
‘ขนส่งทางบก’ เตรียมพร้อมมาตรการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชน ในช่วงวันหยุดต่อเนื่องวันฉัตรมงคล เน้นย้ำตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและผู้ขับรถทั้งก่อนและระหว่างเส้นทางตลอด 24 ชั่วโมง
3พ.ค.2566-นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก(ขบ.) เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกได้สั่งการทุกหน่วยงานในสังกัดดำเนินการตามแผนอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงวันหยุดต่อเนื่องวันฉัตรมงคล ระหว่างวันที่ 4 – 7 พฤษภาคม 2566 ตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงคมนาคม เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน รวมทั้งเสริมสร้างจิตสำนึกความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน โดยกำชับไปยังสำนักงานขนส่งทั่วประเทศให้ดำเนินการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน จัดหารถโดยสารประจำทาง และรถโดยสารไม่ประจำทางให้เพียงพอกับความต้องการเดินทางของประชาชน ตรวจสอบความพร้อมของพนักงานขับรถและสภาพรถให้มีความปลอดภัยทั้งเที่ยวไปและเที่ยวกลับ
ทั้งนี้ได้มีการจัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะชั่วคราว ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับเรื่องร้องเรียน และป้องกันมิให้ผู้โดยสารถูกเอารัดเอาเปรียบจากการใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ กำกับ ดูแล สถานที่ รวมทั้งจัดระเบียบการเดินรถและการจราจรภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารทุกแห่งในเขตกรุงเทพมหานคร และสถานีขนส่งผู้โดยสารในพื้นที่ต่างจังหวัด การรักษาความสะอาดภายในสถานีขนส่ง การติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างภายในชานชาลาให้เพียงพอ และตรวจสอบการทำงานของกล้อง CCTV ให้สามารถใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นายจิรุตม์ กล่าวว่า ช่วงก่อนวันหยุดต่อเนื่อง กรมการขนส่งทางบก ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจความพร้อม ณ สถานประกอบการของผู้ประกอบการขนส่ง, ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร 125 แห่ง และจุดจอดรถทุกแห่งทั่วประเทศ 53 แห่ง เพื่อตรวจความพร้อมของรถ และความพร้อมของผู้ขับรถก่อนนำรถออกให้บริการตามแบบ Checklist เช่น การมีใบอนุญาตขับรถที่ถูกต้อง ตรวจความพร้อมด้านร่างกาย และการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในลมหายใจ เป็นต้น รวมทั้งกำชับให้ผู้ประกอบการและคนขับรถต้องปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกและกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ รวมทั้งกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบกอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการขนส่งสินค้าเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้งานรถบรรทุกในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง ในช่วงระหว่างวันหยุดต่อเนื่อง จะประสานความร่วมมือกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่สุ่มตรวจสารเสพติดของพนักงานขับรถสาธารณะ รวมทั้งมีการตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะ ณ สถานีขนส่งผู้โดยสาร และจุดจอด จุดตรวจ Checking Point 25 แห่ง บนถนนสายหลักและสายรองทั่วประเทศ ทั้งนี้ ศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS ทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังการใช้ความเร็วและชั่วโมงการทำงานผู้ขับรถรถโดยสารสาธารณะเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ตลอด 24 ชั่วโมง โดยตรวจสอบจากระบบ GPS ควบคู่กับการจัดผู้ตรวจการออกตรวจสอบความเร็ว ซึ่งหากตรวจพบพนักงานขับรถทำผิดจะดำเนินการลงโทษผู้ฝ่าฝืนอย่างเด็ดขาดต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กรมการขนส่งทางบก เปิดงานกิจกรรมการแข่งขัน “สุดยอดนายช่างขนส่ง ครั้งที่ 1” ภายใต้โครงการนายช่างตรวจสภาพรถต้นแบบ ประจำปี พ.ศ. 2566
วันนี้ (26 สิงหาคม 2566 ) เวลา 10.00 น. ณ เติมสุข สตูดิโอ รามอินทรา 14 กรุงเทพมหานคร นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เปิดงานกิจกรรมการแข่งขัน
รวบ 2 ตัวการใหญ่ แก๊งสวมทะเบียนรถเจาะข้อมูลระบบขนส่ง ยึดของกลาง 65 คัน 77 ล้าน
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. ในฐานะผอ.ศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบกพล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท.
'รถ-เรือโดยสาร' สมัครให้บริการโครงการสวัสดิการแห่งรัฐได้แล้วตั้งแต่วันนี้
รัฐบาลแจ้ง 'รถ-เรือโดยสาร' สมัครเป็นผู้ให้บริการ ตามโครงการสวัสดิการแห่งรัฐได้แล้วตั้งแต่วันนี้ เริ่มให้บริการ 1 ต.ค.2566 เป็นต้นไป
‘บขส.’ สั่งเพิ่มโทษรถตู้ย้ำบรรทุกเกินที่นั่งปรับ 5 พัน พักรถ 7 วัน
ปัญหารายวัน “บขส.” ตรวจเข้มความปลอดภัยรถตู้โดยสารสาธารณะ ย้ำห้ามบรรทุกผู้โดยสารเกินที่นั่ง ตรวจพบลงโทษปรับ 5,000 บาท พักรถ 7 วัน ด้านขนส่งฯ สั่งปรับ 3,000 บาท แท็กซี่ไม่กดมิเตอร์
เชิญชวนผู้ใช้รถรับจ้างผ่านแอป เพื่อความปลอดภัย ขนส่งทางบกให้การรับรองแล้ว7 ราย
รองโฆษกรัฐบาล เชิญชวนผู้ใช้รถรับจ้างผ่านแอป เลือกรับบริการผ่านระบบที่มีการรับรองและจดทะเบียนตามกฎหมาย เพื่อความปลอดภัย ได้รับบริการและราคาที่เป็นธรรม ล่าสุดกรมขนส่งทางบกให้การรับรองแล้ว 7 ราย
คมนาคมเร่งศูนย์ขนส่งนครพนมเปิดให้บริการปี68
'กรมขนส่ง’จัดพิธียกเสาเอกอาคารสำนักงานกลาง ศูนย์การขนส่งชายแดน จ.นครพนม วงเงิน 1,361 ล้านบาท คืบหน้า 13% เล็งส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนก่อสร้าง ก.ย.นี้ คาดเสร็จปลายปี 67 เปิดบริการปี 68 ดันเป็นศูนย์กลางด้านการขนส่ง เชื่อมไทย-ลาว-เวียดนาม-จีน.