เลขาฯอีอีซี ดึงเอกชนลงทุนหวังจ้างงานฟื้น

เลขา ‘อีอีซี’ ลงพื้นที่ตรวจงาน 2 โครงการสำคัญสนามบิน “อู่ตะเภาฯ – ท่าเรือมาบตาพุด” เร่งเครื่องเดินหน้าโครงการลุยดึงเอกชนร่วมลงทุน หวังสร้างการลงทุนในพื้นที่ให้เกิดการจ้างงาน

30 เม.ย. 2566 – นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ อีอีซี เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาโครงการโครงสร้างพื้นฐานหลัก (EEC Project list) จำนวน 2 โครงการ ซึ่งเป็นการร่วมทุนรัฐและเอกชน (PPP) ที่อีอีซี ได้ผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่ 1.โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ที่ขณะนี้ได้เริ่มงานก่อสร้างส่วนระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่โครงการ ตั้งเป้าจะเปิดให้บริการภายในปี 2570

และ 2.โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ที่งานก่อสร้างเดินหน้าลุล่วงด้วยดี เกิดการพัฒนาโครงการฯ ไปแล้วกว่า 43.72% ทำได้เร็วกว่าแผนที่ตั้งไว้ โดยคาดว่าโครงการท่าเรือมาบตาพุดฯ จะสามารถก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการท่าเรือก๊าซ ส่วนที่ 1 ภายในปี 2570 เพื่อสร้างความมั่นใจการผลักดันโครงสร้างพื้นฐานหลักในอีอีซี ประกาศความพร้อมจูงใจนักลงทุนอุตสาหกรรมนวัตกรรมขั้นสูง ตามกรอบเศรษฐกิจ BCG กระตุ้นให้เกิดเงินลงทุนขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศใน 5 ปี 2566–2570 ปีละ 400,000 ล้านบาท เศรษฐกิจไทยเติบโต 4.5– 5% ได้ต่อเนื่อง
นายจุฬา กล่าวต่อว่า สำหรับความก้าวหน้าของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกนั้น ในส่วนของภาครัฐ อยู่ระหว่างการเตรียมออกประกาศเชิญชวนผู้รับจ้างงานทางวิ่งที่ 2 คาดว่าจะดำเนินการใน พ.ค. 2566 นี้ และอยู่ระหว่างส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างให้กับ UTA คาดว่าจะส่งมอบในช่วงไตรมาส 3 ปี 2566 สำหรับโครงการพัฒนาท่าเรือมาบตาพุด ถือเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อีอีซี เพื่อรองรับการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติและวัตถุดิบเหลวสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมเหล็กครบวงจร และในอุตสาหกรรมต่อเนื่อง สร้างการลงทุนในพื้นที่ส่งผลให้เกิดการจ้างงาน และประชาชนในพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้น

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โฆษกรัฐบาล เผยสนามบินสุวรรณภูมิ ติดอันดับ 58 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐนตรี เปิดเผยถึงผลสำเร็จจากการทำงานของรัฐบาลตามวิสัยทัศน์ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายก