ธุรกิจสนามกอล์ฟเริ่มฟื้น ต่างชาติกลับมาใช้บริการแล้ว 80%

ธุรกิจสนามกอล์ฟเมืองใหญ่เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ขณะที่นักกอล์ฟต่างชาติปีนี้กลับมาแล้ว 80% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด 19 มั่นใจปีหน้าต่างชาติจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ วอนรัฐเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการ ดึงนักท่องเที่ยวรายได้สูงเข้าประเทศ

21 พ.ค. 2566 – นาย กาญจน์ บุพศิริ ผู้จัดการทั่วไป สนามเลควิว รีสอร์ท แอนด์ กอล์ฟ คลับ ได้ให้ความเห็นถึงภาพรวมธุรกิจสนามกอล์ฟในปัจจุบัน ว่า ภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด 19 ธุรกิจสนามกอล์ฟก็ยังชะลอตัว ในขณะที่พฤติกรรมนักกอล์ฟไทยนิยมใช้บริการในโซนเดิมที่คุ้นเคย ไม่กระจายตัวออกมาเหมือนก่อนหน้านี้ ในส่วนสนามกอล์ฟในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพก็กลับเข้ามาสู่ภาวะปกติแล้ว แต่สนามกอล์ฟในต่างจังหวัดจะขึ้นอยู่กับฤดูการท่องเที่ยว เพราะพึงพานักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า ซึ่งนักกอล์ฟต่างชาติยังคงเข้ามาน้อยกว่าช่วงก่อนเกิดโควิด 19 โดยโซนสนามกอล์ฟในกรุงเทพ จะมีลูกค้าส่วนใหญ่ 80 – 90% เป็นคนไทย แต่สนามกอล์ฟในต่างจังหวัดโดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยว เช่น หัวหิน ชะอำ จะพึ่งพาลูกค้านักกอล์ฟชาวต่างชาติสูงถึง 70% แต่ก็มีชาวต่างชาติบางส่วนที่พักอาศัยในไทยที่เข้ามาเล่นกอล์ฟอย่างสม่ำเสมอจึงยังคงพึ่งพานักกอล์ฟกลุ่มนี้ได้ โดยในปัจจุบันนักกอล์ฟต่างชาติได้กลับมาแล้วประมาณ 80% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด 19 และคาดว่าในปีหน้าลูกค้าชาวต่างชาติจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ในส่วนของแนวทางการส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวกลางแจ้งโดยเฉพาะกอล์ฟ ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นั้นจะช่วยให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มีการใช้จ่ายต่อหัวที่สูงขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวจะไม่มองในเรื่องของราคาค่าบริการสนามกอล์ฟเพียงอย่างเดียว แต่จะให้ความสำคัญในด้านคุณภาพมากกว่า ทั้งด้านรูปแบบของสนาม และการให้บริการที่ดี ขณะเดียวกันประเทศไทยมีศักยภาพเหนือกว่าประเทศอื่นในโซนเอเชียน และยังคงเป็นอันดับ 1 ของอาเซียน เนื่องจากสนามกอล์ฟของไทยมีจำนวนมากถึง 800 แห่ง มากที่สุดในอาเซียนและมีความหลากหลายทั้งด้านของราคาตั้งแต่ราคาถูกไปจนถึง Luxury และสถานที่ซึ่งมีให้เลือกตั้งแต่สนามกอล์ฟติดทะเล บนภูเขา หรือบนพื้นราบ ต่างจากประเทศในอาเซียนที่มีความหลากหลายน้อยกว่ามาก จึงก็เป็นปัจจัยดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ดี

สำหรับภาพรวมธุรกิจสนามกอล์ฟของไทยในช่วงก่อนเกิดโควิด 19 มีอัตราการเติบโตที่ระดับ 3 – 4% ซึ่งเป็นการเติบโตที่ไม่มากนัก โดยรัฐบาลควรเข้ามาส่งเสริมในธุรกิจสนามกอล์ฟ ในด้านต่างๆ เช่นการปรับโครงสร้างภาษี ซึ่งจะช่วยในเรื่องการแข่งขันด้านราคาได้มากขึ้น เพราะสนามกอล์ฟถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวรายได้สูงให้เข้ามาท่องเที่ยวในไทย ที่มีการใช้จ่ายในสนามกอล์ฟไม่ต่ำกว่า 6,600 – 10,000 บาทต่อวัน และหากค่าบริการสนามกอล์ฟถูกลง จะช่วยดึงดูดให้คนไทยเข้ามาเล่นกอล์ฟมากขึ้น และหากมีผู้ที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น ราคาก็จะถูกลงไปอีก คนไทยก็จะสามารถเข้าถึงง่ายขึ้น เหมือนในยุโรปที่คนทั่วไปก็เข้ามาเล่นกอล์ฟได้ ซึ่งจะทำให้กีฬากอล์ฟเติบโตและคนไทยก็มีสุขภาพที่ดีขึ้น และยังสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับประเทศปีละหลายพันล้านบาท

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘ทิพานัน’ ชวนรักษาความสะอาดคูคลอง รับวันสิ่งแวดล้อมโลก

รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ชวนรักษาความสะอาดคูคลอง รับวันสิ่งแวดล้อมโลก  ช่วยลดมลพิษ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ชูผลงานพล.อ.ประยุทธ์ปรับภูมิทัศน์คูคลองตามพระราชดำริ ริเริ่มเรือไฟฟ้าคลองผดุงฯ

บจ. ไทย ชี้ยอดขายไตรมาส 1 เติบโต รับอานิสงส์จากการเปิดประเทศ

บริษัทจดทะเบียน (บจ.) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2566 โดยมียอดขายเติบโตดี จากการท่องเที่ยวและการกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น

‘ปธ.บลจ.บัวหลวง’ ห่วงหากเกิดม็อบรุนแรงอีก กระทบท่องเที่ยวไทยแน่

หากมีการปะทะกัน และรุนแรง การท่องเที่ยวซึ่งเป็นกำลังขับเคลื่อนเครื่องยนต์เดียวในขณะนี้ และกำลังเริ่มฟื้นตัว จะโดนผลกระทบจนต่างชาติระงับการมาเที่ยวไทย

'กรุงไทย' ชี้ท่องเที่ยวฟื้นเคาะจีดีพีปี 66 โต 3.4%

“Krungthai COMPASS” ยังมองจีดีพีไทยปี 2566 โตได้ 3.4% ชี้อานิสงส์ท่องเที่ยวฟื้นตัวแกร่ง ช่วยหนุนการบริโภคภาคเอกชน ลุ้นโตสูงถึง 2% ห่วงเศรษฐกิจโลกชะลอตัว-ดอกเบี้ยพุ่ง-เงินเฟ้อสูงสะเทือนการลงทุนภาคเอกชน ส่งออกยังทรุดตามทิศทางเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า

'บอย ปกรณ์' ชวนเที่ยวไต้หวัน ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ กทท.

ขึ้นตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของการท่องเที่ยวไต้หวันประจำประเทศไทยไปเรียบร้อย สำหรับพระเอกหนุ่มอารมณ์ดี บอย-ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ ที่ล่าสุดบินลัดฟ้าร่วมโปรโมทสถานที่ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมของไต้หวัน ผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุด “All is just right in Taiwan…ทุกอย่างใช่ โดนใจที่ไต้หวัน” ของสำนักงานการท่องเที่ยวไต้หวัน ประจำกรุงเทพฯ หรือ กทท.