารณาในวันที่ 22 มี.ค. ก่อนประกาศอย่างเป็นทางการช่วงต้นเดือนเม.ย.2566 ให้ทันการบังคับใช้ในเดือนพ.ค.2566
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปตท.เผยแนวโน้มราคาแอลเอ็นจีขาลง ชี้ส่งผลดีค่าไฟฟ้าปลายปีถูก
ปตท. เผยแนวโน้มสปอตแอลเอ็นจีเหลือ 9 เหรียญฯ ลุ้นค่าไฟปลายปีถูกลง ลุยสต๊อกจนถึงปลายปี พร้อมเผยราคาน้ำมันอยู่ในระดับ 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
เช็กเลย! ยอดค่าไฟเดือน พ.ค. หลังปรับส่วนลด ผ่านแอปฯ MEA
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2566
กกต.ไฟเขียวใช้งบกลางหมื่นล้าน ช่วยเหลือค่าไฟแพง
กกต.เห็นชอบใช้งบกลางหมื่นล้าน ช่วยเหลือค่าไฟแพง บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน
กกต. มีมติเห็นชอบใช้งบกลางหมื่นล้าน รัฐบาลช่วยลดภาระค่าไฟประชาชน
ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้มีหนังสือขอความเห็นชอบกรณีการใช้จ่ายงบประมาณสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 163 (3) ของกระทรวง
กกพ.ลุ้นค่าไฟปลายปีลด 23-50 สตางค์ต่อหน่วย
กกพ.ลุ้นค่าไฟปลายปีลด 23-50 สตางค์ต่อหน่วย จับตาการผลิตก๊าซในอ่าวไทยได้ตามแผน พร้อมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
‘วิษณุ’ เผย กกต. ยังไม่ตอบกลับ ปมขออนุมัติเงินอุ้มค่าไฟแพง
ที่ทำเนียบรัฐบาลนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำหนังสือขออนุมัติ